ข่าว

ทุ่มพันล้านผุดบ่อนเขมรช่องสะงำ

ทุ่มพันล้านผุดบ่อนเขมรช่องสะงำ

14 ก.ย. 2554

เอกชน “เขมร” เตรียมผุด 2 บ่อนคาสิโนใหญ่ ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องสะงำ โดยนำเม็ดเงินกว่าพันล้านบาท ทำเป็นบ่อนคาสิโน เจ้าของเดียวกับ โอร์ เสม็ด รีสอร์ท ที่ด่านช่องจอม ด้านหอการค้าศรีสะเกษเดินหน้า เปิด “ช่องสะงำเมืองใหม่" รองรับการค้าชายแดนบูม

           จากกรณีที่ความสัมพันธ์ ไทย - กัมพูชา เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ทำให้ภาวะการค้าขายตามแนวชายแดน กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้งหนึ่ง โดยล่าสุดได้มีนักธุรกิจเอกชนจากประเทศกัมพูชา ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชา เพื่อดำเนินการก่อสร้างบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่จำนวน 2 แห่ง พร้อมทั้งพัฒนาให้เป็นแหล่งธุรกิจการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาแบบครบวงจร ที่บริเวณตลาดช่องสะงำ พื้นที่เขต อ.อัลลองเวง จ.เสียมเรียบ ตรงข้ามฝั่งไทยคือ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  โดยจะมีลักษณะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ร้านอาหารและสถานบันเทิงหลากหลายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักพนันชาวไทยที่จะเดินทางมาเล่นการพนัน  หรือเตรียมจะเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวตามเส้นทางอารยธรรมขอมโบราณ นครวัด - นครธม จ.เสียบเรียบ นั้น
 
          เรื่องนี้นายเชน   สาลี  ไกด์นำเที่ยวชาว จ.เสียมเรียบ กัมพูชา  ที่สามารถพูดและเขียนภาษาไทยได้อย่างชำนาญ  เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีนักธุรกิจ ชื่อ ออกยา  ลี ยง พัด  ซึ่งเป็นนักธุรกิจ 2 สัญชาติ คือ สัญชาติไทย ถือบัตรประชาชน ของ จ.ตราด และ สัญชาติ กัมพูชา ถือบัตรประชาชน จ.เกาะกง  ซึ่งนักธุรกิจรายนี้ถือว่าเป็นผู้มีฐานะร่ำรวยมากคนหนึ่ง และเป็นคนสนิทของสมเด็จฮุน  เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยออกยา ลี ยง พัด ได้ขอสัมปทานพื้นที่บริเวณช่องสะงำเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว จากรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งก่อสร้าง บ่อนคาสิโน และสถานบันเทิงต่างๆ รองรับนักท่องเที่ยว และรู้มาว่าบ่อนคาสิโนที่กำลังก่อสร้างนี้มีจำนวน 2 แห่ง  และการพัฒนาย่านธุรกิจขึ้นใหม่นี้  รัฐบาลกัมพูชาไม่ได้มีหุ้นส่วนด้วยแต่อย่างใด
 
          ด้านนายสิริพงศ์   อังคสกุลเกียรติ  ประธานหอการค้า จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องภายในของกัมพูชา เราคงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงอะไรได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราคาดการณ์ว่ามันจะเกิดคือถ้าเกิดมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวก็จะพากันเฮเข้ามามากขึ้น  สิ่งที่เราจะต้องเตรียมตัวคือ ถ้าเขาเปิดเมื่อไหร่ เมืองใหม่ช่องสะงำที่เราได้ดำเนินการเอาไว้ก่อนแล้ว โดยทางจังหวัดศรีสะเกษ ได้ของบประมาณจากรัฐบาลเพื่อพัฒนา ด่านช่องสะงำให้เป็น ช่องสะงำเมืองใหม่ ควรจะทำให้แล้วเสร็จเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมา เพื่ออย่างน้อย ๆ เขายังสามารถจับจ่ายใช้สอยในส่วนของเราได้ด้วย ไม่ใช่จะไปใช้บริการของฝ่ายกัมพูชาอย่างเดียว
 
          “ส่วนของเราก็มีการเตรียมการไว้แล้ว  เพราะทราบว่าทางกัมพูชา จะมีการเปิดบ่อนคาสิโน และโรงแรมขนาดใหญ่อย่างเป็นทางการประมาณปลายปีนี้ เราก็ได้เตรียมพร้อมว่าจะพัฒนาตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำให้โครงสร้างพื้นฐานเสร็จสมบูรณ์ในเวลาที่ใกล้เคียงกันที่สุด ส่วนชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้าที่ขายสินค้าอยู่ ช่องสะงำ ในปัจจุบันจะยอมย้ายลงมาอยู่ที่ เมืองใหม่ช่องสะงำที่สร้างขึ้นใหม่หรือไม่นั้น ผมยอมรับว่าชาวบ้านยังไม่มีความพร้อมเนื่องจากว่าปัจจุบันลักษณะการค้าเป็นการค้าชายแดน ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ยังไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว ดังนั้นคิดว่าการที่เราให้เขาย้ายออกไปมันจะเป็นการไม่สะดวกนัก แต่เมื่อมีสถานที่ท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวก  มีถาวรวัตถุเกิดขึ้น ก็มีความจำเป็นที่จะต้องย้ายลงมาเนื่องจากปัจจุบันนี้พ่อค้าแม่ค้าไทยขายให้เฉพาะชาวกัมพูชา แต่ในอนาคตเขาต้องเตรียมพร้อมรองรับหรือหาสินค้าที่จะจำหน่ายให้กับคนไทยด้วย"นายสิริพงศ์ กล่าว
 
          ส่วนนายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าการท่องเที่ยว ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  เปิดเผยว่า  บ่อนคาสิโนที่จะเกิดขึ้นใหม่ที่บริเวณช่องสะงำ นั้นทราบว่าเป็นของ ออกยา ลิม เฮง เจ้าของบ่อนคาสิโน และเป็นเจ้าของ โอร์ เสม็ด รีสอร์ท  ที่บ่อนชายแดนช่องจอม ด้าน จ.สุรินทร์  ซึ่งบริษัทนี้จะเป็นบริษัทแม่ที่จะมาดำเนินการขยายธุรกิจในแถบชายแดนบริเวณนี้ทั้งหมด รวมทั้งยังมี  โรงแรม 7 ชั้น  สถานบันเทิงต่างๆ  ส่วนจะให้บริษัท หรือหุ้นส่วนไหนมาร่วมลงทุนนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน          
 
          "ส่วนบ่อนคาสิโนอีกแห่ง  เป็นบ่อนที่ดำเนินการก่อสร้างมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ได้หยุดดำเนินการไปเมื่อหลายปีก่อน และกำลังจะดำเนินการก่อสร้างต่ออีก  คือเป็นบ่อนคาสิโนของ พล.อ.เตีย  สด  น้องชายของ พล.อ.เตีย  บัน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศกัมพูชา  ส่วนบริษัทลียง พัด ของ ออกยา ลียง  พัด นั้นจะมาดำเนินการสัมปทานซื้อไฟฟ้าจากฝั่งไทย เข้าไปขายให้ จ.อัลลองเวง เท่านั้น  ซึ่งคาดว่าวงเงินที่จะมาลงทุนเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิงแบบครบวงจร ที่ช่องสะงำนี้ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท"  นายหัตถชัย กล่าว