ข่าว

อึ้ง!เสี่ยใหญ่ฝากเงิน2ล้านผ่าน30ปี-ถอนไม่ได้‏

อึ้ง!เสี่ยใหญ่ฝากเงิน2ล้านผ่าน30ปี-ถอนไม่ได้‏

16 ก.ย. 2554

เสี่ยอดีตเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรชื่อดัง ฝากเงิน 2 ล้านบาทกับธนาคารแห่งหนึ่ง ร่วม 30 ปีไม่ได้ถอน หลังขอถอนเงินกลับถูก พนง.ปฏิเสธ อ้างทำข้อมูลหาย โร่แจ้ง บก.ป.ร้องขอความเป็นธรรม

        16 ก.ย.54 นายโชติชัย สิริกาญนุกูล อายุ 70 ปี อดีตเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พงส.(สบ3) กก.1 บก.ป. เพื่อขอคำปรึกษา กรณีที่ฝากเงิน จำนวน 2 ล้านบาท ไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งเมื่อปี 2527 แต่เพิ่งมาทำเรื่องเบิกเมื่อปี 2544 แต่ปรากฏว่าธนาคารแห่งนี้ ปฏิเสธการถอนเงินดังกล่าวโดยเจ้าหน้าที่ธนาคารให้เหตุผลว่า ทำข้อมูลหาย และเมื่อทวงถามความรับผิดชอบไปยังสำนักงานใหญ่ ฝ่ายกฎหมายของธนาคารแห่งนี้ กลับพูดจาไม่ดี หนำซ้ำยังท้าให้ไปฟ้องร้องเอาเอง ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้น นายโชติชัย ได้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อปี 2544 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆจึงเดินทางมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจาก บก.ป.

        นายโชติชัย กล่าวว่า เมื่อ 30 ปีก่อน ตนเปิด หกจ.ทวีทรัพย์สรรพกิจ ประกอบกิจการรับสร้างบ้านและขายบ้านจัดสรร ช่วงนั้นมีผู้จัดการธนาคารต่างๆ หลายแห่งได้ร้องขอให้ตนช่วยนำเงินไปฝากที่ธนาคาร เพื่อให้ธนาคารมีเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งได้เปิดสมุดบัญชีเงินฝากไว้หลายสิบเล่ม เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพธนาคารกรุงไทย ธนาคารศรีนคร ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารกรุงเทพพาณิชการ ธนาคารออมสิน

        ทั้งนี้ ส่วนธนาคารที่เกิดปัญหาขึ้นนั้น ตนก็ได้ช่วยเหลือผู้จัดการสาขาของธนาคารแห่งนี้ไป โดยเปิดเป็นบัญชีประเภทเงินฝาก 12 เดือนทั้งสองเล่ม เล่มแรกฝากเงินไว้ 2 ครั้งๆ แรก เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2527 จำนวน 500,000 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2527 จำนวน 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท ส่วนอีกเล่มฝากเงินครั้งเดียว เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2527 จำนวน 1,000,000 บาท
 นายโชติชัย กล่าวต่อว่า เมื่อมีการย้ายสำนักงาน ประกอบกับบริษัทมีเอกสารจำนวนมากทำให้หาสมุดบัญชีธนาคารไม่เจอ กระทั่งผ่านไปสิบกว่าปีจึงมานึกขึ้นได้ว่า เคยฝากไว้กับธนาคารหลายแห่งจึงให้ลูกๆ ช่วยกันหาจนพบสมุดบัญชีธนาคารหลายสิบเล่มที่ไม่ได้เบิกเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินที่ฝากไว้เกิน 10 ปีทั้งสิ้น ตนจึงนำสมุดบัญชีไปติดต่อเบิกเงินจากธนาคารนั้นๆ ซึ่งทุกแห่งก็ให้เบิกถอนได้พร้อมกับคำนวณดอกเบี้ยให้ด้วยยกเว้นเงินที่ฝากไว้กับธนาคารแห่งนี้ที่เบิกไม่ได้

        นายโชติชัย กล่าวต่ออีกว่า ตอนที่นำสมุดบัญชีทั้งสองเล่มไปขอเบิกเงินออกมานั้น พบว่าที่สาขาดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการไปแล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีของตนแล้วกลับบอกแค่ว่า ไม่มีอยู่ในฐานข้อมูลของระบบเพียงเท่านี้ ซึ่งตนไม่อยากเชื่อว่าผ่านไป 27 ปี ธนาคารที่มาร้องขอให้ตนฝากเงินนั้น กลับถอนเงินของตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีเอกสารครบถ้วน ประวัติเรื่องการเงินก็ไม่เคยเสียหาย ซึ่งในเรื่องนี้ตนได้แจ้งลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อปี 2544 แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าจึงมาขอคำปรึกษาจากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเงินฝาก จำนวน 2 ล้านบาท ดังกล่าวหากคำนวณเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยประเภทเงินฝากประจำ 12 เดือน ซึ่งขณะนั้น ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารสูงมาก เงินฝากประจำส่วนใหญ่จะได้ดอกเบี้ยประมาณ 15-20% ซึ่งคำนวณอย่างคร่าวๆ เงิน 2 ล้านที่ฝากไว้กับธนาคารกรุงเทพในระยะ 27 ปี น่าจะได้ดอกเบี้ยเกือบ 10 ล้านบาท เมื่อรวมกันน่าจะไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท

        อีกทั้ง นอกจากสมุดเงินฝากธนาคารแห่งนี้แล้ว นายโชติชัย ยังพูดถึงสมุดบัญชีของธนาคารอีกแห่งหนึ่งด้วยอีก 1 เล่ม ซึ่งเปิดฝากเงินไว้ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเพื่อเป็นของขวัญให้ลูกสาว โดยฝากไว้เมื่อ 30 ปีก่อน โดยไม่เคยถอนและไม่เคยติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีเลยจึงไม่ทราบว่าจะมีปัญหาเหมือนกับสมุดเงินฝากของธนาคารแห่งนื้หรือไม่แต่หลังจากนี้จะลองไปติดต่อขอถอนเงินจากธนาคารอีกแห่งออกมา

        เบื้องต้น นายโชติชัย ไม่ได้มาแจ้งความดำเนินคดีใดๆเพียงแต่มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอคำปรึกษาในการดำเนินการเบิกเงินจำนวนดังกล่าวจากธนาคารแห่งนี้ พ.ต.ท.พงษ์ไสว จึงได้ขอสำเนาสมุดบัญชีที่มีปัญหารวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอีกครั้ง