พระเทพฯทรงห่วงศิลปินแห่งชาติน้ำท่วม | คมชัดลึก

          วันที่ 22 พฤศจิกายน นางปริศนาพงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมบ้านครูสำราญ เกิดผล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(ดนตรีไทย) พื้นที่อ.บางบาลและบ้านครูพินิจ ฉายสุวรรณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(ดนตรีไทย) อ.มหาราชจ.พระนครศรีอยุธยาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย

          นายสำราญซึ่งบ้านถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม จนถึงปัจจุบัน กล่าวว่า ในยามภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยศิลปินแห่งชาติ มีรับสั่งถามถึงความช่วยเหลือต่างๆ โดยเฉพาะความเป็นอยู่ในช่วงน้ำท่วม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ไม่เพียงในช่วงน้ำท่วมเท่านั้น ในภาวะปกติก็ทรงห่วงใยศิลปินแห่งชาติอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน ยังทรงห่วงใยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมและในศูนย์พักพิงต่างๆ ซึ่งตนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเสมอ

          สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นห่วงมาก ทรงให้ราชเลขาฯ สอบถามความเป็นอยู่ของผมตลอดเวลา รับสั่งว่าจะให้ช่วยอะไรให้บอกมา ท่านไม่ได้ห่วงใยเฉพาะช่วงน้ำท่วม เวลาเจ็บไข้ก็ให้หมอสอบถามอาการมาโดยตลอด ยังความปลาบปลื้มให้แก่ผมและครอบครัวในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก ศิลปินแห่งชาติกล่าว

          นางปริศนากล่าวเสริมว่า ได้มอบเงินช่วยเหลือตามระเบียบของกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม แก่ครูสำราญ จำนวน 5 หมื่นบาท ส่วนครูพินิจได้มอบให้จำนวน 3.5 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีศิลปินแห่งชาติที่ได้รับผลกระทบและยังอยู่ที่บ้านจำนวน 14 รายส่วนที่ยังไม่กลับเข้าบ้าน สวธ.ก็จะให้ความช่วยเหลือต่อไป


เสด็จฯเปิดสะพานเทพสุดาจ.กาฬสินธุ์



          สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานเทพสุดา (สะพานข้ามอ่างเก็บน้ำลำปาว) อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รองปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการและประชาชนเฝ้ารับเสด็จ

          สะพานเทพสุดาหมายถึงสะพานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นโครงข่ายเชื่อมทางคมนาคมขนส่งจาก จ.หนองคาย จ.อุดรธานี ผ่าน จ.กาฬสินธุ์ ไปยัง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นประตูสู่อินโดจีน หรืออีสต์เวสต์อีโคโนมิก คอริดอร์ หรือเส้นทางกาฬสินธุ์-มุกดาหาร-สปป.ลาวและเวียดนาม ช่วยร่นระยะทางได้กว่า 100 กิโลเมตร รวมถึงการขนส่งสินค้าทางการเกษตรเข้าสู่ตัวจังหวัด โดยเฉพาะ อ.หนองกุงศรี อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ช่วยร่นระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร และหากเดินทางจาก จ.กาฬสินธุ์ ไป จ.อุดรธานี ช่วยร่นระยะทางได้ถึง 45 กิโลเมตร

          นอกจากนี้สะพานเทพสุดาถือว่าเป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย จากบนสะพานสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำปาว สนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ทำให้ประชาชนมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับ อ.สหัสขันธ์ มีพิพิธภัณฑ์สิรินธร (ภูกุ้มข้าว) ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบชิ้นส่วนกระดูกไดโนเสาร์ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้ มีการออกแบบประติมากรรมรูปหล่อไดโนเสาร์ติดตั้งบริเวณราวสะพานทั้ง 2 ข้าง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ จ.กาฬสินธุ์ อีกด้วย

          สะพานเทพสุดามีจุดเริ่มต้นที่ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ มีจุดสิ้นสุดที่ ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2 ช่องจราจร ความยาวสะพาน 2,040 เมตร ถนนต่อเชื่อมโครงการผิวจราจรกว้าง 7 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร ความยาว 1,439 เมตร เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ใช้เวลาก่อสร้าง 1,492 วัน งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 498,850,000 บาท