ข่าว

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ"รัฐเดินมาถูกทางแล้ว"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จัดเป็นกูรูการเมืองที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ สำหรับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อย่าง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาในวันนี้

ผ่านร้อนผ่านหนาวบนถนนการเมืองมานานหลายสิบปี แต่ชีวิตต้องผกผันกลายเป็นคน "ตกงาน" หลังจากเผชิญกับโทษทัณฑ์ทางการเมือง 5 ปีเต็ม จากกรณีพรรคไทยรักไทยถูกยุบวันนี้กระแสกดดันรัฐบาลอย่างหนัก

 วันนี้เกิดกระแสกดดันรัฐบาลอย่างหนักทั้งจากคนเสื้อแดง และเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ออกแรงบีบให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง 220 คน

 "สุวัจน์" เปิดอกต่อ "คม ชัด ลึก" ต่อประเด็นเหล่านี้ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว

 # ผ่านมาแล้ว 3 เดือน ประเมินรัฐบาลอย่างไร ?
 ภาพที่เด่นชัดที่สุดคือภาพการแก้ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น ถ้าจากนี้รัฐบาลสามารถใช้ความสามารถลดระดับความขัดแย้งทางการเมือง และเอาเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เราก็จะได้เห็นว่าเป็นยังไง ตอนนี้นายกฯ ได้เปรียบในเรื่องศรัทธาที่มีต่อตัวนายกฯ และการเมืองก็เริ่มเบาลง ถ้าแขนข้างหนึ่งลดความขัดแย้งทางการเมือง กับอีกข้างไปทำเรื่องเศรษฐกิจมันก็จะไปได้ดี
 
 # รัฐบาลจะฝ่าไปได้มั้ย เพราะเกมลงใต้ดินมีแนวโน้มแรงกว่าเดิม ?
 มันก็ขึ้นกับการทำความเข้าใจ หน้าที่ของรัฐบาลต้องพูดคุยบ่อยๆ กับคนที่เกี่ยวข้อง เช่น การตั้งกรรมการประสานงานต่างๆ อย่างน้อยก็เริ่มมีเวที เป็นนิมิตหมายที่ดี อย่างเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเมื่อก่อนไม่ชัดเจน เดี๋ยวนี้ก็เริ่มจริงจังแล้ว หรือเรื่องบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองก็เริ่มอยู่บนโต๊ะแล้ว จากที่มันเคยลอยอยู่ในอากาศ ก็ต้องถือว่ามันมีแนวทางของความปรองดองเกิดขึ้นแล้ว

 # แต่เหมือนตัวปัญหายังเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอยู่ รัฐบาลต้องส่งคนไปเจรจาเลยมั้ย ?
 ผมว่าอะไรที่ถ้าจะพูดคุยกันได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น ท่ามกลางความขัดแย้ง ใครจะคุยกับใครผมคิดว่าวันนี้เป็นเรื่องที่เราทำน้อยที่สุดในเรื่องของการพูดหรือเจรจา ผมไม่ทราบว่าในทางลึกได้มีการเจรจาหรือไม่ แต่ภาพที่ปรากฏไม่ได้มีภาพอย่างนั้น แต่จากนี้ไปถ้าจะมีการพูดคุยในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ผมว่าก็ไม่มีอะไรจะเสีย มีแต่ได้มากได้น้อย 

 # รัฐบาลควรจะมีธงมั้ยว่ายอมได้แค่ไหน ?
 ก็ผมดูท่าทีท่านนายกฯ ท่านก็ออกมาในแนวทางสมานฉันท์อยู่แล้ว พร้อมพูดคุย เพียงแต่ว่าการพูดคุยต้องมีสถานภาพบางอย่างว่าคุยได้แค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ได้เริ่มต้น

 # เห็นอย่างไรกับเรื่องนิรโทษกรรม ?
 ถ้าพูดในหลักการ ผมอยากให้พิจารณาดูว่า 1.ทำความผิดจริงมั้ย ถ้าคนไม่ทำความผิด แล้วต้องรับโทษเป็นธรรมมั้ย 2.การลงโทษที่ย้อนหลังเป็นธรรมมั้ย ผมว่า 2 เรื่องนี้เป็นหลัก แล้วค่อยมาดูว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นมันมีอะไรมั้ย ถ้าเห็นว่าผลกระทบก็มีแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างนี้ก็น่าพิจารณา ผมว่าถ้ามันมีหลัก มันก็จะตอบคำถามได้

 # บรรทัดฐานของ 111 (อดีต กก.บห.ทรท.) กับ 109 (อดีต กก.บห.พปช.-ชท.-มฌ.) ควรจะเหมือนกันมั้ย ?
 ผมว่ามันต่างกันตรงที่ 111 นั้นมีการลงโทษย้อนหลัง แต่กรณี 109 เป็นสภาพที่เกิดหลังจากเกิด 111 เป็นตัวอย่างมาแล้ว เพราะงั้นมันเป็นคนละเหตุการณ์ แต่จะได้ข้อสรุปอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ผมมองว่าหลายคนเป็นประโยชน์กับประเทศ โดยเฉพาะการเมืองเป็นเรื่องการผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ มันเหมือนผ่านสงครามมาเยอะ พอเดินเข้าสนามมันก็ได้กลิ่นแล้ว ต้องยอมรับว่าวันที่ประเทศมีปัญหาก็ต้องการคนเข้ามาช่วยกัน

 # มีความกังวลว่าพรรคคุณทักษิณจะกลับมาใหญ่เหมือนเดิม แล้วจะมีการเรียกร้องในคดีอาญาตามมา และคุณทักษิณก็จะหลุด
 ผมว่าต้องพูดกันให้ชัดว่ากำลังทำอะไร ถ้าจะบอกว่าคืนเฉพาะผลจากการยุบพรรค ก็อย่าให้มันคลุมเครือ เอากรณีไหน สังคมจะได้ไม่สับสน ถ้าไม่ชัดก็กังวล จะสับสน ถ้าชัดเลยว่าเอาเฉพาะความผิดทางการเมืองจากการยุบพรรคนะ มันก็จบ วันนี้ยังไม่ได้พูดกันชัดเจน แต่ถ้าชัดเจน ก็จะเข้าใจ

 # เชื่อมั่นว่านายกฯ จะเอาจริงๆ ไม่ใช่แค่โยนหินถามทาง ?
 คือผมว่าคนเป็นนายกฯ การที่เขาแสดงความเห็นในลักษณะแนวทางอย่างนี้สู่สาธารณะ ก็ยอมรับว่าคงตั้งใจในเรื่องนี้อยู่ เพราะคนเป็นนายกฯ แสดงความเห็นอะไรออกไปสังคมก็จะฟัง ผมเลยคิดว่าท่านก็อาจจะคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ลดความขัดแย้ง แต่ยังไงก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ 

 # ประเมินคุณทักษิณอย่างไร รุกมากกว่าเดิมมั้ย ?
 เท่าที่ดูก็คือปัญหาความขัดแย้งมันไม่จบ มันเหมือนหยุดต่อสู้กันชั่วคราว คงไปคิดกันใหม่ว่าจะไปสู้กันในแนวทางไหนต่อไป แต่ทุกคนก็น่าจะรู้นะว่าแค่หยุดต่อสู้กันชั่วคราวประชาชนก็มีความสุขแล้ว ประเทศก็ดีขึ้นแล้ว

 # สงครามครั้งนี้จะยืดเยื้อมั้ย ?
 คืออะไรที่อยู่ใต้ดิน อะไรที่อยู่ในป่า มันก็ยาวกว่าบนดิน ยาวกว่าในเมือง เพราะเวลาที่อยู่ใต้ดินคุณมองไม่เห็นหรอก ของที่ตกบนดิน กับตกอยู่ในหญ้ารกๆ มันหายากนะ ฉะนั้นปัญหาอะไรที่มันอยู่บนโต๊ะ อยู่ในเมือง มันจับต้องได้ง่าย ผมถึงบอกว่าท่านนายกฯ ก็มองปัญหาออก ถึงได้อยากให้ทุกอย่างแนวทางมาอยู่ในสมานฉันท์ มาอยู่ในสภา มันเป็นแนวทางที่ต้องการเอาของทุกอย่างมาอยู่ในที่เปิดเผย

 # แต่ปัญหาจะจบได้อย่างไร ในเมื่อคุณทักษิณยังไม่หยุด ?
 เราก็ต้องเล่นเกมของเราสิ เราอย่าไปเล่นเกมของคนอื่น อาจจะมีการค่อยๆ พูดคุยกับคนที่พอจะพูดได้ คุยกับคนที่อยู่ในประเทศเรา ถ้าทุกคนมาทางนี้หมด คนอื่นจะคิดแนวทางอื่นก็รู้ว่าไปไม่รอด ในที่สุดก็ต้องหันกลับมาเล่นเกมนี้เหมือนกันหมด

