'ครูยุ่น'ร้องเอาผิดครูโหดตีเด็กป.4เลือดซิบ | คมชัดลึก

          20 ก.ย.54 เวลา 15.00 น. นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็กได้พา ด.ช.น็อต (นามสมมติ)อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 4  พร้อมครอบครัว เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.

          จากกรณีเหตุถูกครูโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา 2 เขตหลักสี่ ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัด กทม.ทำโทษโดยการตีก้นจนบอบช้ำ เป็นแผลขนาดใหญ่ที่แก้มก้นทั้งสองด้าน ซึ่งนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯกทม.ดูแลรับผิดชอบสำนักการศึกษา กทม.เป็นผู้มอบหมายให้ นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.และโฆษก กทม. เป็นผู้รับเรื่อง

          นายสุชาติ อ่วมเนียม บิดา ด.ช.น็อต กล่าวว่า น้องน็อตได้เล่าให้ตนฟังว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ในช่วงคาบเรียนบ่าย วิชาคณิตศาสตร์ ครูในวิชาดังกล่าวที่ชื่อจริยา อู่ทอง ได้ตรวจการบ้านนักเรียนและพบว่าเด็กชายน็อต และเพื่อนบางส่วนไม่ได้ทำตามที่ครูสั่ง จึงถูกครูทำโทษด้วยการให้กระโดดสก็อตจัมป์ 100 ครั้ง ส่วนน้องน็อตนั้นถูกทำโทษด้วยการตี ด้วยไม้กว้างประมาณ 2 นิ้ว ยาวประมาณ 80 ซม. พันด้วยเทปพลาสติก จำนวน 79 ที

          โดยครูอ้างว่าการบ้านที่น้องน็อตไม่ได้ทำคือเขียนสูตรคูณ แม่ 39 และ 40 รวมเป็นเลข 79 จึงต้องถูกตีตามจำนวนสูตรคูณ เมื่อด.ช.น็อตกลับมาที่บ้านจึงแจ้งเรื่องให้ตนทราบอีก ซึ่งมีเพื่อนบ้านที่อยู่ชั้นเรียนเดียวกันซึ่งถูกทำโทษด้วยกัน ได้มาแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตนทราบด้วย ตนจึงตัดสินในพาด.ช.น็อตไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.ทุ่งสองห้อง ในวันเดียวกัน จากนั้นได้พามาพบครูยุ่น เพื่อให้พาไปพบผู้อำนวยการโรงเรียนและมาร้องเรียนต่อผู้ว่าฯกทม.

          นายสุชาติ กล่าวต่อว่า โดยในช่วงเช้า วันที่ 20 ก.ย.ตนได้เข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา 2  โดยครูได้บอกตนว่าในช่วงนี้จะไม่ให้ครูคนดังกล่าวมายุ่งกับน้องน็อต และหากผู้ปกครองไม่พอใจจะย้ายน้องน็อตไปเรียนที่อื่น ซึ่งตนเห็นว่ามาตรการดังกล่าวไม่ถูกต้อง และตนไม่พอใจเพราะบุตรชายของตนไม่ได้ทำอะไรผิดและครูที่เป็นผู้กระทำต้องรับผิดชอบ

          จึงได้ยื่นความจำนงให้โรงเรียนรับผิดชอบใน 3 ข้อ คือ 1.ให้ครูคนดังกล่าวยื่นใบลาออกทันที 2.ในช่วงการสอบสวนให้ย้ายครูคนดังกล่าวย้ายออกไปอยู่โรงเรียนอื่น และ3.ให้ดำเนินคดีกับครูที่กระทำผิด ยืนยันว่าจะไม่ยอมความกรณีนี้โดยเด็ดขาด

          นายเจตน์ กล่าวว่า จากนี้ กทม.จะมีการสอบถามรายละเอียดกับครูที่ถูกกล่าวหาคาดว่าในวันที่ 21 ก.ย.ก็น่าจะทราบความจริงและจะสามารถบอกได้ว่า กทม.จะมีการดำเนินการอย่างไร หากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินการตามระเบียบของ กทม. ที่มีการกำหนดโทษไว้ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นอาจมีการโยกย้ายครูคนดังกล่าวไปก่อนในช่วงมีการสอบส่วน

          ทั้งนี้ ส่วนมาตรการต่อจากนี้ก็จะหาแนวทางป้องกันต่อไป เพราะตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ยังไม่เคยมีกรณีร้องเรียนเช่นนี้เกิดขึ้น แต่ผู้ว่าฯกทม.ก็เน้นเรื่องการศึกษาเป็นพิเศษ และพยายามเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษาแก่เด็ก กทม.ให้ดีที่สุด