เล่ห์ค้ารถเถื่อนประมูลซากสวมทะเบียน | คมชัดลึก

           คุณจะรู้ได้อย่างไร? รถมือสองที่เพิ่งถอยมาจากเต็นท์รถ...ถูกสวมทะเบียน?!!

               ปัจจุบันรถที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 มีรถเถื่อนปะปนอยู่นับพันคัน โดยเจ้าของรถยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกหลอกซื้อรถเถื่อน รถสวมทะเบียน กว่า "คุณ" จะรู้ ก็ต้องรอให้ถึงเวลาไปต่อทะเบียนรถยนต์ที่ขนส่งแล้วถูกปฏิเสธนั้นแหละ จึงถึงรู้ว่าตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ารถเถื่อนเสียแล้ว

               เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 (ศปจร.ภ.4) ศปจร.ภ.4 สามารถตรวจยึดรถยนต์ที่ถูกนำมาสวมทะเบียนได้ 15 คัน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะรถยนต์ยุโรปยี่ห้อหรูๆ เท่านั้น แม้เป็นรถยนต์และรถปิกอัพทั่วไป ถูกนำไปสวมซากทะเบียนตบตาขายให้เต็นท์รถมือสอง โดยที่เจ้าของเต็นท์รถเองก็แทบไม่ทราบว่ารถที่มีทะเบียน สำเนาคู่มือ และเอกสารอื่นๆ มาแสดงครบ จะเป็นรถเถื่อนไปได้

               "รถสวมทะเบียนมีเกลื่อนทั่วทุกมุมเมืองของประเทศไทย แม้แต่ในเขตพื้นที่ภาคอีสานเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีอยู่หลายร้อยหลายพันคัน ในจำนวนนั้นเชื่อว่าคนซื้อไม่รู้ว่าเป็นรถเถื่อน จะทราบก็ต่อเมื่อไปต่อทะเบียนที่ขนส่งแล้วถูกปฏิเสธ เสียทั้งเงินเสียทั้งรถ" พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หัวหน้าชุด ศปจร.ภ.4 บอกถึงสถานการณ์รถเถื่อนสวมทะเบียน

              ส่วนพฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ หัวหน้าชุด ศปจร.ภ.4 บอกว่า ขบวนการค้ารถเถื่อนใช้วิธีประมูลซากรถ เมื่อได้ซากรถมาแล้วก็จะนำไปที่อู่ของคนในกลุ่มเพื่อทำการสวมทะเบียน วิธีการง่ายๆ คือ ในกรณีรถกระบะหากไม่เสียหายมากก็จะยกโครงรถของอีกคันหนึ่งมาใส่แทน จากนั้นตอกทะเบียนรถใหม่ทั้งตัวถังและแชสซี เสร็จเรียบร้อยก็จะนำรถไปขายต่อที่เต็นท์รถมือสอง ซึ่งเต็นท์รถบางแห่งก็รู้ แต่บางแห่งก็ไม่รู้ เนื่องจากมีการทำอย่างแนบเนียนมาก จากนั้นก็นำส่งขายต่อให้แก่ประชาชนผู้ที่มาติดต่อซื้อรถแบบเนียนๆ ในราคาตามท้องตลาดของรถมือสองแต่ละยี่ห้อ

               สำหรับวิธีการตรวจสอบว่ารถที่จะซื้อเป็นรถสวมทะเบียนหรือไม่ พ.ต.อ.ออมสินบอกว่า ต้องสืบประวัติของรถดูให้ละเอียด สอบถามถึงประกันภัยรถ เพราะถ้ามีประกันจะรู้ว่ารถคันนี้หมายเลขอะไร ที่ผ่านมาเคยมีประวัติการแจ้งอุบัติเหตุมาก่อนหรือไม่ ขณะที่เจ้าของเต็นท์ต้องดูว่าคนที่นำรถมาขายเป็นเจ้าของตัวจริงหรือไม่ ถ้าซื้อรถจากนายหน้าก็ต้องซื้อจากคนที่คุ้นเคยเท่านั้น เพราะขบวนการนี้จะมีวิธีการหลบหลีกตบตาผู้ซื้อรถได้ดีและแนบเนียนมาก

