คนร้ายใช้ลูกซองจ่อยิงหนุ่มใหญ่เฝ้าคอกวัวดับ! | คมชัดลึก

          3 ส.ค.54 ศูนย์วิทยุ 191 จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งมีคนพบศพถูกฆ่าตายที่บริเวณกลางทุ่งนา ม.1 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ โดยมี ร.ต.อ.มนตรี แดงดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ โสรัจจ์ ผกก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก นายแพทย์วีระพงศ์ ประยูรเสถียร แพทย์เวรนิติเวช โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร รุดไปทำการสอบสวน

          บริเวณเกิดเหตุอยู่ใกล้กับถนนสายเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตก พิษณุโลก-บ้านกร่าง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังของ หจก.บอรอล คอนกรีต แต่ต้องใช้เวลาเดินทางเข้าไปที่จุดเกิดเหตุเกือบ 2 กิโลเมตร พบศพนายชาติ ปูลมดี อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 ม.9 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สวมเสื้อยืดสีเขียว นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดง สภาพนอนหงาย อยู่บริเวณที่เพิงพักของตนเอง ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 2 นัด เข้าที่ศีรษะกะโหลกเปิด มันสมองออกมากองอยู่ข้างนอก และด้านหลังทะลุหน้าอก ในที่เกิดเหตุพบหมอนรองกระสุนปืนลูกซองถูกศีรษะศพทับอยู่ และห่างจากศพไปประมาณ 4 เมตร มีปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 ปลอก

          เบื้องต้นจากการสอบสวน ทราบว่าผู้ตายมีอาชีพเลี้ยงวัว และนอนเฝ้าคอกวัวทุกคืน โดยมีที่พักอยู่ห่างจากคอกวัวประมาณ 20 เมตร แต่ช่วงเย็นวันที่ 2 ส.ค. ผู้ตายได้ออกไปข้างนอกและกลับมาตอนหกโมงเย็น เพื่อมานอนเฝ้าวัวตามปกติ โดยไม่มีใครทราบว่าเกิดเหตุเวลาไหน กระทั่งรุ่งเช้ามีลูกจ้างชาวพม่ามาเจอ จึงไปแจ้งให้ญาติทราบ และแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ

          นางดล จาดสี อายุ 52 ปี ภรรยา กล่าวว่า ผู้ตายเคยมีภรรยามาก่อนแล้วคนหนึ่ง แต่เลิกกันไปแล้ว และผู้ตายมาอยู่กินตนเองมานานกว่า 10 ปี โดยเลี้ยงวัวทั้งของตัวเองและของคนอื่น ทุกคืนผู้ตายจะไปนอนเฝ้าคอกวัวเพียงคนเดียว ส่วนตนจะพักอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ใกล้กับ หจก.บอรอล คอนกรีต ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ขณะตนกำลังนั่งกินข้าว มีรถจักรยานยนต์ขี่เข้าไปที่บริเวณผู้ตายพักอยู่ โดยไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะคิดว่าคงจะมีคนไปหาสามีตามปกติ แต่ไม่ได้ยินเสียงปืน เพราะมีฝนตกลงมา

          นายเชน ปูลมดี อายุ 32 ปี ลูกชาย อยู่บ้านเลขที่ 53/2 ม.1 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าพ่อมีปัญหากับใคร เพราะไม่ค่อยมาเที่ยวหา หลังทราบข่าวได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพราะพ่อจะอยู่กินกับภรรยาคนใหม่ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ตนเองก็มีครอบครัวอยู่คนละที่กัน

          ด้านเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยแพทย์เวร ได้ชันสูตรพลิกศพ พบว่าผู้ตายถูกยิงแบบเผาขนจากด้านหลัง ขณะที่ผู้ตายยืนหันหลังอยู่ แรงกระสุนเจาะกะโหลกเปิดมันสมองกระจายออกมาอยู่ข้างนอก และแผ่นหลังกระสุนทะลุหน้าอก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

          นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายฉุ่ยลูกจ้างชาวพม่า ซึ่งมีที่พักใกล้กับคนตาย ชอบดื่มเหล้ากับผู้ตายเป็นประจำ และเป็นผู้พบศพคนแรก เพื่อนำตัวไปทำการสอบสวนหาข้อมูลรายละเอียดการฆ่าครั้งนี้ต่อไป