ข่าว

รวบนศ.โพสต์คลิปอนาจารว่อนเน็ต

รวบนศ.โพสต์คลิปอนาจารว่อนเน็ต

05 ต.ค. 2554

ตร.รวบ นศ.มหาวิทยาลัยชื่อดัง โพสต์คลิปร่วมรักอดีตแฟนสาวลงอินเทอร์เน็ต แถมส่งข้อความข่มขู่ทางมือถือ อ้างแค้นถูกสาวตีจากหวังทำให้อับอาย ด้านเหยื่อช็อกไม่รู้ถูกแอบถ่าย ลั่นเอาผิดถึงที่สุด

        เหตุการณ์ตำรวจจับนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังโพสต์คลิปร่วมรักอดีตแฟนสาวลงอินเทอร์เน็ต เปิดเผยเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สารวัตรงานสืบสวน กก.ดส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ รอง สว.กก.ดส.บช.น. แถลงผลจับกุมนายณัฐพล หรือแบงก์ ชุณหสวัสดิกุล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธนบุรี ผู้ต้องหาแพร่คลิปมีเพศสัมพันธ์ และภาพตัดต่อ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังอีกแห่งหนึ่ง ย่านหนองแขม ซึ่งเป็นอดีตแฟนสาวลงเว็บไซต์เพื่อล้างแค้นที่ตีตัวออกห่างแล้วเลิกรากันไป โดยจับกุมได้พร้อมของกลาง วีซีดีคลิปร่วมเพศระหว่างผู้ต้องหากับ น.ส.เอ 1 แผ่น ภาพตัดต่อลามกอนาจาร 42 ภาพ ข้อความข่มขู่ที่ส่งเข้าโทรศัพท์มือถือ 1 แผ่น

         พ.ต.ท.ศยามเปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.เอ ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความที่ กก.ดส.บช.น. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ถูกนายณัฐพล อดีตแฟนหนุ่ม นำคลิประหว่างมีเพศสัมพันธ์กับภาพตัดต่ออนาจารไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ผู้ต้องหายังนำข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ไปโพสต์ลงด้วย ทำให้คนที่เข้าไปดูในเว็บไซต์เกิดความเข้าใจผิด โทรศัพท์เข้ามาขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหาย 

         จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้นำคลิปดังกล่าวไปโพสต์ในเว็บไซต์ลามกแห่งหนึ่งและมีภาพตัดต่อใบหน้าไปใส่ภาพลามกอนาจารโพสต์ลงในเว็บอีกจำนวนหลายภาพ และยังมีข้อความข่มขู่ในโทรศัพท์มือถืออีก 8 ข้อความ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก น.ส.เอ ผู้เสียหายได้เลิกคบกับผู้ต้องหาได้ประมาณ 5 เดือน ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความโกรธแค้น
         “หลังสืบทราบข้อมูลประกอบกับผู้ต้องหายังโทรศัพท์มารังควานผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุม เนื่องจากผู้ต้องหาข่มขู่ว่าหากต้องการให้ลบคลิปให้มาร่วมประเวณีอีก 1 คืน ซึ่งผู้ต้องหาได้นัดหมายผู้เสียหายมาพบที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงไปเฝ้าที่หน้าโรงแรม โดยให้เวลาผู้เสียหายกับผู้ต้องหาตกลงกันก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันว่านายณัฐพล เป็นผู้ต้องหา” พ.ต.ท.ศยามกล่าว

         จากการสอบสวนนายณัฐพลให้การรับสารภาพว่า ได้ถ่ายคลิปดังกล่าวจริง และเป็นผู้โพสต์ภาพตัดต่อลงอินเทอร์เน็ต ส่วนคลิปได้ส่งทางโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนต่อๆ กันไป ไม่รู้ว่าใครไปโพสต์ต่อ ที่ทำลงไปเพราะโกรธแค้นที่อดีตแฟนสาวเลิกคบ และหลอกลวงเงินไปร่วมหมื่นบาท ต้องการแก้แค้นทำให้อับอายจึงได้ทำเรื่องดังกล่าวขึ้นโดยไม่คิดว่าจะส่งผลถึงอนาคต

         “ผมรักเขา เราคบกันมา 2 ปี แต่เขาหนีผมไปคบกับชายคนใหม่ ผมพยายามโทรง้อขอคืนดีแต่ก็ไม่เป็นผล ผมเครียดที่ถูกเลิก เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนคลิปที่ถ่ายนั้นอดีตแฟนไม่รู้ตัว เพราะผมพูดเล่นๆ ว่าจะถ่าย แต่ผมก็ถ่ายจริงโดยที่เขาไม่ได้คิดว่าผมถ่าย พอเขาเลิกผมก็เลยส่งให้เพื่อนดูเพื่อให้เขาอับอาย” นายณัฐพลกล่าว

         ด้าน น.ส.เอกล่าวว่า ที่คบกันมา 2 ปี ไม่รู้มาก่อนว่าถูกถ่ายคลิปขณะร่วมเพศ เพราะคิดไม่ถึงว่าจะกล้าถ่ายไว้จริง และหลังจากเลิกกันมา ก็จะส่งข้อความมาข่มขู่ตลอดว่าจะส่งคลิปเป็นน้ำจิ้มมาให้ดู ถ้าไม่ยอมคืนดี ยังคิดว่าคงขู่เฉยๆ กระทั่งมีโทรศัพท์เข้ามาหาตน ทั้งต่างชาติและคนไทยจำนวนมาก มาขอซื้อบริการ โดยบอกว่าเห็นโพสต์โฆษณาทางเว็บไซต์

         “ตอนแรกที่หนูรู้เรื่องรู้สึกช็อกมาก ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำกับหนูขนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เสื่อมเสียอับอายมาก เพื่อนรอบข้างก็มาบอกหนู และยังมีคนเคยไปโพสต์ในเฟซบุ๊กของหนูว่าต้องการสวิงกิ้งด้วย เรื่องนี้หนูให้ครอบครัวรู้เรื่องไม่ได้ หนูเครียดจนแทบจะฆ่าตัวตาย แต่หนูต้องอยู่ต่อ และต้องแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และที่เลิกคบกันเพราะพฤติกรรมเขาไม่ดี รวมทั้งเงินที่ว่าเอาของเขามาก็ไม่เป็นความจริง” น.ส.เอกล่าว

         เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายณัฐพล 3 ข้อหา คือ 1.ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมสิ่งใด โดยทำให้กลัวและจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น 2.นำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และ 3.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป