
'เซียนพระ'ร้อง'ดีเอสไอ'ถูกหลอกจ่ายเช็คเด้ง
'เซียนพระ' โร่แจ้งความถูกหลอกจ่ายเช็คเด้งเช่าพระ เสียหายกว่า 300ล. สะเทือนวงการพระเครื่องลักษณะแชร์ลูกโซ่ นายพลตำรวจ-นักการเมืองใหญ่โดนด้วย ด้าน 'ธาริต' สั่งเรียกตัวการเข้าให้ปากคำ
21 ธ.ค.54 นายชัยโรจน์ กาญจนศิลาโรจน์ หรือ "เลิศ สุพรรณ" พร้อมตัวแทนชมรมเซียนพระจากห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วานได้เข้าร้องเรียน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอว่า ถูกนายพิสิษฐ์ นวพรลักษมี หรือ "เล็ก ตั้งเจริญ" กระทำการในลักษณะฉ้อโกงโดยได้สั่งเช่าพระเครื่องจากกลุ่มเซียนพระเครื่องกว่า 20 ราย โดยตะเวนเช่าพระในศูนย์พระเครื่องชื่อดังหลายแหล่ง และสั่งจ่ายค่าเช่าพระด้วยเช็คเงินสด แต่ปรากฏว่าหลังจากเซียนพระนำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคารพบว่า หลายบัญชีทางธนาคารได้สั่งปิดบัญชีไปแล้ว ซึ่งพฤติกรรมของนายพิสิษฐ์น่าจะเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน เพราะนายพิสิษฐ์ได้รับพระเครื่องไปจากผู้เสียหายทั้งหมดแล้ว โดยกล่าวอ้างชื่อบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือให้การรับรอง ซึ่งทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและมอบพระเครื่องให้ไป แต่ภายหลังจึงมาทราบว่านายพิสิษฐ์ได้นำพระเครื่องไปจำนำอีกต่อหนึ่ง เมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด อีกทั้งเช็คที่สั่งจ่ายก็ไม่สามารถนำไปขึ้นเงินสดได้ จึงเชื่อว่าน่าจะถูกฉ้อโกง จึงจำเป็นต้องมาร้องเรียนกับดีเอสไอ เพราะแต่ละรายได้รับความเสียหายมูลค่ารายละ 10 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 300 ล้านบาท
"มีผู้ใหญ่ในวงการพระเครื่องบางคนให้ความช่วยเหลือนายพิสิษฐ์ด้วยการมาช่วยเจรจาขอขยายเวลาการใช้หนี้ แต่ผู้ใหญ่คนเดียวกันนั้นกลับแอบไปไถ่ถอนพระเครื่องที่นายพิสิษฐ์นำไปจำนำมาไว้ในการครอบครองของตนเอง ในมูลค่าที่ต่ำกว่าราคาจริงถึง 20-40 เปอร์เซ็นต์ ลักษณะเหมือนกับการสบคบคิดกันฉ้อโกง จึงขอให้ดีเอสไอเข้าไปช่วยตรวจสอบ เพราะตอนนี้แต่ละคนอยากได้พระของตัวเองกลับคืน แม้ไม่ได้เงินคืนก็ขอพระเครื่องคืนเหมือนเดิม" นายชัยโรจน์ กล่าว
นายเกรียงไกร จิระรัตตระกูล หรือ”ป้อม สกลนคร”เซียนพระจากห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่างามวงศ์วาน กล่าวว่า บรรดาเซียนพระรู้ว่าถูกหลอกลวงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หลังเช็คเด้งและพูดกันปากต่อปาก ทำให้ทราบว่าแต่ละรายถูกนายพิสิษฐ์ออกเช็คให้รายละกว่า 10 ใบ ส่วนตนได้ให้เช่าพระหลวงปู่ทิมรุ่นเจริญพรทองคำ เบอร์ 3 มูลค่า 4.8 ล้านบาท โดยนายพิสิษฐ์จ่ายเช็คเงินสดให้แต่เช็คเด้ง จึงโทรศัพท์ไปสอบถามนายพิสิษฐ์ยังรับโทรศัพท์ตลอดแต่อ้างว่าไม่มีเงิน ตอนนี้ตนอยากได้พระคืน จึงเข้าร้องทุกข์กับดีเอสไอเนื่องจากมีความเสียหายหลายร้อยล้านบาท หลังจากนี้จะเข้าร้องทุกข์ที่กองปราบปรามอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากวงการพระเครื่องรายหนึ่ง กล่าวว่า การฉ้อโกงครั้งนี้มีนักการเมืองระดับชาติและนายตำรวจ ยศ พล.ต.อ.หลายคนที่ถูกนายพิสิษฐ์หลอกซื้อพระเครื่อง แต่นายตำรวจกลุ่มดังกล่าวสั่งกลุ่มเซียนพระที่มาร้องเรียนไว้ไม่ให้มีการเปิดเผยรายชื่อ เพราะหวั่นกระทบต่อชื่อเสียง นอกจากนี้นายพิสิษฐ์ยังได้ตะเวนหลอกเช่าพระเครื่องจากศูนย์พระเครื่องชื่อดังหลายแห่ง ทั้งในท่าพระจันทร์ มณเฑียรพลาซ่า และพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน
นายธาริต กล่าวว่า ไม่คิดว่าการหลอกลวงประชาชนจะยกระดับขึ้นเป็นการหลอกลวงเซียนพระเครื่อง จากเหตุผลที่ผู้ร้องเรียนนำเข้าแสดงน่าเชื่อว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยเฉพาะวิธีการออกเช็คชำระค่าเช่าพระ ซึ่งดูเหมือนเป็นการซื้อขายธรรมดา แต่เช็คกว่า 100 ฉบับนำไปขึ้นเงินไม่ได้ ที่สำคัญพฤติการณ์หลอกลวงและฉ้อโกงในลักษณะแชร์ลูกโซ่ดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลให้กับวงการพระเครื่อง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะมอบหมายให้สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 เรียกนายพิสิษฐ์และผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพราะคดีนี้ปรากฏตัวบุคคลชัดเจน