               "บางรายซื้อรถไปเป็นปีแล้วเพิ่งมารู้ว่าซื้อรถขโมยตอนไปต่อทะเบียนภาษี จากการตรวจเช็กข้อมูลของขนส่ง พบรถยี่ห้อเดียวกัน สีเดียวกัน เลขทะเบียนเดียวกันที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น เวลาซื้อรถโดยเฉพาะรถยนต์มือสอง ผู้ซื้อจะต้องตรวจสอบรถให้ละเอียดว่ารถที่ตัวเองจะจ่ายเงินซื้อนั้นเป็นรถเถื่อน รถสวมซากหรือไม่ ซึ่งทางกรมการขนส่งจะทราบและแจ้งข้อมูลรายละเอียดรถทุกคันที่ขึ้นทะเบียนไว้ ตามเอกสารต่างๆ ที่ได้จากผู้ขาย หากไม่มีข้อมูลในขนส่งก็แสดงว่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์คันนั้นเป็นรถเถื่อนประกอบขึ้นหนีภาษี หรือสวมทะเบียนปลอมมา" พ.ต.อ.ออมสินกล่าว

               ด้านเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งรายหนึ่ง เปิดเผยถึงลักษณะของการสวมทะเบียนรถเถื่อน รถผิดกฎหมายว่า มีหลายลักษณะ คือการปลอมเอกสารและเลขทะเบียนรถใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมุดคู่มือทะเบียนรถยนต์ แผ่นป้ายทะเบียน แผ่นป้ายเสียภาษีรถ แก๊งโจรกรรมรถหรือขบวนการซื้อรถสวมซากจะจ้างคนทำเอกสารปลอมในราคาไม่กี่ร้อยบาท จากนั้นนำรถไปขายต่อให้เต็นท์รถมือสอง

              วิธีการสังเกตป้ายทะเบียนรถยนต์ว่าเป็นของแท้หรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ขนส่งบอกว่า มีวิธีดูง่ายๆ คือ ถ้าเป็นป้ายจริงด้านหน้าล่างจะมีตัวเลข 10 หลัก ซึ่งกรมการขนส่งจะยิงด้วยเลเซอร์ นอกจากนี้ยังมีพรายน้ำสัญลักษณ์ตราขนส่งทางบกระยิบระยับอยู่บนแผ่นป้าย ถ้าเอาไฟฉายส่องหรือมองกลางแดดจะเห็นชัดเจน รวมทั้งจะมีตัวอักษร ขส.ปั๊มอยู่ด้านหลังแผ่นป้ายด้วย หากเป็นป้ายทะเบียนรถปลอมจะไม่มีสิ่งเหล่านี้

               ส่วนแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีจะมีวงกลมสีเงินเล็กๆ สัญลักษณ์ของขนส่งทางบก ถ้าเอียงดูจะเห็นเป็นประกายรุ้ง ถ้าเป็นของปลอมจะไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว เพราะเทคโนโลยีไม่ถึง บางทีไปตัดฝอยจากซองบุหรี่มาแปะ ถ้าลูบดูของจริงจะลื่นมือ แต่ของปลอมจะด้านๆ ส่วนตัวอักษรถ้าเป็นของปลอม เส้นจะไม่ชัดเจน ขูดลอกได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่จะใช้วิธีเอาแผ่นตัวอักษรแบบมาขูดลอกติด หรือไม่ก็ตัดตัวอักษรจากแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีของปีที่ผ่านมาแล้วมาติดกาวติด ใช้มือลูบจะสะดุดชัดเจน

               ผู้ที่กำลังซื้อรถยนต์มือสองจากเต็นท์รถ คงเสียเวลาสักนิด ตรวจสอบให้แน่ชัด จะได้ไม่ถูกหลอกย้อมแมวขายรถขโมยหรือรถเถื่อนที่มีอยู่เกลื่อนเมืองในปัจจุบัน