'ทหารช่าง'ขุด3คลองผันน้ำลงท่าจีน | คมชัดลึก

            หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กองทัพบก โดยกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี เร่งดำเนินการขุดลอกคูคลองฝั่งตะวันตกของ กทม. เพื่อระบายปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลที่มาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา

            พ.อ.สมศักดิ์ แสวงศักดิ์ รองเสนาธิการ กองพลทหารช่าง กล่าวถึงภารกิจของทหารช่างในการขุดลอกคูคลองฝั่งตะวันตกของ กทม. ว่า ทหารช่างได้รับมอบหมายให้เร่งดำเนินการขุดลอกคูคลอง 3 สายทางฝั่งตะวันตกของ กทม. ดังนี้

            1.คลองงิ้วราย ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ระยะทาง 2 กิโลเมตร 2.คลองทรงคนอง ต.ทรงคนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม ระยะทาง 2.14 กิโลเมตร และ 3.คลองท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร

            พ.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า การขุดลอกคลองทั้ง 3 สายดังกล่าวจะทำให้น้ำเดินทางลงสู่แม่น้ำท่าจีนเร็วขึ้น ตามแนวทางของคลองลัดโพธิ์ในพระราชดำริ

            "จริงๆ ลำคลองเดิมก็สามารถระบายน้ำได้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากไม่ได้ดูแลรักษาทำให้มีเศษวัชพืช และมีเศษตะกอนทับถมทำให้ตื้นเขิน ดังนั้น จึงมีการขุดลอกเพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น โดยใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 5 วัน" พ.อ.สมศักดิ์กล่าว
           
            สำหรับยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการขุดลอก ได้แก่ รถแบ็กโฮ จำนวน 12 คัน (คลองละ 4 คัน) เรือทุ่นสำหรับเก็บขยะ และวัชพืช โดยมีกำลังพลเข้าร่วมปฏิบัติการ จำนวน 40 นาย

            พ.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า หากยุทโธปกรณ์ และกำลังพลดังกล่าวไม่เพียงพอ กรมทหารช่างสามารถจัดสรรมาเพิ่มเติมได้ และเชื่อว่า การขุดลอกคลองทั้ง 3 สายดังกล่าวจะสามารถช่วยเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีนได้เร็วขึ้น

            นายบุญสนอง สุชาติพงศ์ โฆษกกรมชลประทาน การที่รัฐบาลจะขุดคลอง 3 คลอง ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า จะสามารถระบายน้ำได้วันละเท่าไร แต่เบื้องต้นถือว่าเป็นประโยชน์อย่างสูง เพราะคลองทั้งสามดังกล่าวสามารถช่วยระบายน้ำได้วันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะสามารถช่วยระบายปริมาณน้ำช่วยแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกมาก

            นอกจากนี้ จากการที่กรมชลประทานร่วมกับทหารช่าง ขุดคลองฝั่งตะวันออกของ กทม. จำนวน 8 สาย ถือว่าช่วยได้อีกทางหนึ่ง เพราะสามารถช่วยระบายได้อีกวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร

            ทั้งนี้ ข้อมูลที่สำคัญของ "แม่น้ำนครชัยศรี" หรือ "แม่น้ำท่าจีน" โดยเฉพาะช่วงที่ไหลผ่าน จ.นครปฐม ซึ่งจะถูกใช้เป็น "ทางด่วนน้ำ" ในการระบายน้ำลงสู่ทะเลในฝั่งตะวันตกในครั้งนี้จะกินพื้นที่ของ จ.นครปฐม ในช่วง อ.บางเลน อ.นครชัยศรี และ อ.สามพราน

            โดยในพื้นที่ดังกล่าวจะมีลำคลองที่สำคัญๆ มีทั้งคลองธรรมชาติ และคลองที่ขุดขึ้นเพื่อเชื่อต่อกันระหว่างคลองต่อคลองอยู่มากมายเนื่องจากสภาพภูมิประเทศของแม่น้ำท่าจีนมีลักษณะคดเคี้ยวมาก ทำให้บางแห่งต้องขุดคลองลัด เพื่อย่นระยะการเดินทางทางเรือ

            อย่างไรก็ตาม แม้จะมี "คลองมหาสวัสดิ์" ทางฝั่งขวาของแม่น้ำท่าจีน ที่เชื่อมต่อแม่น้ำท่าจีน กับ "คลองบางกอกน้อย" ซึ่งถือเป็นทางลัดระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการรองรับมวลน้ำเหนือปริมาณมหาศาลจากแม่น้ำเจ้าพระยาในห้วงเวลาเช่นนี้ได้

            ดังนั้น รัฐบาล กรมชลประทาน และกองทัพ จึงตัดสินใจขุด "คลองลัด" เพื่อให้น้ำไหลได้เร็วขึ้นจำนวน 3 คลองดังกล่าว โดยเป็นการตัดลัดจากคลองไปสู่อีกคลอง เพื่อให้กระแสน้ำไหลเร็วขึ้น ทั้งเพื่อป้องกันพื้นที่ชั้นในของ กทม. และช่วยระบายน้ำจากที่ภาคกลาง

            โดยจุดตัด และจุดเชื่อมต่อที่มีการขุดลัดทั้ง 3 คลองดังกล่าว มีรายละเอียด ดังนี้

            1.คลองลัดงิ้วราย หรือคลองลัดท่ามอญ ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นคลองลัดระหว่างบ้านงิ้วราย กับวัดไทยาวาส มีความยาว 2 กิโลเมตร ซึ่งปกติเป็นคลองที่ใช้สัญจรสู่วัดไร่ขิงได้รวดเร็วขึ้น

            2.คลองลัดอีแท่น หรือคลองทรงคนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม เชื่อมต่อระหว่างวัดหอมเกร็ด กับวัดทรงคะนอง

            3.คลองลัดท่าคา หรือคลองท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.สามพราน เป็นคลองที่ขุดลัดช่วงวัดท่าข้าม ไปออกทะเลที่หน้าวัดเชิงเลน
 
            การเร่งขุดลอกคลองดังกล่าว สอดคล้องกับการผันปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลถึง 721 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลงสู่แม่น้ำ และท้องทุ่งฝั่งตะวันตกของ กทม.มากขึ้น ส่วนจะทันการณ์กับมวลน้ำปริมาณมหาศาลที่จ่อทะลักกรุงหรือไม่ ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป