
รวบแก๊งค้ายาบ้า
บวบสองผัวเมียลักลอบค้ายาบ้า อีกรายใช้ลูกซองยิงต่อสู้หนีการจับกุมหลังถูกล่อซื้อยาบ้า สุดท้ายไปไม่รอดกลัวตาย ทิ้งปืนยกมือยอมจำนน พ่อ-ลูก ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ยาเสพติด ตร.รวบของกลาง ยาบ้า 1,202เม็ด-ยาไอซ์ 7.8 กรัม
เวลา 08.00 น. วันที่ 26 ส.ค. 54 พ.ต.อ.ปัญญา วิเศษพานิชกิจ ผกก.สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทักษพงศ์ รื่นกลิ่น รอง.ผกก.สส ร.ต.อ.ศราวุฒิ ทองภู่ รอง.สวป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองเสือจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบค้ายาบ้า ภายในบ้านเลขที่ 65/26 หมู่บ้านปิ่นฤทัย ถ.เลียบคลองเจ็ด ม.8 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบมาว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งพักยา และเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่
จากการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านเดี๋ยวชั้นเดียว มีนายสุวรรณ เรืองโอชา อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 144 ม.1 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และ นส.ภิณญดา บางบ่อ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 56 ม.3 ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี อยู่ภายในบ้าน จึงแสดงตัวและเข้าตรวจค้นภายในบ้านอย่างละเอียด พบยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอน จำนวน 4 มัดรวม 8 พันเม็ด และพบเงินสดจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบ รถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ถต-2987 สระบุรี และ รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ญต-5240 กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายสุวรรณ เรืองโอชา อายุ 24 ปี ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดรับมาจาก จ.สระบุรี โดยมีคนในคุกบางขวาง เป็นคนโทรสั่งให้ไปเอาของมาขาย ส่วนภรรยาเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้า อยู่ตามตลาดนัดและไม่เกี่ยวข้องหรือรู้เรื่องที่ตนเองค้ายาบ้าแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ปัญญา วิเศษพานิชกิจ ผกก.สภ.หนองเสือ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเสือ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ พักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้าน ปิ่นฤทัย ถ.เลียบคลอง 7 โดยใช้รถกระบะสีดำเป็นพาหนะ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการดักซุ่มรออยู่บริเวณหมู่บ้านดังกล่าว จนมีรถเป้าหมายเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน 65/26 มบ.ปิ่นฤทัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมและขอตรวจค้น จนพบยาบ้าดังกล่าว ก่อนแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้ ร.ต.อ.เทอด หาญณรงค์ ร้อยเวรสอบสวน เจ้าของคดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เอเย่นต์ยาบ้า ชักลูกซองยิงเปิดทางหนีการจับกุม
เวลา 09.00 น. วันที่ 26 ส.ค.54 นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดฝ่ายปราบปรามอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สวป.สภ.สัตหีบ ได้ร่วมกันสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 124/9 ซ.ธรรมวิทยา ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อจับกุมตัว นายชลวัฒน์ หรือโข่ง ศรีสุภา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 2 เม็ด และได้หลบหนีการจับกุมเข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ภายในห้องพัก ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางเพื่อหลบหนี
ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาปิดล้อม และกดดันผู้ต้องหาอยู่นานกว่า 20 นาที จึงยอมวางอาวุธ และขอมอบตัว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมพร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 พร้อมเครื่องกระสุน 3 นัด จากการตรวจค้นพบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อจำนวน 500 บาท ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง และยังพบยาบ้าอีกจำนวน 44 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกฝังดินอยู่ใต้ตุ่มน้ำหลังบ้าน จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบจำหน่ายยาบ้ามานานกว่า 5 ปี โดยมี นายสุรพล หรือแฉะ พุทธรักษา อายุ 47 ปี พักอยู่ภายในซอยธรรมวิทยา เป็นเอเย่นต์รายใหญ่ที่กระจายเครือข่ายให้กับเครือข่ายซึ่งเป็นเอเย่นต์รายย่อย ในการนำยาบ้าออกจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ที่มีจำนวนมากกว่า 30 ราย
และยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตัดสินใจหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของหลังบ้าน เนื่องจากได้ทำช่องทางหลบหนีออกทางด้านหลังซึ่งเป็นป่าละเมาะ จึงตัดสินใจยิงเปิดทางเพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ แต่ด้วยที่กำลังเจ้าหน้าที่มีจำนวนมากอาวุธครบมือ เกรงจะถูกวิสามัญจึงตัดสินใจวางอาวุธเข้ามอบตัว
นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดฝ่ายปราบปราม เปิดเผยว่า นายชลวัฒน์ หรือโข่ง เป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นสมุนมือขวาของ นายสุรพล หรือแฉะ ที่มีหน้าที่นำยาบ้าที่มีการลำเลียงมาจากทางอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง กระจายสู่กลุ่มลูกค้าทั้งผู้ขาย และผู้เสพ ที่ผ่านมาได้มีการสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาแล้วหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะมีกลุ่มนายทุนนำหลักทรัพย์ประกันตัวออกมา และจำหน่ายยาบ้ากันอย่างชนิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย เบื้องต้น ได้ตั้ง 2 ข้อหา มียาเสพติดประเภทที่ 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที
จับพ่อ-ลูก เอเย่นต์ค้ายาบ้า -ยาไอซ์
เวลา 12.00 น. วันที่ 26 ส.ค.54 พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.จักรรินทร์ ทั่วสุภาพ รอง ผกก.สส.,พ.ต.ท.นิตย์ วิธินันทกิตต์ สว.สส. ร.ต.อ.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฎฐ์ รอง สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ผู้ต้องหายาเสพติด จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายคมกริช หรือไหล จันทน์เทศ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 510/6 ม.4 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี, นายเอกสิทธิ์ หรือโจ้ พุ่มพฤกษ์ อายุ 22 ปี และนายสมศักดิ์ หรือแก้ว พุ่มพฤกษ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 ม.3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนัก จำนวน 7.8 กรัม และยาบ้า จำนวน 1,202 เม็ด
พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ได้สั่งกำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติปราบปรามยาเสพติดให้โทษทุกประเภทเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพ ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 2 โดย พล.ต.ท.ไถง ปราศจากสัตรู ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ สภ.บางละมุง ทำการปราบปรามยาเสพติดซึ่งแพร่ระบาดในพื้นที่อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดมาโดยตลอด
ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายนี้ ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าภายในซอยนาเกลือ 3 (ศาลเจ้าแม่ทับทิม) หมู่ 3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมจำหน่ายและเสพยาเสพติด และมีรถจักรยายนต์วิ่งเข้า-ออก ทั้งคืน ก่อความเดือดร้อนให้กับผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว
จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบและสามารถจับกุมตัว นายคมกิริช หรือไหล จันทน์เทศ พร้อมของกลางยาบ้า 2 เม็ด มาสอบสวนขยายผล นำไปสู่การจับกุมตัว นายเอกสิทธิ์ หรือโจ้ พุ่มพฤกษ์ ได้พร้อมของกลาง เป็นยาไอซ์ น้ำหนัก จำนวน 7.8 กรัม ยาบ้า จำนวน 200 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ร่วมกับบิดา คือ นายสมศักดิ์ หรือแก้ว พุ่มพฤกษ์ จำหน่ายยาเสพติดให้กับนักเสพทั่วไป จากนั้นจึงเข้าทำการจับกุมตัว นายสมศักดิ์ สามารถยึดของกลางเป็นยาบ้าได้อีก จำนวน 1,000 เม็ด
ผู้ต้องหาทั้งหมดนั้น เป็นเครือข่ายยาเสพติดเดียวกันที่ได้ทำการจับกุมไปแล้ว และอยู่ในระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่ยังหลงเหลือมาดำเนินคดีต่อไป