ข่าว

รับจ้างสั่งสอน'กิ๊ก'แต่'เสี่ยตังฮั้ว'หวิดดับ

รับจ้างสั่งสอน'กิ๊ก'แต่'เสี่ยตังฮั้ว'หวิดดับ

08 ธ.ค. 2554

รับจ้างสั่งสอน'กิ๊ก'แต่'เสี่ยตังฮั้ว'หวิดดับ : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ

               จากการติดตามแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ซึ่งใช้อาวุธปืนพยายามฆ่า "โสภณกิตต์ จีรภากร" ประธานศูนย์การค้าตังฮั้วค้าข้าว นักธุรกิจค้าข้าวชื่อดังวัย 62 ปีแห่งเมืองสุพรรณบุรี ในที่สุดชุดสืบสวนก็สามารถรวบตัว 2 มือปืนที่ลงมือก่อเหตุและผู้จ้างวานได้แล้ว?!!
   
               ราว 8 โมงเช้าของวันที่ 28 พฤศจิกายน นายโสภณกิตต์ หรือ เสี่ยตังฮั้ว ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไซโคลนแอล 200 ขับตามประกบยิงบริเวณหน้าศูนย์การค้าตังฮั้วค้าข้าว ริมถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท ใกล้ห้างแม็คโคร หมู่ 4 ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี แต่กระสุนพลาดเป้าทำให้เสี่ยตังฮั้วรอดตายราวปาฏิหาริย์
   
               หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนตั้งปมเหตุที่อาจเป็นชนวนในการสังหารตามคำให้การของเสี่ยตังฮั้ว แม้อ้างว่าไม่เคยมีปัญหากับใคร มีเพียงปัญหาการฟ้องร้องกับธนาคาร คดีฉ้อโกงทรัพย์ 10 ล้านบาท แต่ชุดสืบสวนยังตั้งประเด็นชู้สาวเพิ่มเข้ามา
   
                พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 สั่งการให้ พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วีระ บุตรโพธิ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล รองผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ ผกก.สส.ภ.จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และชุดสืบสวน เร่งแกะรอยตำหนิรูปพรรณคนร้ายและรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ
   
               หลักฐานจากกล้องวงจรปิดทำให้ทราบถึงลักษณะพาหนะของคนร้ายที่ติดตามรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียนป้ายแดงของเสี่ยตังฮั้ว และระหว่างที่ชุดสืบสวนขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการ ห้างร้าน และบริษัทเอกชน ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางของคนร้าย ปรากฏว่าระหว่างที่ชุดสืบสวนเดินอยู่ริมถนน มีรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไซโคลนแอล 200 สีน้ำเงิน  ทะเบียน บต 6294 สุพรรณบุรี ขับผ่านมา โดยรถยนต์คันดังกล่าวตำหนิรูปพรรณทั้งหมดค่อนข้างตรงกับยานพาพนะของคนร้าย
   
                ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวพบว่าเป็นของผู้ชายคนหนึ่ง (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติบุคคลพบว่าผู้ชายคนนี้มีบุตรชายที่ค่อนข้างเกเรในพื้นที่ จึงตัดสินใจเชิญตัว นายธวิช จันทร์หอม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1883/1 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มาสอบสวน พร้อมทั้งเชิญตัว นายธงทัย จันทร์หอม อายุ 25 ปี พี่ชายของนายธวัช มาให้ปากคำเพิ่มเติม
   
               ในที่สุด ธงทัย ยอมปริปากรับสารภาพอ้างว่าเป็นผู้ได้รับการว่าจ้างจาก นายสมพงษ์ ศรีเพ็ง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 20 ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ในราคา 3.5 หมื่นบาทเพื่อฆ่าเสี่ยตังฮั้ว
   
               หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายศาลไปจับกุมตัว นายสมพงษ์  รับสารภาพอ้างว่า น้องชายของภรรยาเสี่ยตังฮั้วให้มาดูแลพี่สาวที่อยู่โรงสีข้าว โดยเริ่มทำงานเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อีกทั้งให้การซัดทอดอ้างว่าภรรยาของเสี่ยตังฮั้ว จ้างวานให้ติดต่อหาบุคคลทำร้ายร่างกายเพื่อนสาวของเสี่ยตังฮั้ว หากเสี่ยตังฮั้วเข้ามายุ่งก็ให้จัดการด้วย
   
               "มูลเหตุจูงใจครั้งนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่สามารถเปิดเผยได้ จนถึงขณะนี้ยังไม่เชื่อคำรับสารภาพบางส่วนเช่นประเด็นให้ไปทำร้ายร่างกายเพื่อนสาวของเสี่ยตังฮั้ว และเสี่ยตังฮั้ว เพื่อสั่งสอน แต่เหตุใดผู้ถูกกล่าวหาหมายเอาชีวิตเสี่ยตังฮั้วโดยใช้อาวุธปืนอีกทั้งมีการสะกดรอย ประเด็นทั้งหมดนี้ต้องสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม" พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล รองผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวและเผยความคืบหน้าอีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและสำนวนการสอบสวนเพื่อขออำนาจศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องจากคำซัดทอดของผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกจับเพิ่มเติมอีก