 # ถ้านักการเมืองที่ได้รับการนิรโทษกรรมกว่า 200 คนกลับมา การเมืองจะเป็นอย่างไร ?
 มันก็เกิดความเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะตัวละครเปลี่ยน เป้าหมายเปลี่ยน สมมติทั้ง 111+109 มาเล่นการเมืองใหม่ ผลของการเมืองมันต้องเกิดขึ้น พรรคการเมืองใหม่ต้องเกิด ผลการเลือกตั้ง ขั้วอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงก็ต้องเกิดแน่นอน ผมว่าพรรคการเมืองเกิดใหม่แน่นอน เมื่อเป็นอย่างนั้น ดุลอำนาจการเมืองจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน มีผู้นำทางการเมืองเกิดขึ้น มีความหลากหลายมากขึ้น สมการต่างๆ ที่เคยเห็นว่ามีแค่ 2-3 สูตรก็จะมีมากขึ้น มีทางเลือกมากขึ้น

 # แล้วจะมั่นใจได้แค่ไหนว่าปัญหาใต้ดินจะหมดไป เมื่อมีการนิรโทษกรรม ?
 ผมว่ามันไม่สามารถโยงได้ขนาดนั้น มันไม่ได้เป็นตัวแปรตรงๆ แต่ความขัดแย้งการเมืองจะมีบรรยากาศประนีประนอมกันมากขึ้น ทุกอย่างอยู่ในสภา อยู่ในที่เปิดเผยมากขึ้น แม้จะวุ่นวายก็เป็นความวุ่นวายในระบบการเมือง ซึ่งก็ดีกว่าความวุ่นวายในระบบอื่น บรรยากาศในสภาจะคึกคัก นอมินีไม่มีแล้ว จะคุยอะไรก็ในสภา ไม่ต้องแอบไปกดปุ่มกัน

 # มั่นใจมั้ยว่าปลดล็อกแล้วจะไม่กลับไปเป็นนอมินีอีก ?
 คุณต้องเข้าใจนะว่า ไม่ใช่หมายความว่าปลดล็อกปุ๊บแล้วต้องเข้าสู่การเมือง ผมว่า 2 ปีเขาก็อาจมีหนทางอื่นก็ได้ ไม่ใช่นิรโทษกรรมเพื่อให้คนพวกนี้กลับมาเล่นการเมือง แต่หมายความว่าถ้าพิจารณาแล้ว ไม่ได้ทำความผิด ไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อได้รับแล้ว เขาจะตัดสินอนาคตการเมืองอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา แต่ก็ต้องยอมรับอีกเหมือนกันว่าหลายคนเป็นคนมีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถทางการเมือง เมื่อได้รับการนิรโทษกรรมกลับมาเล่นการเมือง ประสบการณ์เขาก็เป็นประโยชน์

 # ถ้าเป็นคุณสุวัจน์เอง วางอนาคตหลังนิรโทษกรรมอย่างไร ?
 สมมติมีการนิรโทษ ผมก็ต้องคิดใหม่ ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้จะมาเป็น รมต.เลย แต่อย่างน้อยผมก็คิดว่าเมื่อนิรโทษกรรม ก็มีสถานะอีกแบบหนึ่ง แล้วก็ไปคิดต่อว่าจะทำยังไง ไม่ใช่แต่งตัว ใส่สูทผูกไทรอ ก็ต้องมาพิจารณาดู เพราะที่ผานมา เราเจอสภาพอะไรมา บางทีเราอาจไม่ต้องเข้ามาการเมือง อยู่ข้างนอกอาจเป็นประโยชน์มากกว่าก็ได้ เพราะเท่าที่คุยกับหลายคนก็เห็นอย่างนั้น เพียงแต่มีแค่ความคิดว่าตัวเองไม่ได้มีความผิดเลย

 # ถ้าเป็นคุณอภิสิทธิ์จะทำอย่างไรต่อ ?
 ผมคิดว่าวันนี้สถานการณ์มันต้องเห็นภาพความปรองดอง ต้องทำให้หยุดความแตกแยกให้ได้ ไม่งั้นเดินหน้าไปไม่ได้ ปัญหาเศรษฐกิจที่เราได้รับเหมือนกันหมดทั่วโลก หวัดก็เหมือนกันหมด คนไม่ไปเที่ยวก็เหมือนกันหมด แต่ที่เราไม่เหมือนกับเขาคือความแตกแยก เพราะงั้นอะไรที่ลดได้ต้องทำ

 # จะเป็นฝ่ายคุยเองเลยมั้ย (กับคุณทักษิณ) ?
 เราต้องหาแนวทางไม่ให้แตกแยก ส่วนวิธีการเป็นเรื่องแต่ละคนจะพิจารณา ผมคิดว่าวันนี้ความสำคัญของการแก้ปัญหาประเทศอยู่ตรงนี้ ความเป็นลีดเดอร์ชิพ ต้องหยุดความแตกแยกให้ได้ ปัญหาที่กำลังแก้อยู่ตอนนี้ผมว่ามาถูกทางแล้ว ที่มีการเจรจา การยอมที่จะคุยกัน
 
 ฐานิตะญาณ์ ธนพิศุทธิ์กุล

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