'อุเทน'จี้กทม.สูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์-โยง | คมชัดลึก

                  29พ.ย.2554  นายอุเทน ชาติภิญโญ ที่ปรึกษาคณะทำงานน้ำของนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานกรรมการผันน้ำลงทะเลด้านตะวันออก ได้ทำหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องตรวจสภาพฝั่งคลองธนบุรี ซึ่งได้ตรวจสอบสถานีสูบน้ำคลองมอญ และสถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ ในวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยรุบว่า สถานีสูบน้ำคลองมอญ น้ำในคลองมีระดับสูงเกินกว่าที่ควร เนื่องจากมีขยะมูลฝอยจำนวนมากกีดกันการไหลของน้ำ เป็นอุปสรรคแก่เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการเปิดเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ทั้งหมดได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้กระแสน้ำไหลผ่านได้ช้า

                 นอกจากนี้นายอุเทนยังระบุอีกว่า ส่วนสถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ ปรากฏว่า น้ำในคลองมีระดับต่ำ ทำให้คลองมีศักยภาพพอที่จะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกจำนวนมาก แต่ก็ยังมีขยะมูลฝอยจำนวนมากกีดกันการไหลของน้ำเช่นกัน ส่วนเครื่องสูบน้ำขนาด 2 คิว ต่อวินาที จำนวน 5 เครื่อง ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ประตูระบายน้ำคลองบางกอกใหญ่ แต่ใช้การไม่ได้นั้น ตนได้สั่งให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำประตูระบายน้ำให้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งที่สถานีสูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์และสถานีสูบน้ำคลองโยง เพื่อให้สามารถใช้เครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ แต่ปรากฏว่าระยะเวลาได้ล่วงเลยมากว่า 10 วันแล้วยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใด ตนจึงยื่นข้อเสนอ กทม. ได้แก่ 1.ขอให้ กทม.จัดกำลังเจ้าหน้าที่เก็บขยะ และเพิ่มกำลังการสูบน้ำ ทั้ง 2 สถานี เพื่อเร่งระบายน้ำ ซึ่งขณะนี้น้ำในเขตตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่แห้งแล้ว ที่จะส่งผลให้น้ำที่ท่วมบริเวณเขตภาษีเจริญ เขตบางแค และเขตหนองแขมลดลงได้เร็วขึ้น 2. เร่งรัดให้ กทม.ประสานกรมชลประทาน นำเครื่องสูบน้ำ 2 คิว/วินาที จำนวน 5 เครื่อง ไปติดตั้งที่สถานีสูบน้ำคลองมหาสวัสดิ์และสถานีสูบน้ำคลองโยง เพื่อช่วยระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนให้มากขึ้น

                 ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน นายอุเทนได้สอบถามไปที่ผู้คุมสถานีระบายน้ำคลองบางกอกใหญ่ ได้รับรายงานว่ายังไม่มีการดำเนินการใดๆกับเครื่องสูบน้ำจำนวน 5 เครื่องนั้น


แกนนำแดงปทุมฯยันต้องให้ผู้ว่า กทม.เจรจาเพียงคนเดียว

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 200 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านจากจังหวัดปทุมธานี โดยมี พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี นายศรรัก มาลัยทอง ดีเจวิทยุคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ซึ่งแกนนำเดินทางมากดดัน กทม.ให้เปิด ประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ จาก 80 ซ.ม. เพิ่มเป็น 1.50 เมตร ไปเมื่อคืนวันที่ 28 พ.ย. 54 ที่ผ่านมา
              
               นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่าตนเองและแกนนำที่นำชาวบ้านมาเปิด ประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ นั้นเนื่องจากชาวบ้านในจังหวัดปทุมธานี เดือดร้อนจากน้ำท่วมขังมาเป็นเวลานานนับเดือนในขณะที่บางพื้นที่ของ กทม.ในแต่ละประตูระบายน้ำในเขต กทม.น้ำแห้งขอดประกอบกับทางรัฐบาลได้มีการสั่งการให้เปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ จาก 80 ซ.ม. เพิ่มเป็น 1.50 เมตร แต่ทว่าทาง กทม.ได้มีการขัดคำสั่งของรัฐบาลไม่ยอมให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นทางเราจึงต้องมาทำการเปิดกันเอง
   
               ขณะที่ชาวบ้านทำการเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ เพิ่มนั้นปรากฏว่าทาง กทม.ได้มีการตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมทั้งได้มีการพยายามร่วมรวมคนของ กทม.มาพเชิญหน้ากับทางกลุ่มชาวบ้านจังหวัดปทุมธานี ดังนั้นตนเองและแกนนำจึงได้มีการเฝ้าระวังไม่ให้ทาง กทม.มาลดประตูระบายน้ำอีก ซึ่งตนเองไม่เข้าใจว่าทำไมทาง กทม.ไม่ยอมที่จะให้เปิดประตูน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมหากว่าจะให้เปิดอยู่ที่ระดับเดิมประมาณ 80 ซ.ม.ซึ่งความเป็นจริงแล้วน้ำที่จะระบายไปนั้นมีเพียงแค่ประมาณ 60 ซ.ม.อีกที่เหลือไม่สามารถระบายออกได้เนื่องจากขยะต่างๆกีดขวางทางน้ำไหล่อยู่
   
               นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี กล่าวต่อว่าจากนั้นเมื่อเวลา 13.00.น.วันที่ 29 พ.ย. 54 พล.ต.ต. วินัย ทองสอง รองผู้บังคับการตำรวจสอบสวนกลาง ทำหน้าที่รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินท่างมาเพื่อเจรจากับทางแกนนำของชาวบ้าน ซึ่งทางพล.ต.ต. วินัย ทองสอง ได้มีการเจรจาและขอร้องทางแกนนำว่าอย่าทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และให้ทางแกนนำที่ดูแลชาวบ้านให้ดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งแกนนำชาวบ้านก็ตกลงแต่อย่างไรก็ดีหากจะให้กลุ่มชาวบ้านทำการสลายตัวนั้นทางแกนนำและชาวบ้านยืนข้อเสนอไปว่าจะต้องให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพียงคนเดียวและตัวแทนจาก ศปภ.เท่านั้นจึงจะสลายตัว



กปน.เร่งกู้คลองประปาคาดเสร็จสัปดาห์นี้



               นายวิสิทธิ์ วงศ์วิวัฒน์ รองผู้ว่าการ (ผลิตและส่งน้ำ) การประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า จากอุทกภัยครั้งใหญ่ในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ กปน. ระดับหนึ่ง แม้จะมีการป้องกันไว้แล้ว แต่น้ำหลากมาจากทุกทิศทุกทางเหนือความคาดหมาย ทำให้ต้องปรับแผนรับมือกันอยู่ตลอดเวลา และด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งพนักงานทุกคนทำให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาได้ นอกจากนี้ ยังได้รับความอนุเคราะห์จากภาคเอกชนหลายหน่วยงาน มาติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มออกซิเจนในน้ำ ทำให้ กปน. สามารถผลิตน้ำประปาได้ตามเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มองค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงมือประชาชนด้วยคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอและทั่วถึง

               นายวิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับแนวคลองประปาตั้งแต่สถานีสูบน้ำดิบสำแลถึงเหนือคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ที่ยังมีน้ำท่วมขังจากน้ำหลากอยู่นั้น ขณะนี้น้ำเริ่มลดระดับลงแล้ว ซึ่งกปน. จะเร่งกู้แนวคลองประปาต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาน้ำดิบในคลองประปาจะมีคุณภาพด้อยลง แต่ กปน.ได้พยายามหาทางแก้ไขและเพิ่มกรรมวิธีต่างๆ ทั้งเพิ่มออกซิเจนและสารเคมี แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นถึงวันละ 4 ล้านบาทก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อให้น้ำประปาที่ผลิตสะอาด สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย และจากการตรวจวัดค่าออกซิเจนละลายในน้ำดิบ หรือ DO ก่อนส่งเข้าระบบผลิต พบว่า มีค่าเฉลี่ยราว 3.5-4.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง



สหรัฐส่งกำลังพลพร้อมอุปกรณ์ช่วยกู้สถานการณ์น้ำท่วมสนามบินดอนเมือง

               นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบกรณีรัฐบาลสหรัฐฯ จัดส่งกำลังพลเข้ามาช่วยกู้พื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเบื้องต้นจะเข้าไปดำเนินการกอบกู้พื้นที่สนามบินดอนเมือง ช่วงวันที่ 29 พ.ย.-4 ธ.ค.54 หรือจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น ซึ่งทางสหรัฐส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 30 คน เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง 1 ลำ เครื่องสูบน้ำ 6 เครื่อง รวมทั้งอุปกรณ์ในการกู้ภัยอีกจำนวนหนึ่ง



ข่าวดี!ตกงานน้ำท่วม-มีงานว่าง 1.5 พันอัตรา


               นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผอ.เขตปทุมวันแจ้งว่า สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 4 ดูแลครอบคลุมพื้นที่เขตปทุมวัน สาทร บางรัก บางคอแหลม และยานนาวา ร่วมกับสถาบันส่งเสริมภูมิปัญญาเพื่อสังคม กำหนดจัดกิจกรรมนัดพบแรงงานวันที่ 2-5 ธ.ค. 54 ตั้งแต่ 09.00-18.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 3 บริเวณชั้น 1 หน้าลิฟท์แก้ว ในชื่องาน “มหกรรมภูมิปัญญาฝ่าวิกฤตอุทกภัย ด้วยน้ำใจ สู่ทางสายใหม่ในวิถีพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” เพื่อช่วยเหลือผู้ว่างงานและแรงงานผู้ประสบปัญหาอุทกภัยได้มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงชีพ ช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว โดยมีนายจ้างเข้าร่วมงานในครั้งนี้กว่า 10 บริษัท และมีตำแหน่งว่างกว่า 1,500 อัตรา กิจกรรมในงานประกอบด้วย การลงทะเบียนสมัครงาน บริการข้อมูลอาชีพอิสระ แนะแนวอาชีพ รับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ฯลฯ

               ทั้งนี้ ผู้สนใจสมัครให้เตรียมหลักฐาน ได้แก่ รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว  สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หลักฐานการศึกษา และหลักฐานทางทหาร หรือใบผ่านงาน (ถ้ามี)  ยื่นสมัครด้วยตนเองตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 0-2211-8167