ศุลกากรจับน้ำมันเถื่อน1แสนลิตร

           วันที่ 15 ธ.ค.54 นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นางอรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล รองอธิบดีด้านปราบปราม นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผอ.สำนักสืบสวนปราบปราม นายนิมิต แสงอำไพ ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเรือเหล็กบรรทุกน้ำมัน ภายในบรรทุกน้ำมันจำนวน 1 แสนลิตร มูลค่ารวม 10 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณห่างจากชายฝั่งมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ประมาณ 3 ไมล์
 
          นายสมชาย กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรมีนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงภาษีอากร จึงได้สั่งการให้ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผอ.สำนักสืบสวนปราบปราม นายนิมิต แสงอำไพ ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 เข้มงวดเพื่อสกัดกั้นประเภทสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีอากรเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 14 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีเรือบรรทุกน้ำมันลักลอบขนน้ำมันเข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณชายฝั่งมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้นำกำลังลงเรือศุลกากร 1001 เข้าสกัดตรวจค้นจนสามารถจับกุมเรือเหล็กบรรทุกน้ำมันไม่ทราบชื่อ ความยาว 27 เมตร ความกว้าง 5 เมตร ความลึก 3 เมตร ซึ่งเรือดังกล่าวมีนายเดชา เกษมปุระ อายุ 34 ปีเป็นผู้ควบคุมเรือ พร้อมลูกเรือ 2 คน คือนายพัศกร รุ่งเรือง อายุ 29 ปี และนายอภินันท์ แดงประเสริฐ อายุ 35 ปี ได้ที่บริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าเรือเหล็กดังกล่าวบรรทุกน้ำมันดิบลักลอบจำนวน 1 แสนลิตร มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท มูลค่าของกลางรวมทั้งเรือและน้ำมัน 10 ล้านบาท
 
          ทางด้านนายนิมิต เปิดเผยว่า น้ำมันดังกล่าวนั้นเป็นน้ำมันดิบที่มีคุณภาพสูง เมื่อนำมาสกัดจะสามารถนำไปใช้ได้ในประเภทน้ำมันหลายประเภททั้งน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมันโซฮอล์ อย่างไรก็ตามจากแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลมานั้น หากมีการน้ำเข้าน้ำมันดิบเป็นผลสำเร็จจะนำไปใช้ประกอบในธุรกิจภาคอุตสาหกรรมเป็นประเภทเชื้อเพลิงน้ำมันเตา
 
          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักลอบสินค้าประเภทน้ำมันดิบ หรือรับซื้อสินค้า เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านศุลกากรถูกต้องอันเป็นความผิดตามมาตรา 27 ,27 ทวิ ตามพรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16,17 พรบ.ศุลกากร(ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 ก่อนจะควบคุมตัวลูกเรือดังกล่าวพร้อมเรือของกลางและน้ำมันดิบ ส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป