
อาจารย์ ประดิษฐ์ ศรีวิชัยนันท์ แห่งแม่ริมเซรามิค
อาจารย์ ประดิษฐ์ ศรีวิชัยนันท์ แห่งแม่ริมเซรามิค : พันเรื่องถิ่นแผ่นดินไทย โดย ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ และคณะ
เชียงใหม่ในอดีตยุคอาณาจักรล้านนาในพุทธศตวรรษที่ 19 มีการผลิตเครื่องเคลือบสังคโลก ซึ่งในปัจจุบันนี้เรียกว่า “ศิลาดล” โดยได้รับการสืบทอดมาจากอาณาจักรสุโขทัย และอาณาจักรสุโขทัยได้รับการสืบทอดต่อมาจากจีนอีกทีหนึ่ง ศิลาดลเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาที่เคลือบด้วยน้ำสีเขียวอ่อน สีเขียวเข้ม สีเขียวอมฟ้า สีเขียวอมเทา สีเขียวอมน้ำตาล และมีรอยรานปรากฏอยู่บนผิวเสมอ สีเขียวของศิลาดลนั้น ชาวจีนเลียนแบบมาจากสีของหยก ซึ่งเป็นเครื่องประดับของพระเจ้าแผ่นดิน ศิลาดลจึงมีใช้แต่ในราชสำนักเท่านั้น “ศิลาดล” เป็นภาษาสันสกฤต มีความหมายว่า “หินเคลือบ” มีที่มาจากคำว่า “เซลาดอน” (Celadon) ซึ่งเป็นชื่อของตัวละครที่แสดงเป็นเด็กเลี้ยงแกะสวมเสื้อคลุมสีเขียวอมเทา จากละครยอดนิยมของตะวันตกชื่อเรื่อง “D’Urf’s Romance” ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ศิลาดลสีเขียวหยกของจีน ได้เข้าไปเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ชนชั้นสูงของโลกตะวันตก ราวคริสต์ศตวรรษที่ 17 อันเนื่องมาจาคุณภาพ ความประณีตงดงาม และความแกร่งของผลิตภัณฑ์ ที่ต้องผ่านขบวนการเผาที่ต้องใช้ความร้อนสูงถึง 1,250 องศาเซลเซียส
เมื่อครั้งที่เชียงใหม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของพม่าเป็นเวลากว่า 200 ปี ทำให้การผลิตศิลาดลของเชียงใหม่ขาดความต่อเนื่อง จนกระทั่งในปีพ.ศ.2510 นักโบราณคดีได้ศึกษาพบว่า เชียงใหม่ในอดีตเคยเป็นแหล่งในการผลิตศิลาดลที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยที่เชียงใหม่มีดินดำที่มีคุณภาพดี เหมาะแก่การผลิตศิลาดล จากการค้นพบของนักโบราณคดีดังกล่าวครั้งนั้น ทำให้เชียงใหม่กลับมาเป็นศูนย์กลางในการผลิตศิลาดลของประเทศไทย และของโลกอีกครั้งหนึ่ง
ในปีพ.ศ. 2512 อาจารย์ประดิษฐ์ ศรีวิชัยนันท์ ได้ตั้งโรงงานเซรามิกเล็กๆ ขึ้นที่ริมถนนสายแม่ริมเชียงใหม่ และได้ตั้งชื่อโรงงานนี้ว่า “แม่ริมเซรามิค” ด้วยที่อาจารย์ประดิษฐ์เป็นศิษย์ท่านหนึ่งของ อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่คณะจิตรกรรม ปฏิมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อปีพ.ศ.2499 ตลอดจนได้รับทุนจากโคลัมโบไปศึกษาต่อด้านเครื่องปั้นดินเผาที่สถาบันเซโตะ ในประเทศญี่ปุ่น ผลงานการผลิตศิลาดลของแม่ริมเซรามิคจึงมีความงดงาม มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เป็นที่นิยมของบุคคลชั้นสูงของไทย และต่างชาติ
ผลิตภัณฑ์ศิลาดลของแม่ริมเซรามิคมีความหลากหลาย ทั้งที่เป็นชุดอาหาร ชุดชา กาแฟ ตลอดจนแจกันดอกไม้ เครื่องตกแต่งบ้าน ตั้งแต่หลังคา ไปจนถึงพื้นกระเบื้อง ปัจจุบัน อาจารย์กิติกร ศรีวิชัยนันท์ บุตรชายของอาจารย์ประดิษฐ์ ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันด้านเซรามิกที่เมืองฟาเอนซาจากประเทศอิตาลี เป็นกำลังสำคัญของโรงงานในการสืบต่อศิลปะอันทรงคุณค่าเอาไว้ และเมื่อครั้งที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มาสั่งกระเบื้องปูพื้นบ้านริมปิง ที่เชียงใหม่ ได้เคยตัดพ้อความประณีตของโรงงานแม่ริมเซรามิค ที่ต้องใช้เวลานานในการผลิต บนบทความ “ซอยสวนพลู” ว่า “กระเบื้องหลังคาที่ผลิตจากโรงงานแม่ริมเซรามิคนั้น มีความประณีตบรรจงชนิดที่ว่า ใช้วิธีย่างไฟทีละแผ่น...” เสาร์-อาทิตย์ ลาท่านผู้อ่านไป 2 วัน พบกันวันจันทร์ ไปเที่ยว “พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน” กันครับ



