บางภาษีบางเลนส่อวิกฤตเร่งอพยพ
รักษาการผู้ว่าฯนครปฐมวอนผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้นเร่งอพยพออกจากพื้นที่บางภาษีอำเภอบางเลน หลังสถานการณ์ส่อวิกฤตต่อเนื่อง อยุธยาเร่งขนย้ายเครื่องจักรอออกจากนิคมฯขีดเส้น 10 พ.ย. นี้ จากนั้นเริ่มสูบน้ำออก กฟผ.เปิดให้นิคมฯโรจนะขอใช้ไฟได้ 1 พ.ย. คนแปดริ้วไม่หวั่น แ
31ต.ค.2554 นายนิมิต จันทน์วิมล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการทำความเข้าใจ กับประชาชน ใน ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม ในการที่จะขอให้อพยพออกมากพื้นที่ หลังจากพบว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.บางเลนอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 50 เซ็นติเมตร - 1 เมตร
"ผมได้เข้าพบกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านเจรจาขอให้อพยพจากพื้นที่ เนื่องจากระดับกำลังน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละ 5 - 10 เซ็นติเมตร โดยเฉพาะที่ต.บางภาษี ที่เป็นห่วงคือ 2 วันอาจ จะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็จะต้องมาตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เพราะตั้งแต่เกิดปัญหาน้ำท่วมถึงวันนี้ มีผู้ถูกไฟฟ้าซ็อตเสียชีวิตแล้ว 5 ราย สำหรับผู้ที่จะอพยพขณะนี้ได้จัดเตรียมไว้ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ที่อยู่ใกล้ อ.บางเลน มากที่สุด " รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวและว่า
ที่สำนักงานเทศบาลเมืองไร่ขิง อ.สามพราน จ. นครปฐม พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับนายอำเภอสามพราน ผกก.สภโพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ผู้นำท้องถิ่นทั้ง อ.สามพราน และ อ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อระดมความคิดเห็นและหาทางแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเน้นต้องไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียเพิ่มขึ้น สียหายไปแล้วก็ต้องยอมบ้าง เพื่อให้ส่วนที่ยังอยู่มาเลี้ยงเราพ.ต.ต.เสงียไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชนหรือผู้ประกอบการ ในส่วนที่เสียหายไปแล้วก็ต้องยอมรับความจริง เพื่อให้เหลือในบางส่วน โดยสาระสำคัญคือขณะนี้ได้ระดมเครื่องสูบน้ำจากทั่วประเทศมาเตรียมพร้อมในพื้นที่ เพื่อเร่งผลักดันน้ำให้ลงทะเลเร็วที่สุด
เขตเมืองสมุทรสงครามเจอน้ำหนุนสูง
เมื่อเวลา 09.00 น.มีน้ำทะเลหนุนขึ้นมา จนกระทั่งเวลา 11.00 น. น้ำทะเลหนุนสูงสุด ทำให้ถนนสายต่างๆในเขตเศรษฐกิจเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม มีน้ำสูง 30 เซ็นติเมตร ขณะที่เทศบาลเมืองสมุทรสงครามต้องระดมเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมาวางตามแนวฟุตบาทเพื่อป้องกันน้ำเอ่อเข้าร้านค้าของประชาชน นอกจากนี้ยังปิดกั้นการจราจรให้รถเดินทางเดียว และนำรถประชาสัมพันธ์ออกสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนให้ชะลอความเร็ว ทำให้การจราจรภายในเขตเทศบาลติดขัดเป็นระยะ
น้ำท่วมทำเกลือมหาชัยขาดตลาด
นายสมพงษ์ รอดดารา เกษตรกรนาเกลือ ต.บางโทรัด อ.เมืองสมุทรสาคร ฐานะประธานสหกรณ์การเกษตรนาเกลือ จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาความแปรปรวนของสภาพดินห้าอากาศ ส่งผลให้ตั้งแต่ปี 2554 มักมีฝนตกชุกมาตลอดถึงมากที่สุดกว่าปีก่อน ทำให้ชาวนาเกลือไม่สามารถอาศัยผืนดินที่มีอยู่ ประกอบอาชีพทำนาเกลือไปเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่งผลให้ปีนี้ มีปริมาณเกลือหลังตากแห่งมีจำนวนน้อยลงกว่าตลาดที่ผ่านมา และประกอบกับก่อนหน้าที่มีข่าวคราวกระแสน้ำท่วม ทำให้บรรดาเกษตรกร ต่างแห่ขายเกลือทิ้งกันจนแทบหมดยุ้ง เพราะกลัวปัญหาน้ำท่วมใหญ่ทำให้เริ่มนัดถอยหลงสู่ปัญหาการบริโภคเพราะความต้องการของประชาชน
น้ำทะเลหนุนท่วมถนนสุขสวัสดิ์จราจรติดขัด
จังหวัดสมุทรปราการ มีระดับน้ำทะเลขึ้นสูง โดยตั้งแต่ 09.00 น. เส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ ตั้งแต่ปากซอยวัดชมนิมิตสุขสวัสดิ์ 74 ระดับน้ำทะเลเออล้นท่วมผิวจราจร ช่วงขาเข้ามุ่งหน้า อ.พระทรเจดีย์ จนทำให้ช่องการจราจรใช้ได้เพียงหนึ่งชองทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปิดช่องทางระบายด้านขาเข้าพระประแดงหนึ่งช่องทางเพื่อเร่งระบายการจราจร โดยการจราจรติดขัดเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ส่วนส้นทาง อ.พระสมุทรเจดีย์ ตั้งแต่สามแยกพระสมุทรเจดีย์มุ่งหน้าเข้าเส้นทางอู่ทหารเรือป้อมพระจุล น้ำทะเลล้นผิวจราจร
นายพีรพล ยังขาว หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า สำหรับระดับน้ำทะเลหนุนท่วมผิวจราจรบางส่วน ถือว่าเป็นเรื่องปกติของระดับทะเลในจังหวัดสมุทรปราการ ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดแต่อย่างใด อาจมีบางช่วงที่มีการจราจรติดขัด พอระดับน้ำทะเลลดลงก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติภายในระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
เร่งขนย้ายเครื่องจักรอออกจากนิคมฯอยุธยาขีดเส้น10พ.ย. นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า -ไฮเทค อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มพนักงานโรงงาน ต่างเร่งขนย้ายชิ้นส่วนอะไหล่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจมน้ำมาบรรทุกใส่เรือขนขึ้นรถตู้คอนเทนเนอร์ ที่จอดอยู่ริมถนนสายเอเชีย เพื่อนำไปยังพื้นที่อื่น โดยชิ้นส่วนที่เป็นอะไหล่ซึ่งผลิตเสร็จแล้วและรอที่จะส่งให้ลูกค้าในช่วงน้ำท่วม จะถูกลำเลียงไปส่งให้ลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศทางเรือ และเครื่องจักรบางส่วนจะนำไปติดตั้งที่โรงงานสาขา เพื่อให้สามารถเดินเครื่องผลิตได้ ทั้งนี้ในวันที่ 10 พ.ย. นี้ ทางจังหวัดจะมีคำสั่งปิดนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่ง ห้ามเข้า-ออก เพิ่มซ่อมแซมแนวกั้นน้ำและสูบน้ำออก เพราะหากปล่อยให้มีการขนย้ายจะเป็นอุปสรรคในการทำงานได้
นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากวันที่ 10 พ.ย. จะไม่อนุญาตให้ทุกบริษัทเข้าไปขนอุปกรณ์เครื่องมือ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมอีก เนื่องจากจะมีการเริ่มซ่อมแนวพนังกั้นน้ำในจุดที่น้ำกัดเซาะพังลง หลังจากนั้นในวันที่ 16 พฤศจิกายนเป็นต้นไป จะเริ่มมีการสูบน้ำออก ในการกู้นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ ได้ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูระดับจังหวัด ซึ่งระดมมาจากทุกภาคส่วนเพื่อกำหนดขั้นตอนแผนการทำงานในทุกระยะแล้ว
กฟผ.เปิดให้นิคมฯโรจนะขอใช้ไฟได้1พ.ย.
นายประสาทศิลป์ จาตุรนรัศมี ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟผ.) สาขาพระนครศรีอยุธยา เผยว่า จากการที่กฟผ.ได้รับมอบหมายให้เข้าไปดำเนินการกู้นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และจ่ายไฟในส่วนของสำนักงาน แต่ทางสำนักงานนิคมฯ ยังไม่พร้อม เนื่องจากอุปกรณ์และเบรกเกอร์จมน้ำทั้งหมดทำให้ยังไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ในเวลา 1-2 เดือนนี้ ดังนั้น บริษัทใดที่ใช้ไฟจากบริษัทโรจนะพาวเวอร์ ที่สามารถดำเนินการผลิตได้แล้ว สามารถยื่นคำร้องขอใช้ไฟฟ้าจากกฟผ.ได้ ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ หลังจากดำเนินการให้นิคมฯโรจนะแล้ว จะช่วยเหลือในนิคมฯ อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบต่อไป เพื่อให้เปิดดำเนินการได้ในวันที่ 16 ธ.ค.
