นราฯยังเดือดโจรใต้จ่อหัวยิงดับ2
สมุนมะรอโซ แกนนำอาร์เคเค. บุกตลาดสดเทศบาล ต.ต้นไทร อ.บาเจาะ ใช้ปืนพกสั้นจ่อยิงชาวไทยพุทธ ดับ 2 คน เจ็บสาหัสอีก 2 คน อีกรายที่ระแงะ ลอบยิงชาวบ้านสาหัส 1 ราย
เวลา 14.30 น. วันที่ 24 กันยายน ร.ต.ท.นิพนธ์ เตียวสกุล ร้อยเวรปราบปราม สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุสมุนของนายมะรอโซ จันทราวดี แกนนำคนร้ายกลุ่มอาร์เคเค.จำ นวน 2 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดริมฟุตบาท หน้าตลาดสดเทศบาล ต.ต้นไทร ซึ่งเป็นย่านชุ มชนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม เส้นทางระหว่าง จ.ปัตตานี-จ.นราธิวาส บ้านต้นไทร หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ
จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย ได้เดินเข้าไปในตลาดสด พร้อมกับใช้ปืนพกสั้นขนาด 11 มม. เลือกจ่อยิงเฉพาะพ่อค้าและแม่ค้าชาวไทยพุทธที่นำสินค้าเข้ามาขายในตลาดดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน จากนั้นคนร้ายได้พากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป สร้างความตื่นตระหนกให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงชาวไทยมุสลิมที่เข้ามาหาซื้อสินค้าในตลาดสดดังกล่าว ต่างต้องพากันวิ่งหลบหนีกระสุนลูกหลงกันอย่างโกลาหล
ร.ต.ท.นิพนธ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.มงคล บัวจันทร์ สว.สภ.ปะลุกาสาเมาะ, เรือเอก อธิวัฒน์ แ สงสว่าง ผบ.ร้อย ปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ และผู้เกี่ยวข้องได้เดินทางมาตรวจจุดเกิดเหตุ พบศพชาวไทยพุทธถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในจุดเกิดเหตุ 2 ศพ คือนายวิชัย ซั่วพันธ์ อายุ 50 ปี บ้านเล ขที่ 5/1 ถนนเพียรชอบ เขตเทศบาล ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และหญิงชราไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 70 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในลักษณะถูกจ่อยิงที่ศีรษะคนละ 2 นัด
ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คน คือ นางวิไลลักษณ์ ซั่วพันธ์ อายุ 52 ปี ภรรยาของนายวิชัย และนางพรรณี อรุณรัตน์ อายุ 67 ปี ราษฏรหมู่ 9 ต.บาเละ อ.กาบัง จ.ยะลา พลเมืองดีได้นำส่งไปยังโรงพยาบาลไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เพื่อช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วนแล้ว
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวิชัย, นางวิไลลักษณ์ ภรรยา และนางพรรณี มีบ้านพักอยู่ใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ยึดอาชีพนำสินค้าเข้ามาวางแผงขายในตลาดสดเทศบาล ต.ต้นไทร มาเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้พยายามห้ามปราม เพื่อไม่ให้บุค คลทั้ง 3 คน นำสินค้าเข้ามาวางขายในตลาดสดแห่งนี้อีก เนื่องจากชาวไทยพุทธที่เคยเปิดร้านค้าขายและมีบ้านพักอาศัยกันอยู่ในชุมชนแห่งนี้ ต่างหวาดกลัวภัยอันตรายจากเหตุความไม่สงบ ได้พากันอพยพออกไปจากย่านชุมชนแห่งนี้กันจนหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายวิชัยไม่เชื่อฟัง จึงถูกสมุนของนายมะรอโซ แกนนำคนร้ายกลุ่มอาร์เคเค. บุกเข้ามาใช้ปืนจ่อยิงจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บกังกล่าว ส่วนหญิงชราชาวไทยพุทธไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 70 ปี อีก 1 คนที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตอยู่ในจุดเกิดเหตุด้วยนั้น ทางการสอบสวนยังไม่ความเป็นมาว่า เป็นใครมาจากไหน
ระแงะ เหิม ลอบยิงชาวบ้านเจ็บสาหัส
วันเดียวกัน ร.ต.อ.นรเศรษฐ์ สุขศรี ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิง ได้รับบาดเจ็บ บนถนนในหมู่บ้านสาเมาะ ม.1 ต.บองอ อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.ระแงะ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจและทหารจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงกองเลือด และปลอกกระสุนปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอก ตกอยู่บนถนน
ส่วนผู้บาดเจ็บถูกชาวบ้านนำส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลระแงะก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ นายกูเด็ง ระยีแก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 บ้านกาหนั๊วะ ม.5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.เข้าที่แขนซ้าย และหัวไหล่ซ้าย รวม 2 นัด อาการสาหัส
