
ท่วมสนามบินดอนเมืองกว่า50%
สนามบินดอนเมืองน้ำท่วมกว่า 50 % แล้ว ย้ายผู้อพยพไปสนามกีฬาแห่งชาติแล้ว ส่วนย้าย ศปภ. อยู่ที่ นายกฯ สั่ง
วันที่ 26 ต.ค.54 ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ในเช้าวันนี้ ระดับน้ำมีแนวโน้นเพิ่มสูงขึ้น โดยระดับน้ำสูงประมาณ 30 - 40 ซม. รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่รถของเจ้าหน้าที่ทหารยังคงจัดให้บริการรับ - ส่งผู้โดยสารที่ยังคงติดค้าง โดยเจ้าหน้าที่จะนำประชาชนไปส่งตามจุดต่างๆ อาทิ ตลาดสี่มุมเมือง ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขณะที่รถร่วมบริการของ ขสมก. ยังคงให้บริการรับส่งที่บริเวณหน้าสนามบินดอนเมืองเท่านั้น
จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ประจำ ศปภ. ยืนยันว่า สถานการณ์น้ำล่าสุดในขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วง โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมภายในท่าอากาศยานดอนเมืองกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่แล้ว ขณะที่การขนย้ายผู้ประสบภัยจาก ศปภ. ไปยังสนามกีฬาแห่งชาติ หรือศูนย์พักพิงที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้นั้น ขณะนี้ได้เคลื่อนย้ายไปจนเกือบหมดแล้ว ส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์นั้น ยังคงดำเนินการตามปกติ และต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าจะมีนโยบาย หรือทำการเคลื่อนย้าย ศปภ. ไปยังจุดอื่นหรือไม่
นกแอร์เล็งบินสุวรรณภูมิ
ทางด้านนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ ชื่อผู้ใช้ @Patee122 ชี้แจงกรณีตั๋วเครื่องบิน สามารถเลื่อนการเดินทางออกไปได้อีก ภายในเวลา 3 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่ต้องระบุวัน ส่วนกรณีคืนตั๋ว สามารถทำได้ ส่วนคอลเซนเตอร์นกแอร์ 1318 ช่วงนี้จะติดต่อยาก เนื่องจากมีผู้โดยสารโทรเข้ามาจำนวนมาก ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่แล้ว จะพยายามสุดความสามารถ ขออภัยในความไม่สะดวก จะพยายามปรับแผนบินชั่วคราวที่สุวรรณภูมิให้เร็วที่สุด ต้องขอขอบคุณการท่าอากาศยานที่เร่งแก้ไขสนามบินดอนเมืองอย่างเต็มความสามารถ นี่คือภัยธรรมชาติ ทุกฝ่ายพยายามอย่างที่สุดแล้ว
บินไทยวางแผนเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม
นายสมรรถ พุ่มอ่อน ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนการตอบสนองภาวะฉุกเฉินและวิกฤติ (ซีม็อค) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้การบินไทยยังให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามปกติ แต่มีการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ถึงขั้นเตรียมพร้อมอพยพ จะให้นักบินมาเตรียมพร้อมบริเวณสนามบินและเติมน้ำมันเครื่องบินพร้อมเคลื่อนย้าย
โดยเบื้องต้นได้สำรองสนามบินไว้ 6 แห่ง และสนามบินฉุกเฉิน 2 แห่ง ทั้งหมดเป็นสนามบินในประเทศที่การบินไทยทำการบินอยู่ ส่วนจะไปสนามบินใดนั้น จะต้องพิจารณาจากสภาพอากาศอีกครั้งว่า ควรบินไปลงที่ใด ก่อนหน้านี้การบินไทยได้เตรียมพร้อมในการตั้งรับสถานการณ์น้ำท่วมไว้แล้ว ส่วนหนึ่งได้ย้ายอุปกรณ์ปฏิบัติงานภาคพื้นไปยังสนามบินอู่ตะเภาเพิ่มเติม จากเดิมมีอุปกรณ์ 2 ชุด และได้จัดหาที่พักให้นักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และพนักงานที่ให้บริการภาคพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม