ข่าว

ฮุน มาเนตพาเยาวชนชมวัดพระวิหาร

ฮุน มาเนตพาเยาวชนชมวัดพระวิหาร

11 ก.ย. 2554

"ฮุน มาเนต" พาเยาวชนกัมพูชาชม "วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ" ทำพิธีบวงสรวงที่ผาเป้ยตาดี พร้อมเยี่ยมทหารจำเขาพระวิหาร ชู "ฮุน เซน" ยืนหยัดสู้ไทยรุกราน

           11 ก.ย.2554 เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟได้อ้างรายงานของสำนักข่าวซีอีเอ็นของกัมพูชา ว่าในช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.ย.  คณะตัวแทนเยาวชนพรรคประชาชนกัมพูชา ประมาณ  200 คน นำโดย พล.ท.ฮุน มาเนต บุตรชายของสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ได้เดินทางเยี่ยมชมความอยู่ของทหารกัมพูชา ในที่บัญชาการสันติภาพ 5 มกรา

            โดยได้รับการต้อนรับจาก พล.อ.กุน กีม รองผู้บัญชาการ เสนาธิการร่วมคณะบัญชาการสมรภูมิแนวหน้าพรมแดนกัมพูชา-ไทย พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการ หัวหน้าคณะบัญชาการสมรภูมิแนวหน้าด้านภูมิภาคทหารที่ 4  ตลอดจนนายทหารและพลทหารประมาณ 200 คน  รวมทั้งนอกจากนี้ ออกญา เซียง ณำ  สมาชิกสภากลาางเสียมราฐ ร่วมให้การต้อนรับด้วย

            โดยคณะตัวแทนเยาวชนได้รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการนำและสั่งการอย่างมีประสิทธิภาพของสมเด็จฯฮุน เซน ที่มีต่อกองทัพในภารกิจป้องกันดินแดนและอนุรักษ์พื้นที่ปราสาทพระวิหาร จนประสบความสำเร็จเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551 นำไปสู่ความไม่สบายใจของฝ่ายไทย กระทั่งส่งทหารเข้ารุกรานดินแดนกัมพูชาที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2551 ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงและปะทะกันด้วยอาวุธ ต้นปี 2554 ภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไทยได้ส่งทหารเข้าทำสงครามขนาดใหญ่กับกัมพูชา ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย แต่ไม่สามารถตีฝ่าความต้องการสู้รบ มุ่งมั่นป้องกันดินแดนของกองทัพกัมพูชาได้เลย ความสำเร็จในระยะเวลา 3 ปี ของเหตุการณ์ชายแดนกับไทย เกิดจากการนำอย่างหลักแหลมของนายฮุน เซ็น 

            กระทั่งปัจจุบัน เนื่องจากจุดยืนสันติภาพของสมเด็จฯฮุน เซน ที่หนักแน่น คือ ต้องการให้พรมแดนมีสันติภาพ มีความร่วมมือที่ดีระหว่างประเทศทั้งสอง เพื่อเป็นผลประโยชน์ของประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งกัมพูชาและไทย จุดยืนสันติภาพนี้ทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นชาติของกัมพูชาสูงยิ่งขึ้น ได้รับการสนับสนุนอย่างหนักแน่นจากทั้งประชาชนกัมพูชาทั่วประเทศ ตลอดจนประชาคมนานาชาติทั่วโลก

            นอกจากนี้ กัมพูชาได้ถอนทหารออกจากพื้นที่ตะเข็บชายแดนแล้วถึง 7 ครั้ง ซึ่งเป็นการถอนกองกำลังสนับสนุน เพื่อสร้างความเชื่อใจและลดความตึงเครียด

            หลังรับฟังการบรรยาย พล.ท.ฮุน มาเนต ในฐานะตัวแทนเยาวชน ได้กล่าวยกย่องและขอบคุณอย่างสูงต่อความกล้าหาญของทหารแนวหน้าตามแนวชายแดน ที่ได้อุทิศตนในการปกป้องมาตุภูมิ พร้อมระบุว่า เป็นแบบอย่างที่ดีควรถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ลูกหลานต้องจดจำไปตลอด และยึดถือเป็นประเพณีที่ดีอีกด้วย และเตือนให้เยาวชนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการรับใช้ชาติ ป้องกันชาติ ในเวลาที่ประเทศมีความคับขัน

            จากนั้น พล.ท.ฮุน มาเนต ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 10 ล้านเรียล (ประมาณ 75,000 บาท) ให้กับกองทัพที่ประจำการในพื้นที่ดังกล่าว จากนั้น คณะตัวแทนเยาวชนได้เดินทางขึ้นชมวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ และปราสาทพระวิหาร แล้วทำพิธีบวงสรวงที่ผาเป้ยตาดี