ข่าว

ตำรวจระบุคดีลอบยิงสนธิคืบหน้าไปมาก

ตำรวจระบุคดีลอบยิงสนธิคืบหน้าไปมาก

03 พ.ค. 2552

"สนธิ ลิ้มทองกุล" แถลงชี้เหตุการณ์ลอบสังหาร 17 เมษายน เป็นฝีมือทหารที่ทำเป็นขบวนการทีมไล่ล่าแต่ไม่ใช่ฝีมือกองทัพ เป็นการส่งสัญญาณถึงหลายฝ่ายอาจรวมถึงนายกฯอภิสิทธิ์ ลั่นเป็นการคุมคามสื่อแบบไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ไทยเผยมีแผนไปพักฟื้นร่างกายเร็วๆนี้แ

(3พ.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล  แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า การลอบสังหารตนเองในวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ต้องมองใน 2 มิติ คือ การลอบสังหารสื่อมวลชนขณะไปปฏิบัติหน้าที่ และในฐานะที่ตนเองเป็นแกนนำมวลชนภาคประชาชน ในมิติสื่อมวลชนถือเป็นกระบวนการคุกคามสื่อ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ไทย ไม่ใช่เป็นการลอบสังหารเพราะเรื่องส่วนตัวหรือขัดผลประโยชน์ แต่เป็นการส่งสัญญาณให้หลายฝ่ายอาจรวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

นายสนธิ ยังกล่าวด้วยว่า  ผู้ที่ลอบสังหารนั้นไม่ใช่มืออาชีพแต่เป็นขบวนการทีมล่าสังหารโดยเป็นฝีมือทหารบางคน ไม่ใช่ฝีมือกองทัพ อย่างไรก็ตามไม่ทำให้ตนเริ่มถอดใจอย่างแน่นอน

 "คนร้ายที่ยิงยืนยันชัดด้วยสายตาว่าถูกยิงจากคนที่ถูกฝึก เพราะเป็นท่านั่งประทับยิง เป็นท่าที่ฝึกทางการทหาร ใช้รถจำนวน 4 คัน มีผู้ที่กระทำการประมาณ 10-16 คน เชื่อว่าการกระทำครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของผู้ที่มีอำนาจ และคนที่ลงมือรู้เส้นทางเดินรถ มีรถจอดรอเป็นจุด แต่การยิงไม่ใช่มืออาชีพ แต่เป็นขบวนการล่าสังหาร เชื่อว่าเป็นฝีมือของทหารบางคน ไม่ใช่ฝีมือของกองทัพ เชื่อว่ากองทัพไม่ทำเรื่องน่าอัปยศเช่นนี้"
       
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่มีคดีลอบสังหาร ทันทีที่เกิดขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเพียง นายกอภิสิทธิ์ ที่เป็นห่วงเป็นใย ส่วนคนอื่นไม่ได้แสดงอาการรู้ร้อนรู้หนาว และยังแสดงอาการรที่เรียกว่าปฏิเสธที่มาของอาวุธสงคราม นอกจากไม่แสดงอาการรู้ร้อนรู้หนาวแล้ว ซึ่งประเด็นของผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นและหากมองการแสดงอาการของผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ น่าที่จะออกมารูปแบบของการประนามการกระทำเช่นนี้ และไม่น่าจะให้อภัยได้เลย เนื่องจากเกิดเหตุในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น คนที่จะออกมาทำเรื่องเช่นนี้ได้ ต้องได้รับการหลิ่วตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ทำได้ แต่ผมยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมนั้นเกิดขึ้นจากทหารเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง นอกนั้นแล้ว ไม่มีส่วนรับรู้หรือรู้เห็นเป็นใจ
       
อีกอย่างนอกจากปฏิเสธไม่มีส่วนรับรู้แล้ว ยังมีการเข้าสู้กระบวนการเริ่มปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธว่าอาวุธสงครามแบบนี้ใคร ๆก็หาซื้อได้ รวมไปถึงการปฏิเสธเรื่องปลอกกระสุนปืน มีการโยนกันไปโยนกันมา ปฏิเสธว่าไม่ใช่ กระทั่งมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเพิ่งออกมาพูดเมื่อ3-4 วันที่ผ่านมานี้เองว่าหากมีทหารเกี่ยวข้องก็จะจัดการอย่างเด็ดขาด ทั้ง ๆ ที่เรื่องเช่นนี้น่าจะมีการพูดถึงตั้งแต่ วันแรกที่เกิดเหตุ แต่กลับไม่พูดเลย
      
อีกประเด็นคือที่ว่าใครเป็นคนทำนั้น จะขอเสริมจากการสัมภาษณ์เนชั่นสุดสัปดาห์ ว่า การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ขบวนการทำร้ายพันธมิตรเป็นขบวนการที่จะเอาชีวิต เป็นกระบวนการข่มขู่ต่อเนื่อง การยิง เอ็ม 79 เข้าใส่จนมีพันธมิตรเสียชีวิตไป 4 คน จนแหล่งข่าวของพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นทหารเปิดเผย ว่ากลุ่มคนซึ่งยิง เอ็ม 79 เข้าในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และศาลรัฐธรรมนูญ นั้น เป็นกลุ่มคน คนเดียวกัน และเตรียมการที่จะยิงเข้าใสต่อไปอีก และมีการส่งข้อมูลไปยัง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าข้อมูลที่ได้เป็นความจริง และเตรียมดำเนินการจับกุม ซึ่งเป็นทหาร ยศ จ่าสิบเอก และข้อมูลนี้ถือเป็นข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผย
      
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบครั้งนี้คือ ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ตนคิดว่าไม่ใช่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ และขอสมมตินะว่าหากเป็นบุคคลเหล่านี้จริงก็ขออโหสิกรรม ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

 "ยอมรับว่ามีแผนที่เดินทางไปต่างประเทศในเร็ววันนี้จริง แต่เพื่อไปใช้เวลาพักฟื้นร่างกาย ซึ่งคงเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งไม่ใช่ที่ประเทศอินเดีย หรือเนปาล เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่ามีการคาดหมายกันว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ อาจมีความคืบหน้าด้านคดี จึงไม่อยากอยู่เป็นตัวละคร และเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างอิสระ จึงใช้โอกาสนี้ไปพักฟื้นร่างกาย หลังจากนั้นจะกลับมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องการเมืองใหม่อย่างแน่นอน เพราะจากการรอดชีวิตอย่างปาฎิหาริย์ในครั้งนี้ถือว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้มอบหมายภารกิจเพื่อปกป้องชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ต่อไป" นายสนธิ กล่าว

ตำรวจระบุคดีลอบยิง"สนธิ"คืบหน้าไปมาก

พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี หัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่าการที่นายสนธิ ออกมาแถลงข่าวยืนยันว่า กลุ่มมือปืนที่ยิงถล่มตนเองเป็นทหารนั้น ถือว่าเป็นข้อมูลของนายสนธิ แต่แนวทางการสืบสวนของตำรวจ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า คนร้ายเป็นใคร แต่เชื่อว่าหลังจากการแถลงการณ์ของนายสนธิ จะทำให้ประชาชนแจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูลกับตำรวจมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า ตำรวจจะสืบสวนตามแนวทางของพยานหลักฐานที่ปรากฎอย่างละเอียด รอบคอบ ขณะนี้คดีคืบหน้าเป็นระยะแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะทำให้เสียรูปคดี