ข้าวกล่องน้องหมา'ดีลิเวอรี่' | คมชัดลึก

ความต้องการเห็นเหล่าเจ้าตูบซึ่งเลี้ยงไว้ที่บ้าน ได้กินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นแรงผลักต่อยอดให้สองสามีภรรยาชาวเมืองขอนแก่น "นพพงษ์ -ชญานิษฐ์ เผ่าเมืองชล" คิดทำกิจการอาหารสำเร็จรูปข้าวกล่องน้องหมาดีลิเวอรี่ กว่า 10 เมนู เปิดตัวไม่ถึงเดือนภายใต้แบรนด์ “เลิฟลี่ ด็อก เฮ็ลตี้ ฟู้ด” เสียงตอบรับดีเกินคาด "นพพงษ์" เล่าว่า ธุรกิจอาหารสุนัขเริ่มจากทั้งตัวเองและภรรยาชอบเลี้ยงสุนัข โดยมีด้วยกันอยู่ 6 น้องหมา ดังนั้นอาหารส่วนใหญ่จึงเป็นเมนูสำหรับคนกินที่มีรสจัด ซึ่งไม่ค่อยถูกปากเหล่าเจ้าตูบเท่าไหร่ อีกทั้งบางครั้งไม่มีเวลาจำต้องให้กินอาหารเม็ด ผลคือทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร กินได้น้อย "ผมลาออกจากงานประจำที่กรุงเทพฯ กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน เมื่อ 3-4 เดือนแล้ว ทำให้มีเวลาอยู่กับสุนัขมากขึ้น จึงซื้ออาหารสดมาปรุงให้พวกเขากิน สังเกตเห็นเขามีความสุขและกินหมดทุกมื้อ จึงจุดประกายทำธุรกิจอาหารสุนัขสำเร็จรูปเป็นอีกอาชีพเสริม" นพพงษ์ แจง ตลอด 1 เดือนหลังจากนั้น ทั้งสองคนช่วยกันค้นหาสูตรความอร่อยให้แก่เจ้าตูบ ทั้งในเว็บไซต์และหาซื้อหนังสือมาอ่าน พร้อมลองซื้ออาหารสดจำพวกเนื้อสัตว์ ผักและไข่ ลงมือปรุงรสเน้นให้ดูน่ากิน ที่สำคัญมีประโยชน์ต่อสุขภาพสัตว์ โดยมีเจ้ามะลิ และมะยม สุนัขพันธุ์บางแก้ว รวมถึงพันธุ์อัลเซเชี่ยนอีก 4 ตัว เจ้าดาร์กอน เอมี่ ซ่า และซูโม่ เป็นผู้ชิม "ทุกครั้งที่ลงมือปรุงทั้ง 6 ตัว จะมายืนชะเง้อส่งเสียงขออาหาร และเมื่อได้ลิ้มรสแล้วก็จะกินจนเกลี้ยงด้วยความเอร็ดอร่อย ผนวกกับขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่ มีหลายคนเลี้ยงสุนัขแต่ไม่มีเวลาดูแล จึงมั่นใจว่าหากทำธุรกิจอาหารสุนัขสำเร็จรูปในแบบฉบับข้าวกล่องน้องหมาดลิเวอรี่ น่าจะได้รับความสนใจจากเจ้าของสุนัขไม่น้อย" ชญานิษฐ์ เสริม ทั้งสองคนจึงทดลองเปิดตลาดด้วยการติดใบปลิว ประชาสัมพันธ์รอบเขตเทศบาลนคร โรงพยาบาลสัตว์ โฆษณาในเว็บไซต์ขอนแก่นลิงค์ ซึ่งกระแสตอบรับเข้ามาสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลอด 2 อาทิตย์ที่เริ่มทำอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ “เลิฟลี่ ด็อก เฮ็ลตี้ ฟู้ด” มีลูกค้าเข้าคิวประจำผูกปิ่นโตทุกวัน 15 ราย อีกทั้ง ลูกค้าขาจรที่มียอดวันละกว่า 40-50 ถ้วย และแบบเป็นกับข้าวเจ้าตูบอีกวันละ 20-30 ถุง ทุกเมนูเพียง 20 บาท "จุดเด่นข้าวกล่องสุนัขของเรา เน้นวัตถุดิบต้องสด ใหม่ การปรุงมาตรฐานเดียวกับทำให้คนกิน ต่างกันที่เกรดของเนื้อสัตว์ ทุกเมนูมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ตับไก่ ผสมผักหลากสีจำพวกแครอท ฟักทอง เต้าหู้ และโรยงาเพื่อบำรุงขนสุนัขให้เงางาม แต่ละเมนูปรุงตามหลักโภชนาการอาหารสำหรับสุนัข ที่ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ให้พลังงาน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ" นพพงษ์กล่าว เคล็ดลับนอกจากความสดสะอาดแล้ว นพพงษ์บอกว่า ที่ใส่ใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ รสชาติ ซึ่งเน้นส่วนผสมมีกลิ่นหอมของเนื้อสัตว์ที่ผ่านการต้มเคี่ยวจนเปื่อย ผักต้มสุกหั่นเป็นชิ้นเล็กผสมลงในอาหาร ข้าวที่ใช้มีส่วนผสมพิเศษเป็นสูตรเฉพาะที่เราคิดค้นขึ้นเอง "นพพงษ์" บอกว่า เสียงตอบรับดีมาก มีลูกค้าสนใจโทรศัพท์สอบถาม ทดลองซื้อไปให้น้องหมากิน ส่วนใหญ่บอกว่ากินจนเกลี้ยง ลูกค้าบางรายขอเพิ่มผัก เพราะต้องการให้สุนัขได้กินอาหารที่มีใยอาหาร ซึ่งก็จัดให้ตามต้องการ ส่วนอนาคตกำลังคิดค้นสูตรทำขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัข และพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อยอดอาหารสำเร็จรูปที่มีอยู่เดิม เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ทั้งสุนัขและเจ้าของ ส่วนท่านใดสนใจติดต่อที่ได้ นพพงษ์-ชญานิษฐ์ เผ่าเมืองชล ที่อีเมล : [email protected] ถือเป็นไอเดียธุรกิจที่น่าสนใจ นำความรัก ความชอบสุนัขมาทำเป็นอาชีพ สมความตั้งใจ "หมาอิ่มอร่อย คนก็สุขใจ"