
ม.ฟ้าลากูนเล็งยื่นศาลปค.เปิดคลอง2
ปธ.ชุมชนนิติบุคคลฟ้าล้ากูนสวดยับศปภ.-กทม.ยึกยักเปิดประตูระบายน้ำทำประชาชนด้านเหนือจมน้ำนาน ห่วงระบายน้ำออกเมืองเอกทำคลองรังสิตหนุนสูงอีก
30พ.ย.2554 ว่าที่ร.ต.ดาวฤทธิ์ ทองนิ่ม ประธานนิติบุคคลฟ้าลากูน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำภายในหมู่บ้านอยู่ที่ประมาณ 70 ซม. ซึ่งน้ำก็ลดจากเดิมประมาณ 4 ซม. หลังจากศปภ.ถอนบิ๊กแบ็ค และแบริเออร์บริเวณสนามบินดอนเมืองออกบางส่วน ซึ่งถือว่าน้อยมากและน้ำก็ยังคงท่วมขังอยู่ปริมาณมาก เนื่องจากประตูระบายน้ำคลอง 2 ที่อยู่ด้านหลังหมู่บ้านยังคงปิดไว้อยู่ และยังไม่มีใครทราบว่าศปภ.และกทม.จะเปิดเมื่อใด เพราะทั้ง 2 ฝ่ายเล่นการเมืองใส่กัน และเถียงกันว่าจะเปิดหรือปิดประตูน้ำหรือไม่ ซึ่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่มีใครได้ประโยชน์
“ ก่อนหน้านี้เราได้กำหนดไว้ว่า หากวันที่ 30 พ.ย. ยังไม่มีการรื้อบิ๊กแบ็คออก เราจะไปรื้อบิ๊กแบ็คเอง ศปภ.จึงรีบไปรื้อให้ในวันที่ 29 พ.ย.ก่อนเรา 1 วัน และไม่ได้ให้ความชัดเจนกับเราเลยว่าอะไรจะดีขึ้นบ้าง ถามว่าศปภ.ตั้งบิ๊กแบ๊คทิ้งไว้นาน 3 อาทิตย์ โดยไม่สนใจคนด้านเหนือบิ๊กแบ๊คด้วยระยะเวลาขนาดนี้ได้อย่างไร อย่างที่พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ข้าราชการการเมืองสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าเขาไม่เปิดแล้วศปภ.จะสนใจหรือไม่ ” ประธานนิติบุคคลฟ้าลากูนกล่าว
ว่าที่ร.ต.ดาวฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่แล้ว นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะตัวแทนศปภ.กลับอนุญาตให้หมู่บ้านเมืองเอก ที่มีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ และมีน้ำสูงกว่า 3 เมตร สูบน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งจัดหาเครื่องสูบน้ำจำนวนมากสูบน้ำเข้าสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ทำให้น้ำเต็มคลองอีกครั้ง แทนที่จะสูบลงคลองเปรมประชากรที่อยู่ใกล้กว่า แต่หมู่บ้านอื่นที่อยู่ริมแนวคลองรังสิต อย่างหมู่บ้านฟ้าลากูน กลับไม่มีใครในรัฐบาลมาสนใจ จึงอยากจะถามไปยังศปภ.ว่าทำไมจึงไม่ปฏิบัติกับทุกหมู่บ้านอย่างเท่าเทียมกัน
ว่าที่ร.ต.ดาวฤทธิ์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯปทุมธานีเคยบอกไว้ว่าวันที่ 1 ธ.ค.น้ำทะเลจะลดต่ำลง ทำให้หมู่บ้านฟ้าลากูนแห้ง แต่มาวันนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น ผู้ว่าฯจึงบอกอีกว่าขอให้รอถึงวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งก็เหมือนกับซื้อเวลาไปเรื่อย ๆ หลังจากนี้ ดังนั้นตนจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวให้ศปภ.และกทม.ดำเนินการเปิดประตูระบายน้ำคลอง 2 เพราะเป็นช่องทางที่สามารถระบายน้ำลงได้ทันที ซึ่งจะไม่กระทบกับพื้นที่กรุงเทพฯแน่นอน เพราะศักยภาพการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้นดีมาก ไม่มีน้ำเหนือมาเติมแล้ว และพื้นที่ที่อยู่ใต้คลอง 2 ก็แห้งทั้งหมดแล้ว