ปชป.กางหลักฐานมัดถุงยังชีพแพง
“วิลาศ” กางหลักฐานอภิปรายซัด ศปภ.จัดซื้อถุงยังชีพแพงกว่าราคาตลาด ปูดชื่อคนประสาน พท.พร้อมแจงข้อเท็จจริง ระบุสินค้าชนิดเดียวกันต่างยี่ห้อราคาก็ต่างกัน บอกอย่านำเป็นเกมการเมืองทำผู้บริจาคสับสน
เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 10 พ.ย.2554 นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายกรณีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ในฐานะผอ.ศปภ.ชี้แจงเรื่องสิ่งของในถุงบริจาคว่า ตนมีหลักฐานของการทุจริตงบฯที่บริจาคโดยประชาชน ถ้าบริหารเงินบริจาคแบบโขกกันอย่างนี้ นายกฯหญิงก็คุมไม่ไหว
ทั้งนี้หลังจากมีข่าวเรื่องจัดซื้อถุงยังชีพ มีการโยนลูกว่ารมว.มหาดไทยไม่เกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องรมช.และเลขาฯรัฐมนตรี แต่ข้อมูลที่พบคือ ก่อนเริ่มจัดซื้อถุงยังชีพราคา 800 บาท จำนวน 1 แสนถุง มีหนังสือจากรองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย (ปภ.) ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2554 อ้างว่าเป็นการอนุมัติของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รมว.มหาดไทย ประธานกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขอจัดซื้อจัดจ้างสิ่งของ 9 รายการ วงเงิน 146 ล้านบาทเศษ ทั้งที่อธิบดีก็ยังอยู่แต่ไม่ได้เป็นคนลงนามในหนังสือดังกล่าว ดังนั้นพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นพิรุธ
นายวิลาศ กล่าวว่า นอกจากนี้กรณีบริษัทเอกชนได้เสนอราคา ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2554 นั้น ปภ.ได้ออกใบสั่งซื้อวันที่ 19 ตุลาคม 2554 เช่นเดียวกัน ดังนั้นเท่ากับว่าทั้งขั้นตอนเซ็นหนังสือของบฯ ขั้นตอนเอกชนเสนอราคา ขั้นตอนออกใบสั่งซื้อ ทำวันเดียวกันทั้งหมด จึงอยากถามว่าร้านค้าเตรียมตัวได้อย่างไร โดยเฉพาะการส่งของจำนวนรายการละ 1 แสนชิ้น บริษัทใช้เวลา 6 วันเท่านั้น เรื่องแบบนี้ถ้าไม่รู้กันก่อนแล้วเอาของมาสต๊อกไว้ อาทิ ปลากระป๋องแสนกว่ากระป๋อง จะส่งทันได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น 1 แสนถุงที่จัดซื้อ มีเอกชนที่เสนอราคาเพียง 2 ราย เสนอราคา 4 หมื่นถุง แล้วพบว่าใบเสนอราคาได้ลงที่อยู่ย่านอำเภอบางบัวทอง แต่ใบเสร็จรับเงินกลับที่อยู่อำเภอเมืองนนทบุรี และอีกรายเสนอ 6 หมื่นถุง แล้วหจก.ดังกล่าวไม่ได้ขายถุงยังชีพอย่างเดียว เพราะยังค้าพลาสติกรีไซเคิล จึงไม่ทราบว่าเกี่ยวอะไรกับถุงยังชีพ แถมยังมีการมาขายเรืออีกด้วย
“ผมยังทราบมาว่าสิ่งที่ซื้อขายกันวงเงิน 146 ล้านบาทนั้น มีคนประสานอยู่คนเดียว ทั้งกระทรวงมหาดไทยรู้กัน มีชื่อว่า “ไอ้เบ้” อยู่กระทรวงมหาดไทยและทำงานอยู่ทางภาคตะวันออก ผมยืนยันไม่ได้กล่าวหาเลื่อนลอย เมื่อผมไปไล่ซื้อที่ห้างสรรพสิ้นค้าแห่งหนึ่งแล้วออกใบเสร็จราคา ทั้ง 8 รายการ พบอาทิ 1.ข้าวสาร บรรจุ 5 กิโลกรัม ราคาถุงละ 192 บาท ทั้งที่ข้าวหอมมะลิยังราคาไม่เท่านี้ โดยราคาข้าวหอมมะลิถุง 5 กิโลกรัมจากโลตัส ยังราคาเพียง 130 บาท ดังนั้นจึงซื้อแพงกว่า 62 บาท 2.ข้าวสุกกระป๋อง ราคาซื้อกระป๋องละ 32 บาท แต่ราคาตลาดอยู่ที่ 20 บาท แพงกว่า 12 บาท 3.ปลากระป๋องชนิดฝาดึงขนาด 155 กรัม ซื้อกระป๋องละ 16.25 บาท ราคาตลาดอยู่ที่ 15 บาท แพงกว่า 1.25 บาท 4.หอยลายทอดรสเผ็ด ขนาด 40 กรัม ซื้อกระป๋องละ 25 บาท แต่ราคาตลาด 16 บาท แพงกว่า 9 บาท แล้วที่คิดเอาหอยลายทอดรสเผ็ดนี้ใส่ในถุงยังชีพไม่โง่ก็โกง หรือทั้งโง่ทั้งโกง คิดได้อย่างไร เพราะเนื้อมีนิดเดียว เขาเอาไว้แกล้มเหล้ากันมากกว่า และเมื่อไปถามเอกชนอื่นว่าทั้ง 8 รายการจะขายเท่าไหร่ เอกชนอื่นบอกว่า 500 บาทจะเอาไหม” นายวิลาศ กล่าว
“สกลธี"ตั้งคำถามจับพิรุธผลสอบ"ถุงยังชีพ"
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการตรวจสอบทุจริต การจัดซื้อถุงยังชีพของ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.) ที่พล.ต.อ.ประชาได้ลงนามแต่งตั้งขึ้น ได้สรุปผลการสอบสวนว่า การจัดซื้อถุงยังชีพไม่ทุจริต รวมถึงการที่ไม่สามารถตรวจสอบเชิงลึกได้ เนื่องจากคณะกรรมการฯอ้างว่า เป็นเพราะตนไม่ได้เดินทางไปให้ข้อมูลนั้นเป็นการหาทางออกของคณะกรรมการฯที่น่าเศร้า สำหรับการรักษาผลประโยชน์ของเงินบริจาค ที่ได้รับมาจากพี่น้องประชาชน เพราะเคยได้แถลงข่าวไปแล้วว่า สาระสำคัญในการตรวจสอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับการไปหรือไม่ไปชี้แจงของตน ซึ่งได้บอกไปแล้วว่า ได้รับการร้องเรียนมาจากพี่น้องประชาชนว่า การจัดซื้อถุงยังชีพอาจจะมีการทุริตเกิดขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการฯที่ประกอบไปด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการมากมาย ที่จะต้องไปแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป แต่ก็แปลกใจที่คณะกรรมการฯดูจะรีบร้อนลุกลี้ลุกลนเร่งสรุปเรื่องนี้ ทำให้ดูเหมือนเป็นการฟอกความผิดให้กับ ศปภ.แล้วอย่างนี้จะให้ประชาชนเชื่อถือได้อย่างไร
นายสกลธี กล่าวว่าอยากให้คณะกรรมการตอบคำถามดังต่อไปนี้ให้ได้คือ 1.คณะกรรมการจัดซื้อถุงยังชีพอ้างว่า ได้จัดซื้อถุงยังชีพแบ่งเป็น 3 ราคาคือ 300- 500 - 800 บาท แต่ตามเอกสารที่ตนได้รับมา มีการระบุถึงจัดซื้อถุงยังชีพจริง แต่ปรากฏว่า มีแค่ราคาถุงละ 500 บาทกับ 800 บาท อยากทราบว่าถุงยังชีพราคา 300 บาท มาจากไหน หรือว่าเพิ่งคิดได้เมื่อเรื่องมันแดงขึ้นมาว่า ในถุงมีสิ่งของอุปโภคบริโภคน้อย 2. ถุงยังชีพที่ได้รับเงินบริจาคจากประชาชน บนถุงเหล่านั้น ได้ระบุหรือไม่ ถึงที่มาของเงิน และการใส่ชื่อหน่วยราชการที่จัดซื้อเพียงอย่างเดียวเหมาะสมหรือไม่ 3. ถ้า แบ่งถุงยังชีพเป็น 3 ราคาจริง ก็ต้องตอบได้ว่า ถุงยังชีพทั้งหมดที่มีจัดซื้อกว่า 200,000 ถุง ได้มีการจัดส่งถุงยังชีพเหล่านี้ ไปช่วยผู้ประสบภัย แยกเป็นราคา 300 บาท 500 บาท และ 800 บาท ในพื้นที่ไหนบ้าง จำนวนเท่าไร มีใครเป็นผู้รับผิดชอบขนส่งนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายเพราะ ศปภ.ย่อมต้องทำข้อมูลเก็บไว้อยู่แล้ว
นายสกลธีกล่าวต่อว่า 4. มีประชาชนจำนวนมากที่บริจาคเป็นสิ่งของอุปโภคบริโภคโดยคณะกรรมการจัดถุงยังชีพบอกว่า ได้มีการนำไปบรรจุโดยใช้ถุงสำนักนายกรัฐมนตรีเหมือนถุงที่จัดซื้อถุงละ 300 บาท จึงอยากทราบว่า ได้แยกเป็นถุงที่บรรจุสิ่งของบริจาคของพี่น้องประชาชนกี่ถุง และถุงที่จัดซื้อด้วยงบประมาณถุงละ 300 บาท ถ้ามีตามที่กล่าวอ้าง มีกี่ถุง เพราะกระทำลักษณะนี้มันเอื้อต่อการมั่วนิ่ม ทุจริตเอาของพี่น้องประชาชนมาทำเสมือนของที่จัดซื้อแล้ว โดยที่ไม่ต้องจัดซื้อจริง 5. ในส่วนการจัดซื้อของ ปภ. ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งน่าจะแพงกว่าความเป็นจริงมากๆ เช่น ส้วมกระดาษพกพาของเครือปูนซิเมนต์ไทย( SCG ) ราคาแค่ 111 บาท แต่ของ ปภ.ซื้อมาในราคา 245 บาท 6. ข้อมูลล่าสุดที่เพิ่งได้รับแจ้ง คือ ศปภ. ได้จ่ายเงินสนับสนุนผ่านมูลนิธิต่างๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
