
เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ยอม
เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ยอม : ไลฟ์สตางค์ ชัยพล กฤตยาวาณิชย์ [email protected]
สถิติที่ได้ทำกับคนใกล้ตัว แบบไม่เสียสตุ้งสตางค์ ก็เป็นไปตามคาดครับ คนไทยส่วนใหญ่มีนิสัยคล้ายๆ กัน คือ “กลัวเสียหน้า” เป็นที่สุด
ผมไม่รู้ว่าชาติอื่นเป็นกันหรือเปล่า แต่เท่าที่เคยทำงานกับฝรั่ง ต้องบอกว่าอาการแบบนี้มีน้อย แทบไม่ค่อยได้เห็น อย่างยุโรป หรืออเมริกาส่วนใหญ่จะตรงไปตรงมา ผิดก็ยอมรับ ซัดกันตรงๆ
แต่บ้านเราเป็นเยอะ ยิ่งใคร “อายุ” มาก “อัตตา” ก็จะแปรผันตาม
ถึงขนาดบางที บางเรื่อง ก็ยอมพลิกลิ้นตัวเอง พูดกลับซ้ายเป็นขวา เปลี่ยนหน้าเป็นหลัง แค่เพียงไม่ยอมเสียหน้าต่อธารกำนัล
เว้ากันซื่อๆ อาการสีข้างเข้าถูบางที ก็ดูแย่กว่า เพราะทำให้คนแวดล้อมสิ้นศรัทธาเลยทีเดียว
ถ้าพูดเป็นภาษาผม ต้องบอกหมอนี่ชั่งน้ำหนักไม่เป็น ยอมเอาการ “เสียหน้า” มาทำให้ตัวเอง “เสียผู้เสียคน”
ในเรื่องเงินๆ ทองๆ อาการไม่ยอมเสียหน้าก็เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัยและไม่เลือกสถานที่ครับ
อารมณ์ประมาณว่าเวลาไปซื้อของ เกิดได้หยิบจับ สอบถามราคา และถูกคนขายมองหน้า แหย่หน่อย ยกหน่อยว่าเป็นคนกระเป๋าหนัก มีเงินมีทอง ก็มักจะตกกระไดพลอยโจน เสียเงินไป
ถ้าอยากได้อยู่แล้ว ก็ไม่ว่ากัน แต่หากเกิดการหน้ามืด ซื้อทั้งไม่ยาก หรือไม่ยอมต่อราคาทั้งที่ใจลึกๆ รู้ว่าแพงไม่คุ้ม อย่างนี้ผมว่าน่าเศร้าครับ ทางแก้ของอาการนี้ เท่าที่ผมไล่เรียงกับเพื่อนฝูง ก็มีให้เลือกครับ
เปลี่ยนวิธีคิด แก้ที่ต้นเหตุจะเป็นการดีที่สุด ให้คิดซะว่าเงินทองหาได้ยาก ใช้ไม่ถูกไม่ควร จะเรียกกลับมาก็ไม่ได้ ส่วนเรื่องหน้าตา ตามหลักศาสนาพุทธ ไม่มีหน้าเขา หน้าเรา ทุกอย่างสมมติเราอุปโลกน์ขึ้นมาเป็นอัตตาตัวเอง ถ้าหมดรากถอนโคนเมื่อไหร่ ใจก็เป็นสุข
ห้ามใจแต่แรก ถ้าไม่อยากได้จริงๆ ก็ไม่ต้องเดินเข้าร้านเลยครับ หรือเข้าไปแล้ว ก็ดูเฉยๆ ไม่ต้องเอ่ยปากถาม ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น
ถ้าคนขายเดินมา ก็เลี่ยงไปอีกทาง หรือค่อยๆ เนียน ถอยตัวออกห่าง เพราะอาการเสียหน้ามักจะเกิด หากมีตัวละครเพิ่มเข้ามา ทำให้เราต้องกังวล
เพื่อนคือตัวช่วย บางครั้งกับเพื่อนฝูง เราไม่ค่อยอายเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคนอื่น อีกเรื่องครับ หากเกิดจับพลัดจับผลูสนทนากับคนขายขึ้นมา หรือเผลอตัวต่อราคาไปแล้ว ก็อย่าได้เผลอใจเป็นอันขาด
วิธีง่ายๆ คือเอาเพื่อนมาช่วย เตี๊ยมกันให้ดี ให้แสร้งพูดว่ายังไม่เหมาะ ดูไม่ดี สีไม่โอเค ว่ากันไป ตามบท เป็นการปิดทางไม่ให้เงินไหลออกจากกระเป๋า
สร้างเรื่องสมมติ คนรู้จักผมใช้บ่อยครับ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องไปช็อป หรือซื้ออะไรคนเดียว แบบไม่มีตัวช่วย ทางเอาตัวรอดก็คือ แกล้งบอกไป สียังจืดไปหน่อย หรือนึกขึ้นได้ว่าเคยมีดีไซน์คล้ายๆ แล้ว หรือจะซื้อให้คนอื่น กลัวไม่ชอบ สารพัดเหตุผล ขึ้นอยู่กับประเภทที่เลือกซื้อ ก็น่าจะช่วยให้รอดได้
เอาเข้าจริง หลายคนอาจมีวิธีแก้อาการเสียหน้า ดีกว่าที่ผมไล่เรียงด้วยซ้ำไป หรือหากไม่มี จะเอาไปลองปรับใช้ ได้ผลยังไง ก็เขียนเมลมาคุยกันได้นะครับ
ผมว่ากล้าๆ หน่อย รับรองเงินไม่มีทางเสีย แถมชินๆ ไป ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ
หน้าจะเสียหรือเปล่า? ก็ไม่สนแล้วครับ