รวบยกแก๊งโจรสะพานลอยดักปล้นทรัพย์ | คมชัดลึก

          22 ก.ย.54 เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.ภาคภูมิ โห้ใย สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นทรัพย์สะพานลอย

          ประกอบด้วย 1 นายสุเมธ หรือต้น เนตรบุตร อายุ 25 ปี หัวหน้าแก๊งค์ 2 นายวุฒพล หรือ เต้ย ไชยคีนี อายุ 18 ปี  3 นายเอฟ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี  4 นายโย (นายสมมุติ ) อายุ 17 ปี และ นายเดชา หรือ เบี้ยว เรืองโหรา อายุ 36 ปี ซึ่งส่งเข้าเรือนจำสมุทรปราการไปก่อนหน้านี้แล้ว

          พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่าง ๆ จำนวน 10 เครื่อง เอกสารการจำนำโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 ใบ อุปกรณ์ชาร์จคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 ชุด กระเป๋าสตางค์สตรีจำนวน 8 ใบ สร้อยโลหะพร้อมพระเครื่อง จำนวน 10 องค์ โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยกิ่งแก้ว 34 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

          ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายหลายรายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ว่าในขณะที่กำลังเดินข้ามสะพานลายได้ถูกคนร้ายซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ 2-3 คน ดักทำร้ายร่างกายและปล้นเอาทรัพย์สินเป็นกระเป๋าถือสตรีและโทรศัพท์ร่วมทั้งสร้อยคอทองคำและทรัพย์สินอื่นๆ

          ส่วนเหยื่อรายล่าสุดเป็นผู้จัดการบริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง ในสมุทรปราการ ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทไป เหตุเกิดบนสะพานลอยหน้าศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์สำโรง หลังทราบข้อมูลจึงได้กระจายกำลังออกสืบสวนหากลุ่มคนร้ายจนกระทั้งสามารถจับกุมนาย เดชา หรือ เบี้ยว เรืองโหรา อายุ 36 ปี ได้เป็นคนแรก

          จากการสอบสวนขยายผลนายเบี้ยว ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ร่วมกันนาย ต้น ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง นาย เต้ย นาย เอฟ และ นายโย ได้ร่วมกันขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนก่อเหตุชิงและปล้นทรัพย์ ของผู้เสียหายในขณะที่เดินอยู่บนสะพานลอยซึ่งเป็นที่เปลี่ยวและลับตาคน โดยจะลงมือทำร้ายร่างก่ายผู้เสียหายด้วยการใช้ไม้ที่เตรียมมาตีเข้าที่ด้านหลบังผู้เสียหายก่อนช่วยกันปลดเอาทรัพย์สินและพากันหลบหนี

          ซึ่งส่วนใหญ่จะลงมือก่อเหตุสะพานลอยหน้าศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง สะพานลอยแบริ่ง และ สะพานลอยหน้าสำนักงานแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนในสถานที่เปลี่ยวพวกตนก็จะใช้เท้าถีบรถผู้เสียหายจนล้มและทำร้ายร่างกายผู้เสียหายก่อนชิงทรัพย์และรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป

          เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันออกสืบสวนจนกระทั้งทราบว่าผู้ต้องหาทั่งหมดแอบไปกบกานอยู่ในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยกิ่งแก้ว 34 ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี สมุทรปราการ จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดเอาไว้ได้พร้อมของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเคยร่วมกันก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป