ข่าว

ยิงเจ้าของร้านเพชรดับคารถหรู

ยิงเจ้าของร้านเพชรดับคารถหรู

23 ธ.ค. 2554

เจ้าของร้านค้า เพชร-พลอย ย่านสีลม ถูกยิงเสียชีวิตคารถเบนซ์สปอร์ตป้ายแดง ในลานจอดรถริม ถ.พระราม 3 ตรวจสอบพบซุก ยาไอซ์ - ยาบ้า กระสุนปืน 9 ม.ม. 250 นัด

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 23 ธันวาคม พ.ต.ท.สมพล พันธภิบาล พนักงานสอบสวน (สบ 3 ) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกยิงเสียชีวิตภายในรถสปอร์ตที่จอดอยู่ในลานดินริมถนนพระรามที่ 3 ใกล้กับวัดปริวาส แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.พ.ต.อ.อิทธิพล อัจริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน สว.สส.สน.บางโพงพาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. และสน.บางโพงพาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

          ที่เกิดเหตุเป็นที่ดินส่วนบุคคลที่กำลังปรับสภาพพื้นผิวเพื่อทำเป็นลานจอดรถ จากการตรวจสอบบริเวณลานด้านในพบรถเบนซ์สปอร์ตรุ่น อี 250 ซีจีไอ แบบเปิดประทุน สีขาว หลังคาผ้าใบสีแดง หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ณ 6002 กทม.จอดอยู่ในสภาพกระจกฝั่งซ้ายแตก ตรวจสอบภายในรถพบศพนายฮาหมัด มูฮัมเหม็ด หรือทอมมี่ อายุ 30 ปี สภาพศพนั่งอยู่เบาะข้าวคนขับศีรษะพิงขอบประตู สวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีแดง ใส่ถุงเท้าสีเทา มีผ้าขนหนูลายทางหลากสีคลุมใบหน้าอยู่ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณขมับขวา1 นัด ไหปลาร้าซ้าย 1 นัด และข้อมือขวา อีก 1 นัด เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง

          จากการตรวจสอบรอบรถคันดังกล่าวพบกระสุนขนาด.38 ตกอยู่บนพื้นดินบริเวณประตูฝั่งคันขับ 1 นัด ส่วนภายในรถพบกระสุนปืนขนาดเดียวจำนวน 2 นัด หัวกระสุน 2 หัว ปลอกกระสุนปืนจำนวน 4 ปลอก ตกอยู่ภายในรถ นอกจากนี้ยังพบยาเคตามีนชนิดน้ำ 1 ขวด ยาไอซ์ชนิดเกล็ด และยาไฟฟ์ไฟฟ์อีกจำนวนหนึ่งตกอยู่ในรถ พร้อมอุปกรณ์การเสพ 1อัน โทรศัพท์มือถือสภาพแตกเสียหาย 1 เครื่องตกอยู่ในรถ นอกจากนี้บริเวณกระโปรงหลังรถยังพบกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.จำนวน 5 กล่อง 250 นัด อยู่ในถุงพลาสติก และ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

          จากการสอบสวนนางกฤษณา ชะบัวรำ อายุ 40 ปี แม่บ้านที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวให้การว่า ลานดินที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของเถ้าแก่ตนที่ชื่ออ๊อด ทำงานอยู่ศุลกากร โดยเถ้าแก่เตรียมจะปรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นเต้นท์รถ เพื่อจะย้ายรถจากเต้นท์ที่อยู่ใกล้เคียงกันมาจอดที่จุดนี้แทน โดนก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำที่ผ่านมา สามีของตนก็กำลังใช้รถแบ็คโฮทำงาน และมีช่างอีกคนคอยตักเศษอิฐหักไปทิ้งอีกจุดหนึ่ง ส่วนตนก็อยู่ในห้องพัก จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น.เศษ ก็เห็นรถคันดังกล่าวขับเข้ามาจอดติดเครื่องเปิดไฟไว้ แต่ ตนก็ไม่กล้าเข้าไปถามอะไรเพราะคิดว่าเป็นรถของลูกหลานเถ้าแก่มาจอดไว้ จึงเข้านอนไปตามปกติ

          นางกฤษณา ให้การต่อว่า ต่อมาเวลาประมาณเที่ยงคืนก็ได้เสียงหมาเห่าดังมาก จนตนนอนไม่หลับ เลยลุกออกมาดูก็ยังเห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่เดิม จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น.ก็เห็นชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 20-30 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 180 ซม. ผมหยักศก สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วน ยืนถือถุงในหนึ่งอยู่ที่ประตูทางเข้าลานดิน ก่อนจะออกไป แต่ตนไม่ทราบว่า ชายคนดังกล่าวเดินออกมาจากรถเบนซ์คันเกิดเหตุหรือไม่ จนกระทั่งรุ่งเช้าก็ยังเห็นรถคันดังกล่าวยังจอดอยู่ที่เดิม จึงเดินเข้าไปดูเพราะคิดว่าคนขับน่าจะนอนหลับอยู่แต่ก็พบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

