'น้ำปิง'ทะลักท่วมย่านการค้าสำคัญ
น้ำปิงเริ่มทะลักท่วมตลาดวโรรส-ตลาดเมืองใหม่ ย่านการค้าสำคัญ ทน.เชียงใหม่ เปิดศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
วันนี้ 29 ก.ย.54 ล่าสุดระดับแม่น้ำปิงที่จุดวัด P1 สะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 07.00 น.อยู่ที่ 4.93 เมตร ปริมาณน้ำไหล 851 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดลงจากชั่วโมงก่อนที่ 4.94 เมตร ปริมาณน้ำไหล 856 ลูกบาศก์เมตร/วินาที อย่างไรก็ตามระดับน้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงเช้าวันนี้ได้ล้นตลิ่งแนวกำแพงบริเวณถนนเลียบแม่น้ำใกล้ตลาดวโรรสกลางเมืองเชียงใหม่ น้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมย่านตลาดวโรรส ตลาดต้นลำไย และตลาดเมืองใหม่ รวมทั้งหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว
ทางด้านเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่สุสานหายยา ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ โดยนอกจากเป็นศูนย์อำนวยการและให้ความช่วยเหลือประชาชนในเขตเทศบาลที่ได้รับความเดือดร้อน ยังเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุและช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือนด้วย โดยมีนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิด
"ตลาดต้นลำไย-วโรรส-เมืองใหม่" สำลักน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ว่า หลังน้ำแม่น้ำปิงเพิ่มขึ้นและเริ่มล้นตลิ่งก่อนไหลเข้าท่วมตลาดต้นต้นลำไย ตลาดวโรรส ตลาดเมืองใหม่ ถนนเจริญราษฎร์ ถนนเจริญเมือง อเมือง จ.เชียงใหม่ ส่งให้พ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหารต้องปิดไปโดยปริยาย
นางปราณี นาคชัย ร้านต้อยปราณีดอกไม้สด ย่านตลาดวโรส ติดกับแม่น้ำปิง กล่าวว่า น้ำท่วมปีนี้มาเร็วมาก การป้องกันไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมตลาดบางส่วนแล้ว ส่งผลให้ได้รับกระทบ ลูกค้าไม่สามารถเข้ามาซื้อสินค้าได้ทำให้สินค้าที่สั่งมาเสียหาย เพราะส่วนใหญ่เป็นดอกไม้สด จากเดิมขายได้วันละหมื่นกว่าบาท แต่ขณะนี้ 5 พันบา ยังขายไม่ได้
นางนิชรัตน์ แก้วประดิษฐ์ ผู้จัดการ ฝ่ายปฎิบัติการ โรงแรมรรินจินดา ถนนเจิญราษฎร์ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมาทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้นำรถขยายเสียมาแจ้งเตือน ว่าน้ำจะเริ่มท่วมตั้งแต่ช่วงเที่ยง จึงสั่งการให้พนักงานเร่งย้ายข้าวของจากร้านอาหารเดควัน ที่อยู่ติดริมน้ำปิง ตรงข้ามโรงแรม แต่ก็เก็บไม่ทันทำให้ข้าวของได้รับความเสียหายบางส่วน
นอกจากนี้ในส่วนของโรงแรม ก็ได้รับผลกระทบ เพราะว่ามีลูกค้าไม่สามารถเดินทางเข้ามาพักได้ แม้วาทางโรงแรมจะได้นำรถเข้าไปรับส่งเพื่ออำนวยความสะดวก ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวและลูกค้าได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามและยกเลิกไปแล้ว 3ราย
นางพิสุดา ศิริปัญญา ฝ่ายจัดซื้อและแคชเชียร์ ร้านอาหารริเวอร์ไซด์ ผับและเรสเตอร์รองด์ กล่าวว่า มีการเตรียมตัวเก็บข้าวของทันบางส่วน แต่บางส่วนเก็บไม่ทันเพราะไม่คาดคิดว่าน้ำจะมาถึง ปีนี้น้ำมาเร็ว แม้ว่าทางเทศบาลจะมีการแจ้งเตือนไว้ก่อน โดยน้ำได้เข้าท่วมตั้งแต่บ่ายวานนี้ทำให้ต้องปิดร้านไปโดยปริยาย
น้ำจากลำพานและปาวหลงทะลักท่วมบ้านประชาชนกว่า 80 หลังคาเรือน
สถานการณ์น้ำ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างล่าสุดน้ำจากลำน้ำพานปาวหลงที่ได้รับอิทธิพลจากการเร่งระบายน้ำของเขื่อนลำปาววันละกว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อรักษาสภาพตัวอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นเขื่อนดินทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม 2 หมู่บ้านใน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีบ้านเรือนของราษฎรกว่า 80 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ด.ต.สมคิด นันทสมบูรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำพาน ได้อพยพชาวบ้านทั้งหมดมาอาศัยยังบริเวณที่พักที่ปลอดภัยแล้ว
นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยอาสาสมัครปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง โดยมีนายสำนัก กายาผาด เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมลงพื้นที่สอบถามข้อมูลพื้นที่การเกษตร ที่ได้รับความเสียหายจากวิกฤติน้ำท่วม
นายประหยัด กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์พายุที่ตกหนักต่อเนื่องหลายสัปดาห์ นอกจากจะทำให้พื้นที่การเกษตร บ้านเรือน ที่พักอาศัย ของราษฎรใน จ.กาฬสินธุ์ ได้รับความเสียหายแล้ว ด้านสัตว์เลี้ยงก็ได้รับผลกระทบและมีอัตราเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นแฉะทำให้สัตว์ประเภทกีบ เช่น โค กระบือ เสี่ยงกับการเกิดโรคปาก เท้าเปื่อย และสุนัข แมว เป็ด ไก่ เสี่ยงกับการป่วยเป็นโรคพยาธิ
ทั้งนี้ จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครปศุสัตว์ ทั้งระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพสัตว์ให้ครบทุกหมู่บ้าน โดยจะให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพสัตว์ ตลอดทั้งแจกยารักษาโรค และมีการตั้งอาสาสมัครเฝ้าระวัง ที่หากเกิดพบเบาะแสการเกิดโรค ก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที
นอกจากนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้เตรียมการช่วยเหลือเฉพาะหน้า โดยสำรองเสบียงสัตว์เลี้ยงไว้กว่า 140,000 ก.ก.และเวชภัณฑ์จำนวนหนึ่ง
4 จังหวัดอีสาน ชาวบ้านเดือดร้อนจากน้ำท่วมเสียชีวิตแล้ว 6 คน
จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องตลอดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งมีปริมาณน้ำเต็มอ่าง ทำให้หลายพื้นที่เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันนั้น
นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5นครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งประกอบด้วย นครราชสีมา , ชัยภูมิ , สุรินทร์ และบุรีรัมย์ อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต5 นครราชสีมา มี 2 จังหวัดคือจังหวัดชัยภูมิ และสุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติรวม 2 จังหวัด จำนวน 20 อำเภอ 114 ตำบล 1,076 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 68,792 ครัวเรือน รวม137,584 คน เสียชีวิตแล้ว 6 ราย
อีกทั้ง จ.ชัยภูมิ ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย รวม 15อำเภอ 98 ตำบล 987 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 63,487 ครัวเรือน รวม 126,974 คน เสียชีวิต 6 คน ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย รวม 5 อำเภอ 16 ตำบล 89 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 5,305 ครัวเรือน รวมผู้เดือดร้อน 10,610 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ส่วนพื้นที่การเกษตรที่เสียหายของทั้ง 2 จังหวัดยังอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหาย
ในขณะนี้ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ได้จัดส่งอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอุทกภัยที่จำเป็นทั้งเรือท้องแบน เต๊นท์ที่พักชั่วคราว และรถผลิตน้ำดื่มออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นการเร่งด่วนแล้ว
นอกจากนี้ได้ระดมอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือที่มีอยู่ภายในศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ส่งไปช่วยเหลือในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศที่กำลังประสบกับปัญหาอุทกภัยอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ทั้งในจังหวัดสระบุรี ,ชัยนาท , ปทุมธานี , นครสวรรค์ เป็นต้น รวมการส่งอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือทั้งหมด เป็น เรือท้องแบนจำนวน182 ลำ , เครื่องยนต์เรือท้องแบน 28 เครื่อง , เต๊นท์ที่พักชั่วคราว 50 หลัง , สุขาเคลื่อนที่ 20 หลัง และรถผลิตน้ำดื่มอีก 1 คัน
คลองรังสิต เอ่อล้นฝั่งเอ่อท่วมถนนซ่อมสร้าง ทำการจารจรติดขัดหลาย กม.
ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งถนนสายซ่อมสร้าง ม.5 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนรังสิต-ปทุมธานี และถนนติวานนท์ เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กม.ทำ ให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดถนนขาออกจากรังสิตให้รถวิ่งสวนทางในฝั่งขา เข้ารังสิต ทำให้เกิดการติดขัดยาวหลายกิโลเมตร
นางรุ่งฤดี นวลจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/7 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ระดับน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อท่วมขึ้นมามากตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ซึ่งระดับน้ำได้เอ่อขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน และเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน น้ำได้ท่วมเข้าในบ้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำก็เคยเอ่อท่วมขึ้นมาแล้วครั้งหึ่งและเพิ่งลดลงไปจนปกติ เมื่อประมา10 วัน ที่ผ่านมา ที่สำคัญตอนนี้นอกจากถูกน้ำท่วมเข้าบ้านแล้ว ยังต้องมาเดือดร้อนเพราะรถทิ่วื่งลุยน้ำผ่านไปมาทำให้คลื่นซัดเข้าบ้านสร้าง ความเสียหายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ตรวจประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์หวั่นน้ำล้นทะลักตลาดรังสิต
นายธีรวุฒ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่างจากเทศบาลนครรังสิต ได้ออกตรวจสอบสภาพประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นประตูน้ำที่กั้นระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะไหลผ่านเข้ามาในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ พร้อมทั้งตรวจสอบระดับน้ำ โดยพบว่าระดับน้ำสูงขึ้นปริ่มแนวคันกั้นกระสอบทรายที่เสริมไว้เหนือประตูน้ำที่ทำไว้แต่เดิม จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเสริมกระสอบทรายเพิ่มสูงขึ้นอีก
สำหรับปริมาณระดับน้ำวันนี้( 29 ก.ย.)เพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา (ระดับน้ำเจ้าพระยาเหนือนกว่าระดับน้ำคลองรังสิต 50 เซนติเมตร) อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมตลาดรังสิต บ้านเรือน หมู่บ้าน และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ในเมืองเศรษฐกิจของปทุมธานี โดยมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบเฝ้าเวรยามประตูระบายน้ำดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง