ข่าว

'ปู'ปัด'แม้ว'เข้าเขมรไม่ใช่ผู้แทนไทย

'ปู'ปัด'แม้ว'เข้าเขมรไม่ใช่ผู้แทนไทย

17 ส.ค. 2554

"ยิ่งลักษณ์" แจง "ทักษิณ" เจรจากัมพูชาส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะตัวแทนไทย "อภิสิทธิ์"งงสะกิดรัฐบาลป้องประโยชน์ชาติ "ยุทธศักดิ์" ปัดไม่รู้เรื่อง ลั่นไม่ยอมให้ไทยเสียเปรียบ ยันจะทำเพื่อประเทศชาติประชาชน โต้ กัมพูชา ปัดข่าวเครื่องบินตก

          17ส.ค.54  น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธถึงกรณีกระแสข่าวที่ระบุ  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปเจรจากับประเทศกัมพูชาในฐานะตัวแทนไทยว่า "ไม่ใช่ค่ะ เป็นเรื่องส่วนตัว"

 

"อภิสิทธิ์"งงสะกิดรัฐบาลป้องประโยชน์ชาติ          

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปประเทศกัมพูชาเพื่อไปเจรจาธุรกิจน้ำมันว่า ไม่แน่ใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณไปเจรจาธุรกิจตัวเองหรืออย่างไร แต่เรายืนยันว่ารัฐบาลมีหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์สูงสุดของตัวเอง การเจรจากับกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นปัญหาทั้งทางบกและทางทะเลต้องดูภาพรวม และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน อยากให้รัฐบาลได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาถูกครหามาตลอดว่าผลประโยชน์ทางทะเลไปเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ทางธุรกิจของคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลต้องแสดงความชัดเจนว่าการเจรจาในทุกเรื่องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศโดยส่วนรวม

               ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปญี่ปุ่นและพูดเรื่องการย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมจากประเทศญี่ปุ่นมาประเทศไทยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทำมานานแล้ว และไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลเคยทำมาแล้ว สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณทำอยู่นั้นถือเป็นการประชาสัมพันธ์ตัวเอง ส่วนจะคาดหวังว่าทำเพื่อประเทศชาติได้แค่ไหนรัฐบาลก็ต้องติดตาม ตรวจสอบ

 

'ยุทธศักดิ์'ปัดไม่รู้'ทักษิณ'หารือกัมพูชา

          พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้เลย ซึ่งถ้าทราบก็ทราบจากสื่อมวลชน

          ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า  พ.ต.ท.ทักษิณ มีสถานะอะไรที่จะไปเจรจาแทนรัฐบาล รมว.กลาโหม กล่าวว่า ต้องถามท่านนายกฯ เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ ครม. คิดว่า สถานะ พ.ต.ท.ทักษิณ คืออะไร รมว.กลาโหม กล่าวว่า ถามท่านนายกฯดีกว่า เพราะตนไม่เกี่ยวข้องกับทางนี้ และส่วนที่ตนจะเดินทางไปกัมพูชาในวันศุกร์ที่จะถึงนี้  คือจะเดินทางไปพร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อดูเรื่องพื้นที่ของกองทัพภาคที่2 ในเขตประเทศไทยเท่านั้น

          ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพานักธุรกิจไปเพื่อพูดคุยการลงทุนในเรื่องน้ำมัน รมว.กลาโหม กล่าวปฏิเสธว่าว่า ไม่ทราบเลย

          ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำอีกว่า เรื่องผลประโยชน์ทางทะเลเป็นเรื่องที่รัฐบาลต่อรัฐบาลต้องเจรจากัน ใช่หรือไม่ รมว.กลาโหม กล่าวว่า คงคุยหลังจากนี้ แต่ขณะนี้ตนไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของกระทรวงอื่น อีกทั้งเรื่องนี้เป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่ตนดูในเรื่องของความมั่นคง ปัญหาชายแดน เรื่องของเศรษฐกิจที่จะไปเจรจากัน ตนขออนุญาตไม่ตอบ

          เมื่อถามว่าผลประโยชน์ทางทะเลจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีเขตแดนทางทะเลที่ชัดเจน ซึ่งเกี่ยวกับทางกระทรวงกลาโหมที่ดูแลทางด้านความมั่นคง รมว.กลาโหม กล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวกับทางกระทรวงกลาโหมตนจะเข้าไปดู อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ทำให้เสียเปรียบในเรื่องอาณาเขตทางทะเล แต่ในเรื่องผลประโยชน์ระหว่างชาติจะเป็นเรื่องของกระทรวงอื่นที่ดูแลใน เรื่องเศรษฐกิจ

          ต่อข้อถามที่ว่า  หากเกิดกรณีเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบร่วมกันใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า  ต้องนำเรื่องเข้าครม.ในภายหลัง ซึ่งขณะนี้เป็นเรื่องของแต่ละกระทรวงต้องดูแลไปก่อน ส่วนเรื่องของการแบ่งอาณาเขตที่ชัดเจน เมื่อถึงเวลาค่อยว่ากัน โดยจะเริ่มคุยกันเรื่องอาณาเขตระหว่าง ไทย-กัมพูชากันตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป และวันนี้(17 ส.ค.) ตนจะตอบจดหมาย พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่เขียนมาถึงเป็นฉบับที่2

          นอกจากนี้วันนี้ กระทรวงการต่างประเทศและกองทัพไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเรื่องเขตแดน จะมาชี้แจงรายละเอียดให้ตนทราบ เพื่อจะตีกรอบให้ข้อมูลในเรื่องปัญหาเขตแดนไทยกัมพูชาแก่ตน

