'ลูกเสือ กศน.นครปฐม'รวมใจต้านภัยน้ำท่วม | คมชัดลึก

      นับเป็นเวลาหนึ่งร้อยปีเศษแล้ว ที่กิจการลูกเสือไทยได้กำเนิดขึ้นตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2554 ภายใต้ร่มพระบารมีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรีไทย ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล พระองค์ทรงทำหน้าที่เมื่อครั้งเสด็จฯ ไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ ได้ทอดพระเนตรกองลูกเสือเล็กๆ ของประเทศอังกฤษ ที่เกิดขึ้น โดยเป็นกองลาดตระเวนสอดแนมให้แก่ประเทศอังกฤษ ในยามที่ประเทศมีศึกสงคราม     

      เมื่อร้อยปีที่ผ่านมา ในประเทศไทยก็เช่นกัน ได้เกิดกองลูกเสือขึ้นเป็นครั้งแรก และดำเนินกิจการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เด็กที่เป็นสมาชิกในกองลูกเสือส่วนใหญ่ล้วนเป็นเยาวชนที่อยู่ในระบบโรงเรียนแทบทั้งสิ้น จนเมื่อปลายปี พ.ศ.2545 ภายหลังจากประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดงานชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 20 ที่หาดยาว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นต้นมา กองลูกเสือของสำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน หรือปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อหน่วยงานเป็น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่ใช้ชื่อย่อเหมือนเดิมว่า “กศน.” ก็เริ่มมีการขยายกิจการลูกเสือลงสู่สถานศึกษาในสังกัด ที่กระจายอยู่ทุกตำบล อำเภอ และทุกหย่อมหญ้าทั่วประเทศ 

      กระบวนการลูกเสือที่ “กศน.” จัดอยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นการสอดแทรกหลักการของลูกเสือให้อยู่ในทุกรายวิชา ทุกระดับ ในลักษณะการจัดค่ายบูรณาการการเรียนรู้ เพื่อฝึกฝนตนเองของนักศึกษาและผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้เป็นผู้มีระเบียบวินัย มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีจิตสาธารณะ พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎ 10 ข้อของลูกเสือ และคำปฏิญาณ 3 ข้อที่เน้นให้เหล่าลูกเสือต้องมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ มีความกตัญญู เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ ฯลฯ จึงทำให้ผู้ที่สมัครเข้ามาเป็นลูกเสือโดยความสมัครใจทั้งหลายถูกซึมซับให้ปฏิญาณตนอยู่ในกรอบวินัย ศีลธรรมอันดีงาม โดยไม่รู้ตัว

      ยามที่ประเทศมีศึกสงคราม กองลูกเสือก็จะช่วยสอดแนมและรายงานความก้าวหน้ามาให้ผู้นำทัพรับทราบ ทุกคนที่เป็นลูกเสือหรือผู้ใหญ่ที่เป็นเสือป่า ต่างล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การยอมเสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมโดยไม่บ่น ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ทุกคนจะผลัดกันเป็นผู้นำและผู้ตาม ตามบทบาทที่ได้รับมอบหมาย จะร่วมกันทำงานเป็นหมู่คณะ ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกหรือแบ่งฝ่าย จุดศูนย์รวมของชาวไทยจะอยู่ที่พระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นประมุขของประเทศ และเป็นประมุขของลูกเสือไทยทั้งปวง

      แม้ยามนี้ ที่ประเทศไทยต้องฟันฝ่าวิกฤติอุทกภัยอันใหญ่หลวง บ้านเรือนหลายจังหวัดได้รับความเสียหายจำนวนมาก คนไทยหลายฝ่ายและหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างแสดงน้ำใจ ช่วยเหลือ แบ่งปันอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภคมากมาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนพี่น้องที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้

      กระทรวงศึกษาธิการ โดยเลขาธิการ กศน. นายประเสริฐ บุญเรือง ได้มอบหมายให้ผู้บริหาร กศน.ระดับ จังหวัดทุกคน รายงานผลความเสียหาย และเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ต่อนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในเวลา 14.00 น.ของทุกวัน เพื่อเร่งแก้ปัญหา และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น

      ล่าสุด คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหาร กศน. ได้ไปตรวจเยี่ยมสถานศึกษาในสังกัด กศน.ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วม และไปเยี่ยมเยียน แจกถุงยังชีพแก่ประชาชนแล้วหลายหมื่นชุด

      สำหรับ กศน.จังหวัดนครปฐม นำทีมโดย ดร.กษมา โรจนนิล ยุกตะทัต ผู้บริหารระดับจังหวัดที่คว่ำหวอดอยู่ในแวดวงกิจการลูกเสือมาโดยตลอด เปิดเผยว่า อุทกภัยครั้งนี้ร้ายแรงมาก กองลูกเสือ กศน.ที่มีอยู่ ซึ่งมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ จึงตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่ที่ กศน.นครชัยศรี ณ วัดท่าตำหนัก ริมถนนเพชรเกษม ก่อนเข้าตัวเมืองนครปฐมประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อวางแผนร่วมกับชุมชน แม่น้ำท่าจีน ที่เคยประสบอุทกภัยครั้งก่อน เมื่อปี 2538 และ 2549

      โดยจะหาทางเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งละ 200 ลูกบาศก์เมตร ผ่านลงสู่แม่น้ำท่าจีน ที่มีความเลี้ยวลดคดเคี้ยวมาก เพื่อลงสู่ จ.สมุทรสาคร บรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงมาจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา “กองลูกเสือ กศน.นครปฐม” จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมด้วยช่วยกันบริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ตลอดจนงบประมาณเป็นค่าน้ำมันเรือ

      พร้อมรวมใจกันต้านภัยน้ำท่วมร่วมกับชุมชนลุ่มแม่น้ำท่าจีน อ.นครชัยศรี เพื่อเป็นการแก้ปัญหาน้ำทะลักไหลบ่าเข้าสู่กรุงเทพมหานครอีกทางหนึ่ง ผู้มีจิตศรัทธาสามารถติดต่อบริจาคผ่านกองลูกเสือ กศน.นครปฐม ได้ทุกตำบล และทุกอำเภอ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลข 08-19423175 และหมายเลข 0-3439-5104 ในเวลาราชการ