
มารู้จักกับ'ประวรา เอครพานิช'
คมคิด : ประวรา เอครพานิช 'ขอทำให้คนอื่นมีความสุขก่อน แล้วถึงจะมีความสุขตาม'
“เราต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่างให้กับคน เปลี่ยนให้พวกเขามีความมั่นใจขึ้น ให้เขามีความสุขในการออกไปเจอกับผู้คน และให้มีความมั่นใจในตัวเอง นี่คือสิ่งที่เสื้อผ้าต้องทำให้กับทุกคน” ประวรา เอครพานิช กรรมการบริหาร บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเป้าหมายแห่งความสำเร็จในการทำธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้า
เมื่อถามถึงความสำเร็จ เธอบอกว่า ยังไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ และเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จก็ไม่คิดอย่างนั้นเช่นกัน เพราะนั่นหมายถึง พอใจแล้ว หรือจบแล้ว แต่ตัวเองคิดว่าความสำเร็จเกิดจากวันนี้ที่ทำเพื่อวันพรุ่งนี้ และยังชอบในสิ่งที่คุณบุญสิทธิ์ (บุญสิทธิ์ โชควัฒนา) สอนไว้ว่า เวลาคนปีนขึ้นเขาตัวจะงอ แต่เวลาคนลงเขาจะยึดหลังลง เหมือนกับคนที่คิดว่าตัวเองเจ๋งแล้ว ก็จะยืดไหล แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังลง ถ้าเรารู้ว่าเรายังจะพยายามต่อไปตัวเราจะงอ จึงเป็นหลักคิดที่น่าจะทำให้เราเดินไปข้างหน้าต่อ
ผู้บริหารหญิงเก่งแห่ง บูติคนิวซิตี้ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ ของเมืองไทย อาทิ Guy Laroche, Feraud, C&D, GSP และ Adolfo Dominguez เล่าว่า ได้เริ่มเข้ามาเรียนรู้งานด้านธุรกิจเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อปี 2540 หลังจากจบการศึกษา ซึ่งเริ่มในฝ่ายการผลิตสินค้าจึงทำให้รู้จักเกี่ยวเนื้อผ้า การผลิต ได้อยู่กับดีไซเนอร์ ถือเป็นการฝึกฝนตัวเอง และเข้าใจปัญหาได้เป็นอย่างดี
“ทำอยู่ตรงนั้นมา 2 ปี ก็ไปเรียนต่อกลับมาทำงานต่อจนปัจจุบันกว่า 10 ปีแล้ว ทำให้รู้สึกเติบโตขึ้น จากช่วงเริ่มต้นที่ได้เรียนรู้การทำงานประจำ เป็นเหมือนเฟืองตัวเล็กๆ ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนองค์กร จนปัจจุบันเป็นเฟืองตัวที่ใหญ่ขึ้น มีความเข้าใจการเชื่อมโยงขององค์กร ซึ่งองค์กรที่จะขับเคลื่อนได้ดีนั้นจะต้องรู้จักหมุนให้ถูกจังหวะและไปพร้อมๆ กัน”
จากวันนั้นถึงวันนี้ ธุรกิจแฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก วงการแฟชั่นไม่ใช่ของเมืองไทยอีกต่อไป แต่อยู่ในระดับสากลมากขึ้นเรื่อยๆ จากสมัยก่อนที่จะเห็นแบรนด์นอกเป็นของสูงส่ง แต่ตอนนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม แบรนด์ที่เข้ามาก็มีหลายระดับ ทั้งที่มีราคาถูกในเมืองนอกแต่มาแพงที่เมืองไทย หรือแพงมาจากเมืองนอก และมาถูกที่เมืองไทย คือมีหลากหลายกลยุทธ์ที่เข้ามา จึงถือว่ามีความคึกคักมาก
ทางบริษัทจึงต้องปรับตลอดเวลา แต่สิ่งที่ต้องเข้าใจคือตัวลูกค้า บริษัทจึงพยายามที่จะเข้าไปตอบรับกับความต้องการของลูกค้าในส่วนช่องว่างที่ยังขาดอยู่ เช่น ปัจจุบันจะพบว่าเสื้อผ้าประเภทแคชวล แวร์ มีจำนวนเยอะมาก จึงไม่คิดไปสู้ โดยเฉพาะสินค้าที่มาจากประเทศจีน จึงเลือกสินค้าที่ดูมีฟอร์มมากขึ้น มีคุณค่าในตัว ชอบที่จะนำเสนอเสื้อผ้าให้คนดูภูมิฐานมากขึ้น เหมือนเป็นดีเอ็นเอของ บูติคนิวซิตี้ ก็ว่าได้
