ข่าว

น้ำทะลักท่วมรอบองค์พระปฐมเจดีย์

น้ำทะลักท่วมรอบองค์พระปฐมเจดีย์

10 ต.ค. 2554

น้ำเริ่มทะลักเข้าพื้นที่รอบองค์พระปฐมเจดีย์ หลังฝนตกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 วัน เศรษฐีประกาศขายบ้านหนีหลายหลัง แปดริ้วออกประกาศเตือนภัยฉุกเฉินแล้วหลังน้ำจ่อทะลัก ตร.ภาค1ร่วมกับตร.นนท์มอบเรือและเครื่องอุปโภคกับชาวบ้าน

            เมื่อเวลา17.00 น. วันที่ 10 ต.ค.2554 หลังจากที่ฝนหยุดหลังจากที่กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น. ปรากฏว่ามีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งน้ำที่ท่วมขังมีความสูงประมาณ 50- 60 เซนติเมตร ทำให้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านซึ่งมีฐานะในระดับเศรษฐี ต้องผวากับน้ำที่ท่วมขังจนทำให้การขับรถหรือการสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งบางหลังได้มีการติดป้ายประกาศขายแล้วหลายหลัง

            นอกจากนี้ในเขตพื้นที่เทศบาลนครนครปฐมหรือบริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ได้มีน้ำท่วมขังหลายแห่งจนทำให้การจราจรติดขัดและมีรถยนต์ที่ลุยน้ำมาจอดเสียจำนวนหลายคัน รวมไปถึงถนนเพชรเกษมช่องทางคู่ขนานหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส บิ๊กซี ก็มีน้ำท่วมขังสูงมากถึง60 เซนติเมตร และบางซอยก็มีน้ำท่วมขังจนต้องปิดการจราจร

            นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาทำให้ถนนหลายสาย รวมทั้งถนนในบริเวณศาลากลางจังหวัดมีน้ำท่วมขังไม่สะดวกในการจราจร เนื่องจากการระบายน้ำไม่ทันประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนสูงขึ้นทำให้เอ่อล้นตลิ่งเป็นบริเวณกว้างกว่าเดิม ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในฐานะศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยจังหวัดนครปฐม ได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 13 ดำเนินการลดระดับน้ำในคลองชลประทาน และเร่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ

            พร้อมทั้งเปิดพื้นที่การเกษตรที่เก็บเกี่ยวแล้วให้เป็นพื้นที่รับน้ำ พร้อมทั้งได้ร่วมกับกรมเจ้าท่า โดยสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 3 สาขานครปฐม นำเรือจำนวน 14 ลำ ประจำตามจุดต่างๆ 4 จุด ประกอบด้วย บริเวณสะพานวัดเทียนดัด สะพานอำเภอสามพราน สะพานโพธิ์แก้ว และสะพานวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน เพื่อผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนอย่างเร่งด่วนแล้ว

            สำหรับสถานการณ์น้ำในภาพรวมของจังหวัดนครปฐมขณะนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้าจังหวัดทั้งสิ้น 28-56 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และปริมาณน้ำที่ระบายออกจากจังหวัดทั้งสิ้น 45.47 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือมากกว่าน้ำที่ไหลเข้าจำนวน 16.91 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และปัจจุบันพื้นที่นครปฐมได้มีการประกาศเขตภัยพิบัติไปแล้ว 6 อำเภอ จาก 7 อำเภอ มีพื้นที่น้ำท่วมแล้วจำนวน 59 ตำบล
 


แปดริ้วออกประกาศเตือนภัยฉุกเฉินแล้วหลังน้ำจ่อทะลัก

 
            ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ในย่านเศรษฐกิจ เขตชุมชนเมืองของจังหวัด ต่างได้รับใบปลิวแจ้งเตือนภัย ที่ถูกนำออกมาแจกจ่าย เผยแพร่ โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ เตรียมเก็บข้าวของหนีน้ำขึ้นไว้ในที่สูง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำบางปะกงจะเอ่อล้นออกมาท่วมตัวเมือง โดยจะมีระดับสูงถึงประมาณ 50 ซม.

            โดยหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าว ออกโดย สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 10 ต.ค.54 เพื่อให้นำเผยแพร่ออกผ่านทางสื่อมวลชนในท้องถิ่น โดยระบุข้อความว่า ประกาศศูนย์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ จ.ฉะเชิงเทรา แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำบางปะกง และลุ่มน้ำสาขาที่จะเอ่อล้นตลิ่งเนื่องจากน้ำเหนือที่ไหลจากแม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก คลองรังสิต และจากรอยต่อกรุงเทพฯ ที่ระบายลงสู่แม่น้ำบางปะกง และลุ่มน้ำสาขา ประกอบกับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูงสุด

            ในห้วงระหว่าง วันที่ 9-15 ต.ค.54 จะทำให้แม่น้ำบางปะกง มีระดับสูงเกินกว่าปกติ 50 ซม. โดยเฉพาะในห้วงเวลาระหว่าง 18.00-22.00 น. จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ประกาศแจ้งเตือน ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงทั้งสองฝั่งตลอดแนว รวมทั้งที่อาศัยอยู่ริมฝั่งคลองสาขา ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของมีค่า
 

ตร.ภาค1ร่วมกับตร.นนท์มอบเรือและเครื่องอุปโภคกับชาวบ้าน


            เมื่อเวลา 15.00 น.ที่วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  พล.ต.ต.ปิยะ  สอนตระกูล  รอง.ผบช.ภ.1 และพ.ต.อ.อภิชาติ  เรือนทิพย์  รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรนนทบุรีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีร่วมกันนำเครื่องอุปโภคบริโภค  พร้อมถุงยังชีพจำนวน 600 ชุด  มามอบให้กับชาวบ้านในต.อ้อม เกร็ดและท่าอิฐซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากชุมชนดังกล่าวตั้งอยู่ติดริม แม่น้ำเจ้าพระยาและได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเนื่องจากไม่สามารถสัญจรไปมา ได้ตามปรกติต้องใช้เรือเป็นพาหนะเพียงอย่างเดียว

            นอกจากนี้ยังมอบเงินสดจำนวน 1 แสนบาทให้กับสภ.บางใหญ่ในการเตรียมความพร้อมของที่ตั้งและที่พักอาศัยไว้ให้บริการกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม  พร้อมมอบเครื่องสูบน้ำให้กับสภ.ปลายบางจำนวน 5 เครื่อง  เพื่อใช้ในการสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนและยังมอบเรือพายจำนวน 6 ลำให้กับอบต.อ้อมเกร็ดเพื่อใช้ในการช่วยเหลือประชาชนในเขตพื้นที่ในการสัญจรร่วมถึงการขนส่งอาหารแห้ง ยารักษาโรคและน้ำดื่ม


รถติดหนักหลังน้ำเซาะคอสะพานปูนบริเวณทางแยกเข้าบ้านวังไผ่


            จากน้ำแม่น้ำปิงไหลล้นเข้าท่วมในหมู่บ้านจัดสรรหลายพันหลังคาเรือนในตำบลวัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และกระแสน้ำยังไหลจากแม่น้ำปิงเข้าท่วมอย่างต่อเนื่องจนไหลข้ามถนนพหลโยธิน ช่วงนครสวรรค์-กำแพงเพชร เป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณหน้าศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 ไปจนถึงหน้าบริษัทมิตซูบิชินครสวรรค์ และน้ำส่วนหนึ่งไหลลอดใต้สะพานปูนบริเวณทางแยกเข้าบ้านวังไผ่ จนคอสะพานเริ่มทรุด ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องปิดเส้นทางสายขาล่องให้รถมาวิ่งในสายขาขึ้น เพื่อทำการเทหินคลุกกันน้ำและทำการวางสะพานเหล็กรองรับน้ำหนักให้รถยนต์วิ่งใช้ขึ้นสู่ภาคเหนือได้ โดย พตต.พีระศักดิ์ สวยสม สว.จรงสภ.เมืองนครสวรรค์ นำกำลังเจ้าหน้าที่จราจรไปดูแลจัดการจราจร แต่ริมาณรถมีจำนวนมาก การจราจรวิ่งได้ช้า ทำให้มีรถติดสะสมจำนวนมาก แต่ก้ยังพอวิ่งไปได้