ข่าว

7รง.นิคมฯเหนือจ่อเลิกจ้างชั่วคราว

7รง.นิคมฯเหนือจ่อเลิกจ้างชั่วคราว

16 พ.ย. 2554

สวัสดิการคุ้มครองแรงงานลำพูน เผยน้ำท่วมภาคกลาง ลามถึง 7 โรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ไม่สามารถเดินสายการผลิตได้ เหตุต้องรอการส่งต่อจากโรงงานส่วนกลาง พบ 2,000 คนงานถูกเลิกจ้างชั่วคราว เตรียมประสานผู้ประกอบการอื่นเปิดรับกว่า 5,000 อัตรา

           นายวชิระ ศรีบัวชุม สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำท่วมในเขตกรุงเทพ ฯ และภาคกลาง ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสหากรรมภาคเหนือ(กนอ.) อ.เมือง จ.ลำพูนมี 7 โรงงาน มีพนักงานกว่า 2,000 คน ที่ได้รับผลกระทบไปด้วย ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ถูกน้ำท่วมไปก่อนหน้านี้ ทำให้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ที่เป็นการรับช่วงในการผลิตต่อ ไม่สามารถเดินสายงานการผลิตได้ ขณะนี้หลายโรงงานหยุดการผลิตชั่วคราว แต่ยังไม่มีการปลดพนักงานออก เพียงแต่ให้หยุดพักงานและไม่มีงานล่วงเวลาให้ทำเท่านั้น คาดว่าปัญหาเลิกจ้างชั่วคราวนี้น่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้
   
          ส่วนแนวทางการช่วยเหลือในส่วนที่สถานประกอบการประกาศหยุดงาน ตามกฎหมายแรงงาน ต้องจ่ายเงินค่าจ้าง 75% นั้นรวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้างทั้ง 7 โรงงานมากกว่า 41 ล้านบาท
   
          นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการกว่า 100 ราย ตอบรับเปิดตำแหน่งงานเพิ่มกว่า 5,000 ตำแหน่ง จึงน่าจะให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ประสบปัญหาน้ำท่วมได้ ทั้งนี้ทางจังหวัดยังตั้งคณะกรรมการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในการส่งเสริมรายให้มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว 
   
          "ขณะนี้สภาอุตสาหกรรมและหอการค้าจังหวัดขอนแก่น พร้อมนายจ้างกว่า 100 บริษัทเปิดรับสมัครงานทุกวัน ขอให้ผู้ประสบภัยที่ถูกเลิกจ้างจากแหล่งงานที่ถูกน้ำท่วม หรือที่กลับมาภูมิลำเนาที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น" นายสมบัติ กล่าว

 

นิคมฯอัญธานีเตรียมรับน้ำเอ่อเขตประเวศ


           น.ส.กฤษณา รวยอาจิณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะทำงานและป้องกันผลกระทบจากอุทกภัยในนิคมอุตสาหกรรมอัญธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้รอบพื้นที่เขตประเวศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนิคมฯอัญธานีนั้น ได้มีน้ำเอ่อเข้ามารอบพื้นที่แล้ว เนื่องจากเขตประเวศเป็นพื้นที่ต่ำ

           ทั้งนี้ สำหรับแผนป้องกันพื้นที่นิคมฯ จะปล่อยให้น้ำเข้ามาในพื้นที่ โดยได้เตรียมคูรับน้ำ ซึ่งเป็นคูธรรมชาติ อยู่ที่ทิศเหนือของนิคมฯ และแนวกระสอบทรายสูง 1.20 เมตร รอบคู เพื่อให้คูสามารถรับน้ำได้เพิ่มมากขึ้น และตั้งสถานีสูบน้ำบริเวณคูเพื่อสูบน้ำออกลงคลองสิงโตที่ติดอยู่กับนิคมฯ
   
           อย่างไรก็ตาม หากน้ำล้นแนวกระทบทรายออกมาจากคู ก็ยังมีแนวรั้วโรงงานป้องกันพื้นที่แต่ละโรงงานอยู่อีกชั้นหนึ่ง โดยรั้วโรงงานส่วนใหญ่เป็นรั้วเหล็กโปร่ง จึงได้นำแผ่นวีว่าบอร์ดมากั้นอีกชั้นพร้อมฉีดซิลิโคนกันน้ำรั่ว ส่วนปัญหาน้ำผุดขึ้นตามท่อระบายน้ำ ในนิคมนนี้เป็นระบบท่อปิด ไม่เชื่อมต่อกับภายนอกจึงหมดปัญหา
   
           ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในนิคมฯ นี้ส่วนใหญ่เป็นอาคารสูง 4-5 ชั้น และในอุตสาหกรรมอัญมณีเครื่องจักรไม่ใหญ่สามารถเคลื่อนย้ายไปตั้งบนที่สูงได้ ส่วนเครื่องหล่อที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ ก็ได้ก่อแนวป้องกันเครื่องจักรไว้เรียบร้อยแล้ว
   
           “ตอนนี้ถือว่าสถานการณ์อยู่ในระดับเฝ้าระวังและยังควบคุมได้ ถ้าน้ำไม่มามากว่านี้ โดยความพร้อมรับมือมีเต็มที่ และระหว่างการรอน้ำก็ได้ประสานงานกับสำนักงานเขตประเวศ เพื่อดูแลพื้นที่รอบนิคมฯด้วย” น.ส.กฤษณา กล่าว
   
           สำหรับผู้ประกอบการในนิคมฯ ส่วนใหญ่ยังเดินหน้าผลิตอยู่ เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตอัญมณีขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศไทย และผู้ผลิตบางรายติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก จึงหยุดการผลิตไม่ได้ โดยนิคมฯมีพื้นที่ 172 ไร่ จำนวนโรงงาน 116 โรง คนงาน 8,561 คน มูลค่าการลงทุน 1.07 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมอัญมณี เหล็กและโลหะ เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
   
           ขณะที่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ส่งจดหมายไปยังผู้ประกอกการในนิคมฯบางชัน โดยแจ้งขอยกเลิกเหตุการณ์ฉุกเฉินระดับ 1 เนื่องจากระดับน้ำในคลองแสนแสบมีระดับต่ำกว่า  1 เมตร  และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำ ณ ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบอยู่ที่ความสูง 0.97 เมตร