
'กุโบร์'จมน้ำมัสยิดนูลุ้ฮูดาวิกฤติ
"กุโบร์" จมบาดาล มัสยิดนูลุ้ฮูดา...วิกฤติ : โต๊ะรายงานพิเศษ รายงาน
ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลทะลักเข้าท่วมแทบทุกพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันแทบทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.บ้านพลับ อ.บางปะอิน ซึ่งมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ขณะนี้น้ำยังคงท่วมสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลให้ประชาชนอาศัยอยู่อย่างลำบาก ในจำนวนนี้รวมถึงชาวไทยมุสลิม ที่อาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
น้ำที่ท่วมสูงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทั้งการละหมาด และพิธีฝังศพกรณีที่มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากน้ำท่วมมัสยิด และกุโบร์ สถานที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญจนมิด อย่างเช่น มัสยิดนูลุ้ฮูดา ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต่อเนื่องหมู่ 5 ต.บ้านพลับ ไม่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยามากนัก บริเวณมัสยิดถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร แม้หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2538 ชาวมุสลิมในชุมชนแห่งนี้จะร่วมมือกันก่อสร้างอาคารมัสยิดใหม่โดยยกพื้นสูงจากเดิมเกือบ 2 เมตรแล้ว แต่ขณะนี้น้ำก็ยังท่วมถึงจนไม่สามารถใช้เป็นพื้นที่ละหมาดได้ ทำให้ชาวมุสลิมในชุมชนดังกล่าวต้องย้ายไปใช้พื้นที่ชั้น 2 อาคารโรงเรียนสอนศาสนาซึ่งปลูกติดกันแทน
"ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีครั้งไหนลำบากมากเท่าครั้งนี้ น้ำท่วมสูงมานานนับเดือน ต้องพายเรือออกจากบ้านมาละหมาดที่อาคารเรียนข้างมัสยิดซึ่งมีน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตรล้อมรอบ รู้สึกไม่สบายใจเพราะตอนนี้เหมือนต้องทำพิธีทางศาสนาในน้ำ ซึ่งไม่ค่อยเหมาะสม" ปรีชา พงษ์ปกา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.บ้านพลับ ซึ่งเป็นชาวไทยมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนา บอกพร้อมชี้ไปทาง "กุโบร์" สถานที่ฝังศพผู้เสียชีวิตของชาวไทยมุสลิม ไม่ห่างจากอาคารมัสยิดนูลุ้ฮูดามากนัก ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตรเช่นกัน
"ต้องขอพรจากพระเจ้า ในเวลานี้ขออย่าได้มีใครในชุมชนเสียชีวิต เพราะไม่มีสถานที่ฝังศพ เนื่องจากตามหลักศาสนาอิสลามแล้วต้องฝังศพคนตายภายใน 24 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันกุโบร์ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่จนไม่สามารถใช้ในการฝังศพได้ หากมีใครเสียชีวิตจะยากลำบากเป็นอย่างยิ่งเพราะต้องนำศพไปฝังในพื้นที่อื่น ขณะนี้แทบทุกอณูพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จมอยู่ใต้น้ำแทบทั้งหมด" ผู้ใหญ่ปรีชาบอกด้วยสีหน้ากังวล
นอกจากความเป็นห่วงเรื่องการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิถีของชาวไทยมุสลิมแล้ว ปัจจุบันชาวตำบลบ้านพลับ ทั้งหมด 5 หมู่บ้าน รวม 750 ครัวเรือน มีประชากรรวมกันมากกว่า 2,000 คน ต้องอยู่ด้วยความหิวโหย เนื่องจากขาดแคลนอาหารอย่างหนัก เพราะถูกน้ำท่วมพื้นที่สูงมานานนับเดือน อาหารและน้ำดื่มที่กักตุนไว้ถูกใช้ไปหมดแล้ว ขณะที่การช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าไม่ถึงพื้นที่
"ผมต้องพายเรือฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และเดินเท้าต่อออกจากหมู่บ้านเป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร เพื่อออกไปรอรับของบริจาคที่ริมถนนสาย 347 ช่วงระหว่างบางปะหัน-พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากการช่วยเหลือเข้ามาไม่ถึงในหมู่บ้าน โชคดีที่ยังเป็นคนหนุ่มยังพอมีเรี่ยวแรงออกไปรับของบริจาค สงสารก็แต่คนแก่และเด็กในหมู่บ้านเพราะไม่สามารถออกไปรับของบริจาคได้ แทบทุกคนต้องอยู่ด้วยความหิวโหย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปหลายคนต้องอดตายแน่" สมศักดิ์ พงษ์เสรี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.บ้านพลับ บอก
สมศักดิ์ บอกด้วยว่า ถนนภายในหมู่บ้านแม้น้ำจะท่วมสูง แต่รถบรรทุกขนาดใหญ่ยังพอวิ่งได้ จึงอยากให้ทหารและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเร่งนำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่บ้าง เพราะตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมมาแทบไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยถึงหมู่ 5 ต.บ้านพลับเลย หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงมีคนตายเพราะความหิวโหยจำนวนมากแน่
"ผมเข้าใจดีว่าในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงเข้าถึงพื้นที่ได้ลำบาก แต่ก็อยากให้ใช้ความพยายามให้มากกว่านี้ เพราะทุกครั้งที่ผมออกมาถึงถนนใหญ่จะเห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ของทหารจอดอยู่จำนวนมาก ไม่รู้ว่าจะจอดไว้เฉยๆ ทำไม หากไม่มีสิ่งของบริจาคก็ไม่เป็นไร เพียงแค่ไปวิ่งรับส่งผู้ประสบภัยออกมานอกพื้นที่น้ำท่วมสูงก็ยังดี ให้เขาได้มารับอาหารประทังชีวิตกันบ้าง" สมศักดิ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเจืออารมณ์โกรธ
ทั้งนี้พื้นที่ ต.บ้านพลับ อ.บางปะอิน ประชากรจำนวนมากนับถือศาสนาอิสลาม ในพื้นที่กำลังขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มอย่างหนัก ซึ่งหากมีใครหรือหน่วยงานใดต้องการนำสิ่งของไปบริจาค ควรจะเป็นอาหารที่มีตราฮาลาลรับรองเป็นหลัก สามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือได้ที่นายปรีชา พงษ์ปกา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.บ้านพลับ หมายเลขโทรศัพท์ 08-7038-7312