“มีที่ติดใจตนมากเรื่องหนึ่งคือ การจ่ายเงินผ่านมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งคนทั่วไปรู้ดีว่าเป็นของ บก.ลายจุด หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง อยากถามว่ามูลนิธินี้ว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ถึงได้รับเงินสนับสนุนมากถึง 3 ล้านบาท โดยเป็นเงินบริจาคของพี่น้องประชาชน อย่าทำให้พี่น้องประชาชนรู้สึกว่า เอาเงินของเขาไปให้พรรคพวก ผ่านตอนชุลมุนเรื่องน้ำท่วม ทั้งหมดนี้เป็นคำถามที่ทางคณะกรรมการต้องไปแสวงหาความจริงให้ได้ ถ้าต้องการกู้ศรัทธาที่ล้มละลายไปแล้วในสายตาของพี่น้องประชาชน แต่ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบความจริง ทำได้เพียงแค่นี้ และเร่งสรุปเพื่อฟอกการจัดซื้อในครั้งนี้ ก็คงเป็นเคราะห์กรรมของประเทศชาติ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ขอยืนยันจะตรวจสอบในเรื่องเหล่านี้ต่อไปให้ถึงที่สุด” นายสกลธี กล่าว
พท.พร้อมแจงข้อเท็จจริงถุงยังชีพ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมที่จะตรวจสอบการทุจริตถุงยังชีพ รวมทั้งสิ่งของบริจาคให้ศปภ.ในการอภิปรายทั่วไปในวันที่ 11-12 พ.ย.ว่า พรรคไม่มีการเตรียมตัวใดๆในการรับมือ เพราะจะชี้แจงจากข้อเท็จจริงในสิ่งที่ศปภ.ดำเนินการ เรื่องนี้เป็นสิทธิของพรรคฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบได้ แต่ควรที่จะฟังข้อชี้แจงของฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะสินค้าชนิดเดียวกันแต่คนละยี่ห้อ ราคาก็แตกต่างกันได้ แต่ขอร้องว่าอย่าทำเรื่องนี้ให้ประชาชนสับสนเพราะยังมีประชาชน 3 ล้านคนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมและต้องการความช่วยเหลืออยู่ รวมทั้งอย่าชี้นำให้ผู้จะบริจาคสับสนกับข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำเสนอ และอย่านำมาเป็นเกมการเมือง
ตั้งโต๊ะล่าชื่อคนจมน้ำฟ้องรัฐบาล
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า จะจัดงานเสวนาเรื่อง “วิกฤตน้ำท่วม 2554 : เหตุสุดวิสัยหรือไร้ฝีมือ ปัญหาที่แท้จริง คืออะไร” ที่ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 รร.อิมพีเรียลควีนปาร์ค ถ.สุขุมวิท 22 วันที่ 15ธ.ค.เวลา 13.00-17.00น. โดยเชิญผู้สนใจหรือได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากน้ำท่วมเข้าร่วมเสวนา
ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นต้องมาร่วมงานนี้ ทางสมาคมจัดขึ้นฟรีมีกาแฟอาหารว่างบริการ นอกจากนี้ขอให้เตรียมเอกสารสำคัญติดตัวมามด้วยเพื่อร่วมฟ้องรัฐบาล เพราะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาจากความผิดพลาดล้มเหลวของการบริหารจัดการของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทั้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
สำหรับเอกสารสำคัญ ที่จะใช้ในการร่วมกันยื่นฟ้องรัฐบาล ประกอบด้วย 1.สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ (ต้องไม่หมดอายุ) 2.รายละเอียดความเสียหายที่สามารถระบุเป็นเงินได้แต่ละประเภทหรือชนิดทรัพย์สินหรือสิ่งของที่เสียหาย หรือความเดือดร้อนเสียหายทางจิตใจหรืออื่นใดก็ได้ 3.มารับแบบฟอร์มมอบอำนาจฟ้องคดี และแบบฟอร์มบัญชีค่าเสียหายได้ที่หน้างาน และหากมาเป็นหมู่คณะโปรดสำรองที่นั่งได้ที่โทร.081-920-5066 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.thaisgwa.com