สำหรับในปีนี้และปีหน้า จะมีแบรนด์ Adolfo Dominguez เป็นหัวหอกในการทำตลาด ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดที่นำเข้ามาจากสเปน มีความน่าสนใจตรงที่เป็นดีไซเนอร์แบรนด์ มีการบริหารจัดการที่กว้างแบบองค์กรระดับโลก นอกจากนี้ยังมี C&D ที่เน้นการออกแบบในลักษณะธรรมชาติบำบัด มีคาแรกเตอร์เป็นผู้หญิงสบายๆ และให้ความสำคัญกับคุณค่าของชีวิต เช่น สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราต้องฉีกให้มากกว่าเสื้อผ้า เน้นความแตกต่างทั้งเรื่องของอายุ และเงินในกระเป๋า
ส่วนการเติบโตของธุรกิจนั้นจะไปพร้อมการความเจริญที่กำลังจะเปลี่ยนไป คือขยายเมืองออกไปสู่ชุมชนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมรับมือกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) สิ่งที่เราจะต้องทำคือการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ทำสินค้าให้ชัดเจน มีความหลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้า
โดย “บูติคนิวซิตี้” จะเป็นบริษัทที่ทำให้ทุกคนดูดีในทุกวาระโอกาสและอายุ ตอบสนองความต้องการของคนได้ทุกเพศทุกวัย และทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง
สำหรับหลักคิดในการบริหารงานนั้น ประวราบอกว่า การบริหารธุรกิจแฟชั่นนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เพราะแฟชั่นเป็นเรื่องของศิลปะ ซึ่งคนในองค์กรมีความจำเป็นต้องใช้ศิลปะเยอะ ทำให้มีหลากหลายอารมณ์ ซึ่งก็มีบ้างที่ทำให้ตัวเองท้อ ซึ่งก็จะหยุดคิด นิ่งและหาแก่นของปัญหาว่าอยู่ตรงไหน เพราะในเมื่อสิ่งที่เราทำคือการทำให้คนอื่นมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย แต่กว่าจะมอบความสุขให้แก่แต่ละคนได้ระยะทางมันยาวระดับหนึ่งเหมือนกัน
นอกจากนี้ ยังมีคุณแม่ (ศิรินา โชควัฒนา ปวโรฬารวิทยา ประธานกรรมการ บูติคนิวซิตี้) เป็นเหมือนเป้าชี้ทางให้เราเดิน ซึ่งท่านเป็นบุคคลที่มีความสามารถทั้งด้านศาสตร์และศิลปะ มีความเป็นศิลปินสูง มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา ท่านได้พยายามกระตุ้นให้เราคิด ขณะเดียวกันก็มีมุมมองให้เราว่าต้องทำได้จริง และที่ชอบมากคือปรัชญาของดร.เทียม โชควัฒนา (อดีตประธานกรรมการผู้ก่อตั้ง บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด) ที่ว่าความรู้ยิ่งใช้ก็ยิ่งคม เปรียบเหมือนมีดที่ต้องลับให้คมอยู่เสมอ
ทั้งนี้ ปัจจุบันคุณประวรายังเป็นคุณแม่ลูก 1 วัย 2 ขวบ ทำให้ต้องบาลานซ์ชีวิตทั้งในเรื่องการงานและครอบครัว ทั้งยังบอกว่าการเป็นแม่คนทำให้เชื่อในเรื่องของการ “ให้” จากสมัยก่อนยังไม่คิดอะไรมาก แต่มาตอนนี้รู้ว่าเรื่องของการให้นั้นมีความหมายมากขึ้น จึงได้เข้ามาสานต่อ “สมาคมคนรักแม่” ที่ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมดังกล่าวอยู่ด้วย
“ในแต่ละปี บูติคนิวซิตี้ จะมีการจัดกิจกรรมการประกวดแต่งเพลงรักแม่ ซึ่งก็จะมีน้องๆ มัธยมปลายจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งเทปเข้ามาประกวด จากเดิมที่เราจัดในวงแคบๆ มีนักเรียนเข้าประกวดเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจมากทั่วประเทศ ซึ่งคิดว่าโครงการนี้อย่างน้อยก็ได้ให้น้องๆ ได้มีเวลาคิดว่า แม่รักเราอย่างไร ท่านมีคุณค่ากับเราอย่างไร แล้วเราจะตอบแทนท่านอย่างไรดี”
นอกจากนี้ บูติคนิวซิตี้ ยังจัดให้มีการ์ดอวยพรรักแม่ ซึ่งก็นำรายได้เข้าสภากาชาดไทย เพื่อไปซื้อเครื่องเทอร์โมมิกเซอร์สำหรับตรวจมะเร็งเต้านมด้วย