'น้ำ'เทวดา-ซาตาน | คมชัดลึก

     "น้ำ" ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่มีวันหมดสิ้น เพราะสามารถเกิดการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงสถานภาพไปได้เรื่อยๆ ต่างจากทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ มนุษย์เราจึงมุ่งแต่จะใช้ ใช้ และใช้ แต่ไม่ค่อยได้ให้ความใส่ใจ ดูแลรักษา บริหารจัดการ และรับผิดชอบต่อการใช้น้ำเท่าที่ควร จึงไม่น่าแปลกใจที่ธรรมชาติจะส่งสัญญาณมาย้ำเตือนมนุษย์ด้วยการส่งน้ำในปริมาณมากมายมหาศาลมาให้มนุษย์ได้เผชิญในรูปแบบของการเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ดังที่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา เมื่อปี 2526 จนถึงปัจจุบันนับรวมแล้วกว่า 10 ครั้ง

      ตั้งแต่เมื่อมีมนุษย์เกิดขึ้นจนกระทั่งวันนี้ ถ้าไม่รวมเรื่องการเกิดอุทกภัย "น้ำ" เป็นเสมือนเทวดาที่บันดาลสิ่งต่างๆ ให้ความช่วยเหลือและเกื้อกูลมนุษย์มาโดยตลอด เช่น การมีน้ำสะอาดให้มนุษย์ใช้ดื่ม ใช้อาบ ใช้ซักฟอก ใช้ปรุงอาหาร ชำระล้าง ถ่ายเทของเสีย, ใช้ในการเกษตร การเพาะปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์นานาชนิด เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งเป็นอาหารของมนุษย์, ใช้ประกอบในอุตสาหกรรม เช่น ใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ เป็นตัวละลายวัตถุ เป็นตัวทำความสะอาดล้างวัตถุดิบ ใช้กำจัดของเสียของโรงงานอุตสาหกรรม, ใช้เป็นพลังงานเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า, ใช้เป็นเส้นทางคมนาคม, ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เช่น ว่ายน้ำ พายเรือ และอื่นๆ เป็นต้น ทำให้มนุษย์เราอยู่อย่างสุขสบาย มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีสุขภาพจิตที่สดใส และมีความสุข

     ความสุข ทำให้เราปล่อยปละละเลยและหลงลืม สิ่งที่ให้คุณประโยชน์ ซ้ำกลับทำร้ายด้วยการใช้อย่างทิ้งขว้าง และทิ้งสิ่งสกปรกลงในน้ำอย่างไร้จิตสำนึก ด้วยเหตุนี้ น้ำจึงเป็นเสมือนซาตานด้วยการบันดาลให้การเกิดอุทกภัย เท่าที่พอจำได้ เมื่อครั้งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจนถึงวันนี้ จะเห็นว่ามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ต้องคอยเอาชีวิตรอดจากปริมาณมวลน้ำที่ทะลักมาอย่างมหาศาลเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว 

      ต่อมาหลังๆ นี้ เรา ต้องเอาตัวรอดจากเหตุการณ์อื่นๆ ที่ต่อเนื่องตามมา ไม่ว่าจะเป็นดินถล่ม ไฟฟ้าช็อต การทำร้ายจากสัตว์มีพิษ การไร้ที่อยู่อาศัย ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหารและน้ำดื่ม ไม่มียารักษาโรคเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่มีเครื่องนุ่มห่มที่ให้ความอบอุ่น และอยู่กับสภาพแวดล้อมที่มีแต่ขยะและน้ำเน่าเหม็น ส่งผลให้เกิดความเครียด สุขภาพจิตแย่ สุขภาพกายเสื่อมโทรม ฯลฯ

      ดังนั้น ในฐานะปัจเจกชนเราก็ควรมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาน้ำเสียหรือการสูญเสียทรัพยากรน้ำด้วยการอนุรักษ์น้ำ เช่น การใช้น้ำอย่างประหยัด นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าน้ำลงได้แล้ว ยังทำให้ปริมาณน้ำเสียที่จะทิ้งลงแหล่งน้ำมีปริมาณน้อย และป้องกันการขาดแคลนน้ำได้ด้วย, การพัฒนาแหล่งน้ำในบางพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ จำเป็นที่จะต้องหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถมีน้ำไว้ใช้ทั้งในครัวเรือนและในการเกษตรได้อย่างพอเพียง

      ปัจจุบันการนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อย่างแพร่หลายก็อาจสร้างปัญหาเรื่องแผ่นดินทรุด และทำให้น้ำท่วมขัง ไม่ระบายถ่ายเทเกิดน้ำเน่าเหม็นตามมา, การป้องกันน้ำเสีย การไม่ทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลและสารพิษลงในแหล่งน้ำ ควรมีการบำบัด และขจัดสารพิษก่อนที่จะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ, การนำน้ำเสียกลับไปใช้ น้ำที่ไม่สามารถใช้ได้ในกิจกรรมอย่างหนึ่งอาจใช้ได้ในอีกกิจกรรมหนึ่ง เช่น น้ำทิ้งจากการล้างภาชนะอาหาร หรือการซักผ้า สามารถนำไปรดต้นไม้ได้ ฯลฯ

----------------------------------
('น้ำ'เทวดา-ซาตาน จะแบบไหนเราก็อยู่ร่วมกันได้ โดย...บัญญัติ  คำนูณวัฒน์)