คนแปดริ้วไม่หวั่น แม้น้ำบางปะกงทะลัก
เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำบางปะกงที่ไหลบ่าเข้าท่วมตัวเมืองฉะเชิงเทราในวันนี้ ซึ่งถือเป็นวันที่น้ำล้นสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แล้ว ที่มีน้ำไหลล้นออกมาจากลำน้ำบางปะกง ในปริมาณมาก จนท่วมพื้นที่ย่านเศรษฐกิจของตัวเมืองฉะเชิงเทรา และระดับยืนท่วมอยู่นานเกือบตลอดทั้งวัน โดยระดับน้ำขึ้นสูงสุดในวันนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ระดับเหนือจากน้ำทะเล 2.30 ม. ซึ่งมีระดับต่ำลงจากเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ประมาณ 5 ซม. ที่ได้เคยทำสถิติสูงสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ระดับเหนือน้ำทะเล 2.35 ม.
ขณะที่บรรยากาศภายในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา กลับไม่มีใครหวาดกลัวกับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในลำน้ำบางปะกง โดยหลายคนต่างยังพากันเชื่อมั่นว่าเป็นเพียงน้ำท่วมแบบชั่วคราว โดยเป็นการท่วมไปตามแรงหนุนของน้ำทะเล แล้วก็จะลดลงหายไป
นอกจากนี้ผู้ปกครองหลายรายยังต่างพากันนำพาบุตรหลาน ออกมาเล่นน้ำที่ไหลบ่าล้นออกมาจากลำน้ำ จนดูคล้ายกับธารน้ำตกที่ไหลรินอยู่ตามหุบเขา พร้อมกับยังพากันเกลือกกลิ้งไปมากับกระแสน้ำอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางรถลาที่ขับสัญจรผ่านไปมา ในย่านถนนสายเศรษฐกิจกลางใจตัวเมือง
นางประไพ วรสิทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/3 ถ.สรรค์ประสาสน์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะขับรถผ่านมาพร้อมกับบุตรชาย และหลานชาย วัย 7-8 ขวบ ซึ่งอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน ได้ร้องบอกอยากที่จะลงเล่นน้ำที่ไหลล้นออกมาจากลำน้ำ เนื่องจากไม่เคยเห็นมาก่อน จึงได้ปล่อยให้เด็กๆ ลงเล่นตรงบริเวณริมถนนมรุพงษ์ ติดกับแนวของลำน้ำบางปะกง เนื่องจากเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่น้ำเพิ่งไหลออกมาจากแม่น้ำและเป็นน้ำสะอาด จึงได้ปล่อยให้เด็กๆ พากันลงไปเล่นกับเพื่อนๆ เด็กคนอื่นๆ ที่ลงไปเล่นกันอยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยเด็กๆ เหล่านี้ต่างพากันตื่นเต้น ดีใจมาก เพราะไม่เคยเห็นน้ำท่วมในตัวตลาดของเมืองฉะเชิงเทรามาก่อน
ขณะที่ นายบุญทวี สุขรัตน์อมรกุล รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ที่ผ่านมาน้ำในลำน้ำบางปะกงได้ขึ้นสูงสุดสามารถตรวจวัดได้ ที่บริเวณใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติ ข้ามแม่น้ำบางปะกงเมื่อวานนี้ ที่ระดับสูงกว่าน้ำทะเล 2.35 เมตร ผิดไปจากการคำนวณของกรมอุทกศาสตร์ ที่ได้คำนวณไว้ว่าน้ำทะเลจะหนุนขึ้นสูงสุดในแม่น้ำบางปะกงในวันที่ 29 ต.ค.54 ที่ระดับ 2.32 เมตร และในวันที่ 30 ต.ค.จะลดลงกว่าวันที่ 29 อีก 4 ซม.
แต่ความเป็นจริงกลับปรากฏว่า น้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ไปอีก 3 ซม. เป็น 2.35 เมตร จึงทำให้การคำนวณหรือคาดการณ์ ระดับน้ำผิดคาดไปถึง 7 ซม. ขณะนี้จึงทำให้ยังหาเหตุผลมาอธิบายชี้แจงต่อชาวบ้านได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นน้ำเหนือจากตอนบน ที่ถูกปล่อยระบายลงมาในแม่น้ำบางปะกง ในปริมาณมาก จึงทำให้การคาดการณ์ หรือการคำนวณระดับน้ำผิดพลาดไป
"อย่างไรก็ตามชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้มีการเตรียมการรับมือไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นอย่างดีแล้ว จึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก" นายบุญทวี กล่าว