          ต่อมานางแสงระวี มูฮัมเหม็ด อายุ 24 ปี ภรรยาผู้ตาย เดินทางมาที่เกิดเหตุเมื่อเห็นศพผู้ตายก็ร่ำไห้แทบขาดใจ ก่อนจะให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า สามีทพธุรกิจเปิดร้านขายพลอยอยู่ย่านบางรัก โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อ 2-3วันก่อน ตนกับสามีมีปากเสียงกัน จนสามีออกจากบ้านไปโดยบอกว่าจะไปอยู่บ้านญาติย่านบางนา แต่ก็ยังโทรศัพท์คุยกับตนอยู่ทุกวัน โดยล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ตนก็โทรศัพท์ถามสามีว่าจะกลับบ้านหรือยัง ซึ่งสามีก็บอกว่าจะกลับ แต่หลังจากนั้นก็กายไปเลยจนกระทั่งมาทราบว่าสามีถูกยิงตายเมื่อเช้า

          นางแสงระวี ให้การด้วยว่า สำหรับสาเหตุที่สามีถูกยิงเสียชีวิตนั้นตนยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยว และไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักแต่ก่อนหน้านี้สามีเคยมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อ "ต๋อง" พักอยู่ย่านบางบัว โดยเจ้าตัวเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาโมโหใครก็ชอบชักปืนยิงเลย แถมยังติดยาไอซ์อีกด้วย แส่วนทรัพย์สินของสามีที่ตนเคยเห็นนั้นมีสร้อยคอทองคำที่เพิ่งซื้อมา นาฬิกาโรเล็กซ์ กระเป๋าสตางค์ที่ไม่เจออยู่ในรถแล้ว

          ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สอบถามไปยังลูกน้องของผู้ตายที่ร้านขายพลอย ก็ได้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงวานนี้ผู้ตายเพิ่งจะมาชวนลูกน้องไปกินข้าว แต่หลังจากมีโทรศัพท์เข้ามาผู้ตายก็เถียงกับคนที่โทรเข้ามาอย่างรุนแรง มีการด่ากันเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะหุนหันรีบขับรถออกไปทันที ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อช่วงเวลา 21.40 น.วานนี้ (22 ธ.ค.) มีคนโทรแจ้งเหตุเข้าไปที่หมายเลข 191 ว่ามีเหตุยิงกันในรถเบนซ์คันดังกล่าว ที่บริเวณหน้าโรงเรียนยานนาเวศวิทยา ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 8 จึงติดต่อไปยังพยานคนดังกล่าว ก็ได้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ พบเห็นรถผู้ตายจอดอยู่บริเวณหน้าโรงเรียน จากนั้นก็เห็น คนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมสูงสวมเสื้อยิดสีขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วสีไข่ไก่ ซึ่งลักษณะการแต่งกายนั้นตรงกับที่นางกฤษณา ผู้พบศพคนแรกเห็น เดินมาเปิดประตูฝั่งคนขับ ก่อนจะชักปืนยิงใส่รถผู้ตายไป 4-5 นัด ก่อนจะเดินไปส่งหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง จากนั้นคนร้ายเดินกลับมาขึ้นรถแล้วขับรถเบนซ์คันดังกล่าว ออกจากจุดเกิดเหตไป

          จากนั้นเวลาประมาณ13.30 น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.พ.ต.อ.อิทธิพล อัจริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน สว.สส.สน.บางโพงพาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่บริเวณที่มีพยานเห็นว่ามีเหตุยิงกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็พบว่าที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนยานนาเวศวิทยามีหัวกระสุนขนาด .38 จำนวน 1 หัวตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบจุดดังกล่าว

          พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดนั้นสามารถจับภาพเอาไว้ได้ว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น.เศษ พบรถของผู้ตายขับมาในซอยสาธุประดิษฐ์ 8 ก่อนจะกลับรถแล้วออกมาจอดที่ทางม้าลายหน้าโรงเรียนดังกล่าว จากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นคนขับรถ ได้เดินลงมาจากรถพร้อมกับหญิงคนหนึ่ง ก่อนจะเดินไปนั่งกินข้าวที่ร้านที่อยู่ติดกับโรงเรียน ส่วนผู้ตายไม่ได้ลงไปด้วย ได้แต่ลุกออกมาบิดขี้เกียจแล้วกลับไปนั่งในรถที่เบาะข้างคนขับ จากนั้นก็ไม่ทราบว่า คนร้ายออกจากร้านไปเมื่อไหร่ แต่ภาพจับได้ว่า คนร้ายได้นั่งรถจยย.ย้อนกลับมาจากด้านหลังรถ ก่อนจะลงจากรถจยย. แล้วเปิดประตูชักปืนยิงใส่ผู้ตาย จากนั้นก็เดินไปกลับไปที่ร้านข้าว ก่อนจะส่งผู้หญิงที่มาด้วยกันกลับ จากนั้นก็ย้อนกลับมาขับรถเบนซ์ของผู้ตายออกจากจุดเกิดเหตุไป

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อให้นางแสงระวี พร้อมญาติผู้ตายมาตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุเอาไว้ได้ โดยนางแสงระวี ยืนยันว่า มือปืนรายนี้คือนายต๋อง เพื่อนผู้ตายที่คบหากันมานาน ทางเจ้าหน้าที่จึงเตรียมกระจายกำลังกันลงพื้นที่ติดตามจับกุมนางต๋อง มือปืนมาดำเนินคดีต่อไป