          ทั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวปฏิเสธว่าจะไม่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางเรื่องในการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะผลประโยชน์จะเกิดอยู่กับประเทศชาติให้กับประชาชน ทุกข้อตกลงของตนจะต้องเป็นที่พอใจของประชาชนทั้งประเทศ ตนจะไม่ตกลงก่อนความรู้สึกของประชาชน อะไรที่เป็นข้อตกลง จะไม่ตกลงใจด้วยตนเอง ซึ่งการประชุมของตนจะเป็นการประชุมวิสามัญก่อน

          และเมื่อทางรัฐบาล และประชาชนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เราจะไปประชุมอย่างเป็นทางการเป็นสามัญอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นทุกคนต้องรู้ว่าภายใต้การดำเนินการที่ตนรับผิดชอบไม่มีผลประโยชน์อะไรที่แอบแฝง

          ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปยังกัมพูชาจริง จะมีผลดีผลเสียอย่างไรระหว่างการเจรจาระหว่างรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่าน ตนไปทำงานตามหน้าที่ ในส่วนที่รับผิดชอบและท่านไม่ได้แจ้งอะไรให้ทราบ และที่ตนจะเดินทางไปเพราะเขาเป็นเจ้าภาพในการประชุม จีบีซี เท่านั้น

 

 "วิชิต ยาทิพย์"โผล่ร่วมแนะทางแก้ปัญหาเขมร
 
           พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลัง พล.อ.ยุทธศักดิ์เป็นประธานการประชุมเพื่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาโดยมีผู้แทนจากหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้ข้อสรุปมอบหมายให้กองเลขานุการคณะกรรมการฝ่ายไทยเตรียมจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (อาร์บีซี.) และจัดเตรียมแนวทางการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี.) และกำหนดแนวทางการประชุมให้มีทิศทางที่สอดคล้องกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้การประชุมทั้งสองส่วนถือเป็นช่องทางที่จะคลี่คลายและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสันติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไทยและกัมพูชา อันนำไปสู่ความสงบสุขแก่พี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ โดยขอยืนยันว่า การดำเนินการใดๆจะคำนึงถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนและเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ  อย่างไรก็ตามจะให้กองเลขานุการคณะกรรมการฝ่ายไทยไปคุยกับทางกัมพูชาให้เร็วที่สุด เพราะในวันที่ 23-25 ส.ค.จะมีการประชุมอาร์บีซี. ที่ จ.นครราชสีมา  

           เมื่อถามว่าจะมีประเด็นอะไรที่ต้องนำเข้าหารือต่อครม.หรือต้องผ่านสภาฯ พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ต้องดูถึงปัญหาที่จะเกิดในพื้นที่เป็นหลัก ส่วนจะนำเข้าครม.หรือไม่ก็ต้องว่ากันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ รมว.กลาโหม ยังไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายจึงเป็นเพียงการรับฟังปัญหาต่างๆเท่านั้น

           เมื่อถามว่ากองทัพบกซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติเสนอข้อมูลอะไรให้พิจารณาหรือไม่  พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องการประสานงานร่วมกันของสองประเทศ ที่ผ่านมาเรามีการประสานงานไม่ต่อเนื่อง จึงมีข้อเสนอแนะว่า น่าจะมีการหารือโดยใช้ช่องทางที่มีอยู่เป็นหลัก ถ้าเรามีช่องทางก็จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว ส่วนวันเวลาในการประชุมจีบีซี.ทางประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพต้องรอให้เป็นผู้กำหนด จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับกองเลขาฯคณะกรรมการของฝ่ายไทย  ทั้งนี้ พล.อ. เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กัมพูชา มีความเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
    
           พ.อ.ธนาธิป กล่าวต่ออีกว่า วันที่ 19 ส.ค. 54 นี้ รมว.กลาโหม จะเดินทางไปกองกำลังสุรนารีเพื่อรับทราบข้อมูลและปัญหาต่างๆในพื้นที่ รวมทั้งลงพื้นที่ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ เพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่อีกด้วย ทั้งนี้ในการประชุมวันนี้พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผบ.ทบ.ได้เข้าร่วมประชุมด้วยในฐานะคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชาเพื่อให้ข้อเสนอแนะ คาดว่าจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีกลาโหม

 

'ยุทธศักดิ์'โต้'กัมพูชา'ปัดข่าวเครื่องบินตก

          พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์กัมพูชา ระบุว่ามีเครื่องบินสอดแนมของไทย หรือ ยูเอวี ตกในเขตประเทศกัมพูชาและสามารถเก็บซากเครื่องบินดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานได้ว่า ทางกองทัพภาคที่2 ได้แถลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า เครื่องบินสอดแนมที่ตกในเขตกัมพูชา ห่างจากเขตแดนเกือบ 20 กม.

          ซึ่งทางกองทัพภาคที่2 ไม่มีเครื่องบินดังกล่าวใช้ อีกทั้งการที่เครื่องบิน ได้บินเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชาตั้ง 20กม. นั้นไม่ใช่เรา อย่างแน่นอน เพราะถ้าภารกิจที่เราจะดูแลเรื่องเขตแดนก็จะไม่เลยเขตมากถึง 20 กม. และกองทัพภาคที่2 ได้ปฏิเสธแล้วว่าไม่มีภารกิจใดที่ต้องใช้เครื่องบินไร้พลขับในพื้นที่เขตชายแดน

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีการอ้างว่าเครื่องบินไทยเข้าไปก่อน 2 ลำ มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.ยุทะศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีเลย ตนขอยืนยันปฏิเสธได้เลยว่าไม่ใช่เป็นการกล่าวอ้าง เพราะกองทัพภาคที่2 ไม่มีเครื่องบินแบบนี้ใช้ และไม่มีใช้กับภารกิจนี้