ข่าว

รมว.กต.ปัดไทยไม่รับความเหลือจากสหรัฐ

รมว.กต.ปัดไทยไม่รับความเหลือจากสหรัฐ

25 ต.ค. 2554

รมว.กต.ปัดไทยไม่รับความเหลือUSA แต่ขอให้ทำลายลักษณ์อักษรก่อน ชี้สหรัฐก็ส่งจนท.ลงพื้นที่กับจนท.ไทยแล้ว รมว.กห. แจงรับความช่วยเหลือจากสหรัฐตามความจำเป็น ชี้ไม่ต้องใช้เครื่องบินอินฟาเรดค้นหา

         25ต.ค.2554 นายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ทางการสหรัฐระบุว่าไทยไม่ไม่พอใจที่ไทยไม่รับความช่วยเหลือ และนำความช่วยเหลือกลับสหรัฐว่า ได้มีการคุยกัน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งจะกลับไปหารือที่กระทรวงว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ทั้งนี้เท่าที่ทราบทางสหรัฐกับทหารไทย ได้ร่วมกันและเดินทางไปลงพื้นที่ และมีข้อสรุปร่วมกัน ซึ่งตนยังไม่เห็น จึงจะให้ผู้เกี่ยวข้องทำข้อสรุปเป็นลายลักษณ์อักษรมาก่อน แต่ตอนแรกที่สหรัฐประสงค์จะให้ความช่วยเหลือ ไทยก็ยินดี จากนั้นได้มีการส่งเจ้าหน้าที่นาวิกโยธินมาร่วมประชุมกับกองทัพไทย แต่ล่าสุดเป็นอย่างไร ต้องขอดูรายงานก่อน

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีปัญหา เป็นปัญหาจากองทัพหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จะต้องรอดูอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร แต่จนถึงขณะนี้เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ก็ยังไม่มีการติดต่อมา ขณะเดียวกันยังไม่ทราบว่าผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเดินทางกลับแล้วหรือไม่ แต่เห็นว่าหากสหรัฐจะเดินทางกลับแล้ว แต่ประเทศอื่นไม่มีปัญหา เช่นจีนก็ยังสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่นเรือ แต่ไม่ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมา

          นอกจากนี้ นาย สุรพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ได้มอบหมายให้ให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงท่องเที่ยวฯ ดูแลสถานทูตและบ้านพักเอกอัครราชทูตที่ประจำ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ประสบปัญหา เพราะรัฐบาลต้องการให้ข้อมูลที่รวดเร็วกับนักท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะมีการแจ้งเตือน และอาจจะมีศูนย์กลางของกระทรวงการต่างประเทศ หรือข้อมูลการท่องเที่ยว โดยจะเปิดสายด่วน ฮ็อตไลน์ เพื่อให้มีการติดต่อได้โดยตรง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสถานทูตใดได้รับผลกระทบ แต่มีบ้านพักของเอกอัครราชทูตต่างประเทศได้รับบผลกระทบแล้ว และได้ย้ายออกมาพักอยู่ที่โรงแรมแล้ว


 รมว.กห.แจงรับความช่วยเหลือจากสหรัฐตามความจำเป็น



          พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ กระแสกองทัพไทยปฏิเสธการช่วยเหลือ จากสหรัฐอเมริกาที่จะรับเครื่องบินในการช่วยเหลือ และ แก้ไขปัญหาในการเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไร โดยได้มอบสิ่งต่างๆที่ทางสหรัฐอเมริกาให้มากับกองทัพอากาศแล้ว ทั้งนี้หากมีความจำเป็นจะต้องใช้ของสหรัฐอเมริกาก็ต้องใช้ ซึ่งสิ่งที่เขานำมามอบให้เราไม่ว่าจะเป็นกระสอบทราย หรือเครื่องมือต่างๆ เราก็ใช้ของเขาหมด แต่ที่เราไม่ได้ใช้ก็คือเครื่องบิน เพราะเรามีเครื่องของเราอยู่แล้ว ตอนนี้เครื่องจอดอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา และในการที่จะไปใช้เครื่องของเขานั้น มันจะต้องมีขั้นตอนในการไปขอเพื่อที่จะให้มีการบินเข้ามาได้ ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือพิเศษอะไร

          “ได้ลาดตระเวนตรวจดูน้ำท่วม ว่าตรงไหนมันเป็นจุดวิกฤต ก็ไปดูตรงจุดนั้น ซึ่งแก้ปัญหาของเราได้ มันจึงไม่ต้องใช้เครื่องมือในกรณีพิเศษ ในการที่จะไปค้นหาโดยใช้อินฟราเรดในการตรวจค้น ซึ่งคิดว่าไมมีความจำเป็นเลย เพราะเรือของเราสามารถเข้าไปตรวจหา คนที่ยังไม่ยอมออกมาได้ และเครื่องบินของเรา เฮลิคอปเตอร์ บินดูก็จะเห็นว่ามีกระท่อมเล็กๆ ก็แจ้งไปที่เรือของเราให้ไปตรวจหาดู” พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว

 

“ฐิติมา”ชี้เรือรบสหรัฐไม่ได้ถอนความช่วยเหลือ


         นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีที่กองทัพเรือของสหรัฐอเมริกา ไม่พอใจที่ทางการไทยไม่รับความช่วยเหลือและเดินทางกลับ ว่า ขอยืนยันว่าไทยรับความช่วยเหลือแล้วและต้องขอบคุณทางการสหรัฐอเมริกาที่ช่วยเหลือไทย ในการบรรเทาอุบัติภัยหลายด้าน อาทิการมอบเงินช่วยเหลือ หารส่งทหารเข้าร่วมปฏิบัติการ ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือ เพราะเรือลำนี้ได้เดินทางผ่านภูมิภาคนี้ในระยะเวลานี้อยู่แล้ว และต้องออกไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอื่นต่อ จึงไม่ใช่การถอนความช่วยเหลือ


ประกาศหยุดยาว 5 วัน ใน 21 จังหวัด



         ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นว่าวันที่ 29 ต.ค.นี้น้ำทะเลจะหนุนสูงมาก จึงต้องพยายามที่จะเร่งระบายน้ำและขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจด้วยว่าเวลามีไม่มาก ควรจะต้องรีบเร่งดำเนินการต่อไป โดยที่ประชุมคณธรัฐมนตรีได้ประกาศวันหยุดพิเศษ ในวันที่ 27-31 ต.ค.นี้ในพื้นที่ประสบอุทกภัย 21 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี นครปฐม กำแพงเพชร ตากและกรุงเทพมหานคร โดยยกเว้นหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับ 9 ขั้นไป เพราะจำเป็นต้องอยู่ช่วยงานเพื่อดูแลประชาชน ส่วนธนาคารก็ให้ไปพิจาณาเองว่าจะหยุดวันไหนอย่างไร ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือในส่วนภาคเอกชนในเรื่องของการหยุดงานของพนักงาน แต่ถ้าเอกชนใดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารหรือผลิตน้ำ ซึ่งเป็นสินค้าขาดแคลนนั้นยังไม่สามารถหยุดได้ ทั้งนี้พนักงานที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า และประปา ยังคงต้องทำงานอยู่ รวมถึงที่ประชุม ครม.ยังมีมติให้เลื่อนการเปิดภาคเรียนไปวันที่ 15 พ.ย.ในส่วนสังกัดกรุงเทพมหานคร


กระทรวงทรัพย์ เปิดอุทยานที่ฉะเชิงเทรารองรับ 10,000 ครอบครัว



         นางฐิติมา กล่าวต่อว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รายงานในที่ประชุม ครม. ว่า อุทยานในจังหวัดฉะเชิงเทราหรือในพื้นที่ใกล้กับกรุงเทพมหานคร นั้นมีบ้านพักให้กับประชารองรับได้จำนวน 10,000 ครอบครัว สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) หรือสายด่วน 1111 กด 5 ทั้งนี้กระทรวงแรงงานได้แจ้ง ว่าประชาชนสามารถอพยพไปอยู่ที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐมรองรับได้ 1,000 คน


         นางฐิติมา กล่าวว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในที่ประชุม ในช่วงที่มีน้ำขึ้นสูงสุดนั้นจะมีลมใต้จึงทำให้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้นอีกประมาณ 30-50 เซนติเมตร ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แจ้งในที่ประชุม ครม. ว่าการปิดประตูระบายน้ำพระราม 6 เพื่อให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเหลือน้อยที่สุด จึงขอทำความเข้าใจกับประชาชนในจังหวัดชัยนาทไว้ด้วย


ตั้ง รมต.ดูแลพื้นที่ สำคัญ ใน กทม.


         นางฐิติมา กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบเรื่องการมอบหมายความรับผิดชอบป้องกันดูแลพื้นที่สำคัญ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตามคำสั่งของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2554 โดยมอบหมายให้ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปฏิบัติหน้าที่กำกับติดตาม ประสานงานและสื่อสาร การที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเป็น 1.สถานที่สำคัญ ได้แก่ พระบรมมหาราชวัง โรงพยาบาลศิริราช ที่ประทับพระบรมวงศ์ มีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับผิดชอบหลัก และมีกองบัญชาการกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้สนับสนุน สำหรับสถานที่ราชการ ได้แก่ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และศาล ให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบหลัก โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้สนับสนุน ขณะที่โรงพยาบาล มอบให้นายวิทยา บูรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกับนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบหลัก โดยมี กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภากาชาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร เป็นผู้สนับสนุน ส่วนศูนย์พักพิง มอบนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับนายเผดิมชัย สระสมทรัพย์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รับผิดชอบหลัก โดยมีกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการและกรุงเทพมหานคร สนับสนุน


         ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสถาบันการเงิน มอบนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายบุญทรง เตยาภิรมย์และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบหลัก สำหรับมหาวิทยาลัยและสถานที่สำคัญ มีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกับนางบุญรื่น ศรีธเรศ นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบหลัก


         โบราณสถานและวัดสำคัญ มีนางสุกุมล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รับผิดชอบหลัก ส่วนเรือนจำและสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มอบหมายพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบหลัก และหน่วยงานของรัฐ มอบหมายหัวหนาหน่วยงาน รับผิดชอบหลัก


         2.พื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค และเส้นทางคมนาคม โดยสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง สถานีรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดินและสถานีขนส่ง มอบพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รับผิดชอบหลัก ส่วนโรงผลิตน้ำประปา โรงไฟฟ้า มอบหมายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ และนายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบหลัก คลังน้ำมันและระบบเชื้อเพลิง มอบหมายนายพิชัย นริพทะพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับผิดชอบหลัก สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมาย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รับผิดชอบหลัก และพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่สำคัญภาคเอกชน มอบหมายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคนร รับผิดชอบหลัก


         3.การอพยพผู้ประสบภัย มอบหมายนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับ นายสัติ พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับผิดชอบหลัก

         4.การจัดหาและการขนส่งสินค้าอุปโภค บริโภค มอบหมายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิช นายภูมิ สาระผลและนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิช เป็นผู้รับผิดชอบหลัก
        
         5.การระบายน้ำสู่ทะเลและการบำบัดน้ำเสีย มอบหมายนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับผิดชอบหลัก

         6.การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและการจราจร มอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบหลัก

         7.การช่วยเหลือชาวต่างประเทศสถานทูตและองค์กรระหว่างประเทศ มอบหมายนายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับนายชุมพล ศิปอาชา รัฐมนตรีว่าการากระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา รับผิดชอบหลัก

         8.การประชาสัมพันธ์ มอบหมายน.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบหลัก