
สาวเขมรใช้ครีมทาผิวขาวดับ2
สื่อเขมรรายงานสาวเขมรใช้ครีมทาผิวขาวจากเวียตนามเสียชีวิตเป็นรายที่สอง อย.อรัญประเทศร่วมกับทหารพรานตรวจค้นเข้มยึดครีมทาผิวขาวจากเวียตนามได้กว่า 10 กก.
22 ก.ย.54 นายสำราญ เดชศรี จนท.ด่านอาหารและยา (อย.) อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งประสานจาก จนท.สาธารณสุขกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชาว่า สาธารณสุขกรุงปอยเปตได้รับรายงานจากจังหวัดกัมปงสปือ ของกัมพูชา ว่า พบหญิงสาวชาวกัมพูชา ชื่อ มัม เสร อุน อายุ 21 ปี เสียชีวิตเพราะใช้เครื่องสำอาง ซึ่งเป็นครีมทาผิวขาวยี่ห้อเกา แคป ผลิตในประเทศเวียตนาม เกรงจะมีการลักลอบนำเข้าประเทศไทย และสื่อกัมพูชาและสื่อต่างประเทศได้นำเสนอข่าวกันอย่างครึกโครม
นายสำราญ เดชศรี จนท.ด่านอาหารและยาอรัญประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกับ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา นำกำลังร่วมกันตั้งด่านตรวจค้น บริเวณจุดตรวจร่วมทางเข้าตลาดโรงเกลือ หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยได้ทำการตรวจค้นรถเข็นและชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และจากการตรวจค้นสามารถยึดครีมทาผิวขาวที่ผลิตในประเทศเวียตนาม เช่น ครีมเบ๋าดั๋มและครีมเกา แคป ซึ่งชาวกัมพูชาซุกซ่อนมาในรถเข็น ได้จำนวนกว่า 50 กระปุก มีทั้งกระปุกเล็กและกระปุกใหญ่ รวมน้ำหนักกว่า 10 กก.
ต่อมา จนท.ได้ตรวจสอบหนังสือพิมพ์กัมพูชา ชื่อ น.ส.พ.ขแมร์ ไซน์เอนทิฟิค นิวสเปเปอร์ ได้เสนอข่าวว่าสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีหญิงสาวชาวกัมพูชาวัย 21 ปี ในจังหวัดกำปงสปือ ซึ่งกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในอีกไม่กี่วันได้ เสียชีวิตภายหลังใช้ครีมทาผิวขาว หรือ ไวท์เทนนิ่ง ยี่ห้อเกา แคป ที่ผลิตจากประเทศเวียตนาม เพื่อให้ตัวเองดูดีที่สุดในวันที่จะแต่งงาน โดยหญิงสาวรายนี้นับเป็นรายที่ 2 ที่เสียชีวิต จากการใช้ไวท์เทนนิ่งที่ผลิตจากประเทศเวียตนาม โดยสินค้าดังกล่าวได้ถูกประเทศไทยและประเทศกัมพูชาสั่งห้ามนำเข้าประเทศแล้ว
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นาย สม พุธดารา สารวัตรประจำสถานี ตร.ในพื้นที่ อ.โอราล จ.กำปงสปือ ได้เผยว่า น.ส.มัม เสก อายุ 21 ปี และ น.ส.มัม เสร อุน อายุ 19 ปี สองพี่น้องได้ซื้อครีมไวท์เทนนิ่ง ยี่ห้อ คิล ลอต ลานห์ ธอม เกา แคป ซึ่งผลิตในประเทศเวียตนาม ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.54 จากร้านจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ และใช้ทาผิวเมื่อเวลา 13.00 น.ของวันเดียวกัน หลังจากนั้นประมาณ 6 ชั่วโมง ทั้งคู่ก็เริ่มมีอาการหายใจลำบาก และไม่ได้ยิงเสียงรอบข้าง จนทำให้คนพี่คือ น.ส.มัม เสก เสียชีวิตในเวลา 8.30 น.ของวันที่ 17 ก.ย.54 ส่วนน้องสาวคือ น.ส.มัม เสร อุน ถูกส่งตัวเข้าทำการรักษาที่ รพ.ประจำจังหวัดกำปงสปือ ซึ่ง น.ส.มัม เสก ที่เสียชีวิตนั้นมีแผนจะแต่งงานหลังจากผ่านพ้นงานเทศกาลไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย.54 นี้ แต่ต้องมาเสียชีวิตเพราะการใช้ครีมทาผิวขาวโดยปราศจากความรู้ถึงอันตรายที่จะตามมา
น.ส.พ.ขแมร์ ไซน์เอนทิฟิค นิวสเปเปอร์ ยังรายงานอีกว่า น.ส.เนอร์ ลิห์เอาร์ อายุ 19 ปี ผู้จำหน่ายครีมดังกล่าว ได้ถูก จนท.ตร.จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และยังถูกควบคุมตัวไว้ที่ สถานีตำรวจฯและ จนท.กัมพูชายังได้ทำการตรวจยึดครีมทั้งหมด และสั่งปิดร้านจำหน่ายครีมแห่งนี้ด้วย
ด้าน นายแพทย์ กอง บุน ลี จาก รพ.ประจำจังหวัดกำปงสปือ เผยว่า ทาง รพ.รักษาผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยจากการใช้ครีมทาผิวขาวที่ผลิตในประเทศเวียตนามมาแล้วไม่น้อยกว่า 20 คน แต่รายของ น.ส.มัม เสก นับเป็นรายแรกที่เสียชีวิต เพระร่างกายอ่อนแอเนื่องจากเพิ่งหายจากการป่วยเป็นโรคมาลาเรีย
ซึ่ง น.ส.พ.ขแมร์ ไซน์เอนทิฟิค นิวสเปเปอร์ ยังรายงานอีกว่า น.ส.มัม เสก นับเป็นรายที่สองที่เสียชีวิตจากการใช้ครีมทาผิวขาวที่ผลิตจากประเทศเวียตนาม ซึ่งรายแรกเป็นหญิงสาวชาว จ.บันเตียเมียนเจย เป็นบุตรสาวของ ตชด.กัมพูชา ที่กำลังจะแต่งงานได้ใช้ครีมทาผิวขาวยี่ห้อเบ๋าดั๋ม ที่ผลิตจากประเทศเวียตนาม จนทำให้เสียชีวิตเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา
นายสำราญ เดชศรี จนท.ด่านอาหารและยาอรัญประเทศ เผยว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ครีมทาผิวขาวยี่ห้อเบ๋าดั๋ม และ ยี่ห้อ เกา แคป น่าจะเป็นครีมชนิดเดียวกันแต่ใช้ชื่อคนละชื่อเท่านั้น ซึ่งจะได้นำครีมที่ตรวจยึดมาได้ส่งให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรี ตรวจหาสารอันตรายในครีมนี้ต่อไปนอกจากนี้จะต้องสนธิกำลังร่วมกับทหารพราน ลงตรวจสอบในตลาดโรงเกลือด้วย