
พิจารณาคดี3ผู้นำสำคัญเขมรแดง
สมาชิกเขมรแดงคนสำคัญ ถูกนำตัวเข้ารับการพิจารณาคดีวันนี้ ขณะที่ ญาติเหยื่อเขมรแดงทำพิธีรำลึกถึงผู้ล่วงลับ
21 พ.ย.54 ผู้นำระดับสูงสุดของเขมรแดง 3 คน ที่ถูกกล่าวหาว่า บงการให้เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ " ทุ่งสังหาร " (killing fields) จะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันนี้ ในขณะที่ศาลพิจารณาคดีเขมรแดงที่ได้รับการอุปถัมภ์จากสหประชาชาติ จะเริ่มการพิจารณาคดีที่รอมานานกว่า 3 ทศวรรษ หลังจากพวกเขาก่อกรรมทำเข็ญกับเพื่อนร่วมชาติที่ได้ชื่อว่าเลวร้ายที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20
บรรดาผู้ที่รอดชีวิตจากยุคเขมรแดง ต่างพากันไปทำพิธีรำลึกถึงผู้ล่วงลับที่ด้านนอกกรุงพนมเปญเมื่อวันอาทิตย์ ญาติเหยื่อพากันร่ำไห้ขณะสวดมนตร์อยู่ที่ด้านหน้าตู้กระจกบรรจุกระโหลกศีรษะที่อนุสรณ์สถานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจืองเอก ที่สร้างขึ้นในทุ่งนาที่ยังมีกระดูกของเหยื่อโผล่พ้นจากพื้นดินให้เห็น เพื่อเป็นการเตือนความทรงจำสมัยที่เขมรแดงใช้พื้นที่แห่งนี้ประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก
การจัดพิธีรำลึก ได้มีขึ้นเพื่อให้ชาวกัมพูชาได้มีโอกาสเข้าร่วมแสงความอาวรณ์และรำลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก ก่อนที่การพิจารณาคดีสมาชิกเขมรแดงคนสำคัญ ที่ยังมีชีวิตอยู่ และอยู่ในวัยกว่า 80 ซึ่งถูกตั้งข้อหาร้ายแรง รวมทั้งก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ , ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และทรมาน ในช่วงที่เขมรแดงเรืองอำนาจ ระหว่างปี 2518-2519
มีผู้เสียชีวิตไปประมาณ 1 ล้าน 7 แสนคน จากการถูกประหารชีวิต , อดอยาก , เหนื่อยล้า หรือขาดการรักษาทางการแพทย์ เพราะนโยบายนารวมของเขมรแดง ที่ต้องการเปลี่ยนกัมพูชาทั้งประเทศให้กลายเป็นค่ายบังคับใช้แรงงาน และสร้างสรรสังคมเกษตรกรรมล้วนแบบสังคมนิยม ปัญญาชนเจ้าของธุรกิจและใครก็ตามที่ถูกพิจารณาว่าเป็นศัตรูจะถูกจำคุก ทรมานและมักถูกประหารชีวิต
นายฮวย วันนัค โฆษกของศาลพิจารณาคดีเขมรแดง ได้เรียกกระบวนการพิจารณาคดีในวันนี้ว่า เป็นการพิจารณาคดีที่สำคัญที่สุดในโลก เนื่องจากทั้งหมดเป็นสมาชิกระดับสูง ได้แก่ นายนวนเจีย วัย 85 ปี ซึ่งเป็นผู้นำด้านอุดมการณ์ของเขมรแดง และผู้นำหมายเลข 2 รองจากนายพอล พต คนที่สองคือนายเขียว สัมพันธ์ วัย 80 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่สามคือ นายเอียง สารี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ วัย 86 ปี ส่วนนางเอียง ธีริธ วัย 79 ปี อดีตรัฐมนตรีกิจการสังคม ภรรยาของนายเอียง สารี ที่ถูกศาลประกาศว่าไม่พร้อมจะเข้ารับฟังการพิจารณาคดี เนื่องจากสภาพร่างกายไม่พร้อม เพราะป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์
นายพอล พต ผู้นำหมายเลข 1 ของเขมรแดง ซึ่งมีชื่อจริงว่า สโลต สาร เสียชีวิตเมื่อปี 2541 ในป่าลึกของกัมพูชา ขณะตกเป็นนักโทษของพวกเดียวกัน ตอนที่เขาเป็นผู้นำเขมรแดง เขาได้นำประเทศเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า ปีแห่งความมืดมิด (Year of Zero) ทำให้ภายนอกรับรู้ความเป็นไปของกัมพูชาน้อยมาก จากนั้นได้เริ่มขับไล่ผู้คนออกจากกรุงพนมเปญ และเมืองใหญ่ต่าง ๆ ไปสู่ " การผลิต " โดยมองว่า เมื่อในเมืองไม่มีอาหารเหลืออยู่ และไม่สามารถพึ่งพาการช่วยเหลือจากภายนอกได้ ทุกคนจะต้องออกไปผลิตอาหารกันเอง
มีตัวเลขจากบางแหล่งข่าว ระบุว่า ประชากรในเมืองหลวงที่มีอยู่ราว 2 ล้าน ได้หดหายเหลือเพียง 25,000 คน ในเวลาเพียง 3 วัน รัฐบาลเขมรแดงห้ามใช้เงินเนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของระบอบทุนนิยม และระเบิดธนาคารแห่งชาติทิ้ง รวมถึงเอารถยนต์ไปทิ้งไปที่สนามบินจำนวนมาก เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้า ผู้ที่รอดชีวิต บอกว่า เขมรแดงจะสังหารคนที่สวมแว่นสายตาทุกคน หรือคนที่พูดภาษาต่างประเทศได้ เช่นเดียวกับพวกที่มือนุ่ม บอบบาง ก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นปัญญาชน และพวกชนชั้นกลาง ที่เป็นศัตรูกับการปฏิวัติของชาวนา (Peasant Revolution) ของพอล พต ด้วย
ศาลพิจารณาคดีเขมรแดง ซึ่งสถาปนาขึ้นเมื่อปี 2549 เพิ่งจะพิจารณาคดีเขมรแดงไปได้เพียงคดีเดียว คือ นายเค็ง เก็ก เอียบ อดีตผู้คุมเรือนจำโตน สะเลง หรือ เอส-21 โดยเขาถูกตัดสินจำคุก 35 ปี ในข้อหาเป็นอาชญากรสงคราม , ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอีกหลายคดี ส่วนผู้นำเขมรแดงกลุ่มล่าสุด ที่ต่างอายุมากแล้วและมีปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้เกิดความวิตกว่า อาจจะเสียชีวิตก่อนถูกตัดสินโทษ ซึ่งโฆษกศาล ระบุว่า ไมทราบว่าคดีนี้จะสิ้นสุดเมื่อใดแต่ก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อกล่าวหา เพื่อความแน่ใจว่า การพิจารณาคดีครั้งนี้จะเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย