ข่าว

'สุชาติ'ผงาดนั่ง'กรมคุก'ตามโผ

'สุชาติ'ผงาดนั่ง'กรมคุก'ตามโผ

13 ก.ย. 2554

ครม.ตั้งขรก.ยุติธรรมตามโผ "สุชาติ" ผงาดนั่ง "กรมคุก" โยก "อำพล" พ้นเลขาฯ ป.ป.ท. "พ.ต.อ.ดุษฎี" ขึ้นแทน ตั้ง "พสิษฐ์ ศักดาณรงค์" อดีตเลขาฯปธ.ศาลรธน. เป็นที่ปรึกษารมว.สธ.

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ก.ย. นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการปปง. ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะขอให้สำนักราชเลขาธิการนำความกราบบังคมทูลเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไป

           นายชลิตรัตน์กล่าวต่อว่านอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรรม จำนวน 7 ราย ประกอบ 1.นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม 2.นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม 3.นายพิทยา จินาวัฒน์ รอง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ 4.นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม

          5. พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ 6.พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) 7.นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการปปท.ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นอกจากนี้ยังแต่งตั้งนายสุวัตร สิทธิหล่อ อธิบดีกรมพลศึกษา ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่งตั้งน.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

ตั้ง"พสิษฐ์"เป็นที่ปรึกษารมว.สธ.

 

            นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ครม. มีมติ ครม.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 ราย ดังนี้ 1.นางสาวช่อเพชร พึ่งพานทอง 2.นายวิสิทธิ์ ใสกระจ่าง 3.นางเรือนแก้ว ศรีหาคิม 4.นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุลชัยรุ่งเรือง แต่งตั้งข้าราชการการเมืองกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 4 ราย ดังนี้

          1.นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข 2.นายปิยะ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารมช.สาธารณสุข 3.นายธวัชชัย สุทธิบงกช เลขานุการรมว.สาธารณสุข 4.นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร ผู้ช่วยเลขานุการรมว.สาธารณสุข ขณะเดียวกันยังเห็นชอบแต่งตั้งนายมานะ คงวุฒิปัญญา เป็นที่ปรึกษารมช.คมนาคม (นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์) แต่งตั้งนายพิเชษฐ์ หวังเทพอนุเคราะห์ เป็นที่ปรึกษารมว.ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน 2 รายคือ 1.นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ 2. นายเอนก หุตังคบดี

           นายชลิตรัตน์กล่าวต่อว่านอกจากนี้ที่ประชุม ครมง ยังอนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม ที่ปรึกษาด้านการดำเนินงานข่าวกรองในต่างประเทศ (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) ให้ดำรงตำแหน่งรองผ.อ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ประเภทบริหารระดับสูงที่จะว่างลง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุ.ค.2554 เนื่องจากผู้ครองตำแหน่งเกษียณอายุราชการ ประกอบด้วย 1.นายวรเดช หาญประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวง โอนย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการบินพลเรือน 2.นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวง โอนย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการขนส่งทางบก 3.นายสมชาย จันทร์รอด อธิบดีกรมการบินพลเรือน โอนย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 
 
           นายชลิตรัตน์เปิดเผยอีกว่า ครม.ยังอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีกไม่เกิน 5 คน รวม 7 คน ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. 2498 มาตรา 15 ดังนี้ 1.นายสุรศักดิ์ ศรีประภา ประธานกรรมการ 2. พล.ต.ต.พิศาล มุขแจ้ง รองประธานกรรมการ 3.พ.อ.นพ.เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์ กรรมการ 4.นายประสิทธิ์ บัวรักษ์ กรรมการ 5.นายอเนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการ 6.นายณัฐศิลป์ จงสงวน กรรมการ 7.นายพิชัย สนแจ้ง กรรมการ

           นายชลิตรัตน์กล่าวว่า ครม.เห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งและการปฏิบัติหน้าที่ของ นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันครบ 4 ปี ในวันที่ 30 ก.ย. 2554 ออกไปอีก 1 ปีจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2555 นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบ การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2541 จากเดิมที่กำหนดให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งเรื่องให้ ก.พ. กลั่นกรองให้ข้อมูลและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อน นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา เป็นให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตรวจสอบข้อมูลและประวัติการดำรงตำแหน่งร่วมกับสำนักงาน ก.พ. ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามมติ ก.พ. ครั้งที่ 10/2554 เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2554 ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ

 

“ภาณุ”ไม่หวั่นข่าวถูกย้ายพ้นเลขาฯศอ.บต.

 

            นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรมมาดำรงตำแหน่งแทนว่า ตนไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไรกับกระแสข่าวดังกล่าว  เพราะสามารถทำงานได้ในทุกตำแหน่ง เนื่องจากเป็นข้าราชการที่ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตามเมื่อยังไม่มีการโยกย้ายอะไร ไม่ขอพูดอะไรมากนัก เช่นเดียวกับความคิดที่จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง หรือจะฟ้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) คงต้องรอให้มีคำสั่งชัดเจนก่อนเช่นกัน จึงจะตัดสินใจได้

            “ขณะนี้ยังไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะเมื่อไม่มีคำสั่งย้าย ถือว่ายังทำหน้าที่เลขาศอ.บต.อยู่ ตอนนี้ก็ปฏิบัติหน้าที่อยู่จังหวัดยะลา ระหว่างนี้จะขอตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด” นายภาณุกล่าว

 

ปชป.จวก"รัฐบาล""แก้แค้น ไม่แก้ไข"หวังช่วยคนคนเดียว

 

            นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าคำพูด  “แก้ไขไม่แก้แค้น” ของ น.สงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมากลายเป็นแก้แค้นไม่แก้ไข เริ่มแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ย้ายยิ่งกว่าล้างบางถึง300-400 ตำแหน่งซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯเพิ่งมาไม่กี่วันรู้งานดีถึงขนาดย้ายเป็นร้อยตำแหน่ง เช่นเดียวกับการโยกย้ายของกระทรวงยุติธรรมไม่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลสาละวนช่วยเหลือคนๆเดียว ไม่ได้คำนึงประชาชนทั้งประเทศ ทั้งนี้การโยกย้ายของกระทรวงยุติธรรมมีผลต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ โดยเฉพาะตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพราะเกิดขึ้นหลังเกิดข่าวคุกการเมืองออกมา สอดคล้องกับความพยายามในการช่วยเหลือใครที่จะออกมาในอนาคต

            นายสกลธี กล่าวว่า การที่รัฐบาลอ้างว่าย้ายเพื่อความเหมาะสมนั้น จึงเป็นความเหมาะสมของคนตระกูลชินวัตรมากกว่า และขอให้จับตาจากนี้จะมีอีกเยอะ ข้าราชการที่ถูกโยกย้าย 98 เปอร์เซ็นต์ มีความเชื่อมโยงช่วยเหลือรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ มาตั้งแต่ก่อนปฏิวัติ 2549 ทั้งสิ้น และการย้ายแบบนี้ จับตาดูว่าจะต้องมีข้าราชการลูกหม้อในหลายหน่วยงานที่ไม่มีโอกาสเจริญเติบโตทางราชการ

            นายสกลธีกล่าวว่า นอกจากนี้ตั้งข้อสังเกตว่าตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ของ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ก็เป็นจิกซอว์คดียุบพรรคปชป.เพราะเป็นคนทำคดี ทั้งหมดเป็นการตอบแทนชัดเจน

            ส่วนกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอยังไม่โดนย้าย ทั้งๆที่น่าจะถูกเป็นคนแรกนั้น นายสกลธีกล่าวว่า เราก็มีความสงสัย คาดว่ารัฐบาลต้องระวังกระแสสังคม เพราะย้ายพร้อมกันเยอะๆเป็นการตัดไม้ข่มนามหรือไม่ อาจทำให้เกิดแรงกระเพื่อมของข้าราชการได้ โดยเฉพาะต้องจับตาการทำคดีสำคัญของดีเอสไอ ทั้งนี้จะลองให้โอกาสนายธาริตดูว่าแนวโน้มการทำงานของดีเอสไอจะเป็นอย่างไรต่อไป สำหรับสำนวนต้นทางที่สำคัญในมือดีเอสไอ ทีมกฎหมายปชป.ได้จับตาการทำหน้าที่ของนายธาริตอยู่ เพราะสมัยปชป.เป็นรัฐบาล นายธาริตพูดเสมอว่า ทำตามตัวบทกฎหมาย ของอย่างนี้จึงบิดเบือนไม่ได้

 

อัดรัฐบาลต่างตอบแทนตั้ง“พสิษฐ์”

 

            นายสกลธีกล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งนายพสิษฐ์เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า ถือเป็นตัวชี้วัดว่าการโยกย้ายข้าราชการมีการวางแผนอย่างเป็นระบบและต่างตอบแทน เกื้อกูลด้วยการให้ตำแหน่ง เพราะครั้งหนึ่งนายพสิษฐ์มีส่วนสำคัญในกรณีการเผยแพร่คลิปลับสนทนาระหว่างนายวิรัช ร่มเย็น อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จนเป็นเหตุให้มีการส่งสำนวนฟ้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งยังเคยขึ้นเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเรื่องดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงให้เห็นว่าเรื้องราวที่ผ่านมานั้นมีผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะจัดสรรตำแหน่งให้แก่ใครบ้าง