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกูเด็ง ผู้บาดเจ็บ ได้ขี่รถจยย.เพียงลำพัง ออกจากบ้านพักเพื่อจะไปกรีดยางพารา ระหว่างทางได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจยย.ซ้อนท้าย ตามประกบและเมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงใส่จำนวน 3 นัดซ้อน จนนายกูเด็งถูกกระสุนปืนของคนร้ายได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อ เป็นฝีมือแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ สร้างสถานการณ์ป่วนใต้รายวัน
สอบเครียด 2 ผู้ต้องสงสัยวางบึ้มในโรงเรียน -เหยื่อบึ้มโก-ลก ตายเพิ่มอีก 1
พ.ท.สฐิพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 ได้เบิกตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ขอสงวนชื่อและนามสกุล ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ ม.2 บ้านบราเฮง และ ม.3 บ้านซีโป ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ขณะขับและนั่งรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีท่าทางพิรุธผ่านหน้าโรงเรียนขณะที่เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่อาคารเรียนของชั้น ป.5 ที่ทางโรงเรียนได้เลิกใช้งานแล้ว และปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับให้เจ้าหน้าที่ทหารชุด ร้อย ร.15122 ฉก.นราธิวาส 38 ที่ทำหน้าที่ รปภ.โรงเรียนและครูใช้สำหรับพักผ่อน จนทำให้ส.อ.อภิสิทธิ์ ศรีอนุรักษ์ หน.ชุดได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.ย.54 ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายประการที่ทั้ง 2 คน ให้การไม่ตรงกัน ประการสำคัญเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากแหล่งข่าวในทางลับว่า เหตุที่เกิดขึ้นต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนแจ้งให้บุคคลภายนอกได้ทราบว่า ให้ทำการจุดชนวนระเบิดได้เลย เพราะขณะนั้น ส.อ.อภิสิทธิ์ หน.ชุดเดินผ่านจุดที่วางระเบิดพอดี เพราะคนที่จุดชนวนระเบิดซึ่งอยู่นอกบริเวณรั้วโรงเรียนไม่สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวได้ หากไม่มีคนซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนโทรบอก
ทั้งนี้ อีกประเด็นหนึ่งคือ คนร้ายที่จุดชนวนระเบิดเพื่อสังหาร ส.อ.อภิสิทธิ์ หน.ชุด เป็นคนที่อยู่ภายในรั้วโรงเรียนเท่านั้น เพราะมองเห็นความเคลื่อนไหวของ ส.อ.อภิสิทธิ์ ได้เด่นชัด ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นเป็นแนวทางในการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ทหารว่าคนร้ายที่จุดชนวนระเบิดเป็นใคร อยู่ในโรงเรียนหรือโทรศัพท์บอกให้คนที่อยู่นอกโรงเรียนโทรศัพท์จุดชนวน ซึ่งผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ที่สวนสอบในครั้งนี้ตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหารจะทำการเรียกตัวครูและบุคลากรทางการศึกษารวมถึงลูกจ้าง ของโรงเรียนประชาบำรุง ทยอยเดินทางมาให้ปากคำต่อไป แต่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ก็เตรียมที่จะสอบสวนขยายผลไปถึงเหตุคนร้ายวางระเบิด 3 จุด ที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 ที่ผ่านมา ว่ามีส่วนพัวพันหรือเชื่อมโยงหรือไม่อย่างไรในครั้งนี้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ รวม 3 จุด ที่ อ.สุไหงโก-ลก นั้น ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1 คน ที่ถูกส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา คือ นายภมร ภรณ์พานิช อายุ 61 ปี ซึ่งอดีตเป็นผู้ช่วยผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ประจำ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์สื่อสมุทรอาชญากรรม ซึ่งเสียชีวิตจากถูกไฟคลอกระเบิดคาร์บอมบ์ลูกที่ 3 ที่บริเวณหน้าร้านเซียนป่อง ขณะเดินทางมาทำข่าว
อีกทั้ง ทางญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมที่วัดโคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ส่วนทางด้านคดีนั้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไป 1 คนแล้ว คือ นายสูไฮดี กูบารู ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1-2 คนในเร็ววันนี้