ข่าว

4หุบเขามรณะ..เสี่ยง'การบิน'

4หุบเขามรณะ..เสี่ยง'การบิน'

28 ก.ค. 2554

4หุบเขามรณะ..เสี่ยง'การบิน'ป่าแก่งกระจานแรงสุด :โต๊ะรายงานพิเศษ รายงาน

           "นักบินปีกหมุน" จัดอันดับ 4 หุบเขามรณะในเมืองไทย "แก่งกระจาน"เสี่ยงสูงสุด รองมาหุบเขาใน จ.แม่ฮ่องสอน ภาคใต้ผืนป่าพะโต๊ะและเทือกเขาบูโด...ดร.อานนท์วิเคราะห์ภาพดาวเทียมจุด "ฮ.ตก" แนวเขาปันน้ำ-กระแสลมแรงกะทันหัน!!

             "กองทัพไทย" ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งใหญ่ ในเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก 3 ลำซ้อน จากภารกิจเริ่มแรกช่วยเหลือชุดลาดตระเวนกว่า 50 ชีวิต จากค่ายทัพพระยาเสือ, ทหารพรานกองร้อยที่ 947, ตำรวจ ตชด.144 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งติดพายุฝนอยู่ในป่าลึก ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หลังระดมกำลังกวาดล้างขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า

            หลังจากนั้น กองกำลังพลค่ายทัพพระยาเสือ กรมทหารราบที่ 19 กองกำลังสุรสีห์ ส่งเฮลิคอปเตอร์ รุ่น "ฮิวอี้" เข้าไปช่วยเหลือลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ในป่าออกมาจนเกือบหมด เหลือเพียง 19 นาย ก่อนกลับไปช่วยเหลืออีกครั้งแต่ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ทำให้ทหารกล้าเสียชีวิตยกลำ 5 นาย และระหว่างภารกิจการช่วยเหลือลำเลียงศพทั้ง 5 เฮลิคอปเตอร์ รุ่น "แบล็กฮอว์ก" ก็มาตกซ้ำอีก มีผู้เสียชีวิตยกลำ 9 ศพ หนึ่งในนั้นคือ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 ต่อมา เฮลิคอปเตอร์ รุ่น "เบลล์ 212" ก็มาตกอีก มีทหารเสียชีวิต 3นาย บาดเจ็บ 1 นาย กลายเป็น "โศกนาฏกรรม 17 ศพ...ภารกิจแก่งกระจาน" !!

            ศัตรูที่มองไม่เห็น "สอย" แมงปอเหล็กแห่งกองทัพไทย ร่วงลำแล้วลำเล่าดั่งถูกซุ่มโจมตีกลางป่าลึก พร้อมกับเสียงร่ำลือกันถึงอาถรรพณ์ป่าที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่จากประสบการณ์ "นักบินตำรวจ" ที่อยู่กับลมกับฟ้าเหนือหุบเขากลางป่าลึกของไทย บอกได้แต่เพียงว่า เมื่อต้องควบคุมเจ้าแมงปอเหล็กผ่านผืนป่าทั่วฟ้าเมืองไทย ขอยกให้ผืนป่าแก่งกระจานมีความเสี่ยงสูงสุดต่อการบิน

            "ผมออกปฏิบัติหน้าที่มาแล้วทั่วประเทศ หากให้จัดอันดับพื้นที่เสี่ยงสำหรับการบินมากที่สุดในประเทศไทย ต้องยกให้พื้นที่ป่าแก่งกระจาน เป็นอันดับแรก โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงป่าโป่งลึกเป็นต้นไปไล่ไปจนถึงชายแดนประเทศพม่า เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง สภาพป่ายังสมบูรณ์รกทึบ ประกอบกับช่องเขาแคบ หากเป็นช่วงฤดูมรสุมยิ่งอันตรายมาก เนื่องจากมีเมฆหนาปกคลุมยอดเขา บดบังทัศนวิสัยในการบิน หากนักบินมีประสบการณ์น้อยจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย" พ.ต.อ.กำธร ยุทธกาจกำธร นักบิน (สบ 5) กองบังคับการกองบินตำรวจ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เผยประสบการณ์

            หากให้จัดอันดับผืนป่าที่มีความเสี่ยงต่อการบิน พ.ต.อ.กำธร ย้ำว่า พื้นที่เสี่ยงอันดับ 1 ต้องยกให้ผืนป่าแก่งกระจาน โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม ป่าแก่งกระจานจะมีลมพัดเซาะตามซอกเขา จากฝั่งประเทศพม่าเข้ามาปะทะกับสันเขา ทำให้เกิดลมแปรปรวน ลมเกิดการม้วนตัวพัดไม่เป็นทิศทาง หากนำเครื่องบินผ่านลมลักษณะนี้จะปะทะกับตัวเครื่องทำให้เกิดการแกว่งตัว และหากเกิดขึ้นขณะกำลังบินผ่านพื้นที่ช่องเขาแคบๆ ก็จะทำให้เครื่องไปกระแทกภูเขาได้ง่าย ซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง

            พื้นที่เสี่ยงอันดับ 2 คือ หุบเขาในพื้นที่ภาคเหนือแถบ จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากพื้นที่ภาคเหนือสูงกว่าระดับน้ำทะเลค่อนข้างมาก อากาศจะเบาบาง ส่งผลต่อสมรรถภาพของเครื่องยนต์ ยิ่งหากเป็นช่วงฤดูแล้ง อากาศร้อน อากาศยิ่งเบาบาง แถมยังเผชิญกับหมอกควันจากไฟป่าและการเผาพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งทำให้มีเกิดหมอกควันปกคลุมพื้นที่เป็นอุปสรรคต่อการบินอย่างมาก

            ส่วนพื้นที่อันดับ 3 คือ ผืนป่าพะโต๊ะ ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร เนื่องจากมีภูเขาค่อนข้างสลับซับซ้อน และเป็นพื้นที่รับลมทะลที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนอย่างมาก คาดการณ์ล่วงหน้าลำบาก โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนอากาศจะปิด มีเมฆมากจนแทบมองไม่เห็น และพื้นที่เสี่ยงอันดับ 4 คือ ป่าเทือกเขาบูโดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีลมทะเลพัดเข้าพื้นที่ป่า ช่วงฤดูมรสุมลมกระโชกแรง ประกอบกับเป็นพื้นที่ภูเขาค่อนข้างสูง บริเวณช่องเขามีลมพัดแรงและสภาพอากาศแปรปรวน

            "เมื่อมีความจำเป็นต้องไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เหล่านี้ ผมจะใช้วิธีตรวจสอบสภาพอากาศ จากสถานีตำรวจในพื้นที่ก่อนล่วงหน้าเสมอ เพราะอยู่ในพื้นที่น่าจะให้คำตอบดีที่สุด หากมีฝนตกหนัก สภาพอากาศเลวร้ายก็จะไม่เข้าพื้นที่ เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก" พ.ต.อ.กำธรกล่าว 

            ทั้งนี้ บริเวณเทือกเขาตะนาวศรีถูกยกให้เป็นพื้นที่เสี่ยงอันดับ 1 ของนักบิน โดยเฉพาะช่วงฤดูมรสุม สภาพอากาศมีความแปรปรวนค่อนข้างสูง กระแสลมแรง และมีเมฆปกคลุมในปริมาณมากนั้น ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รักษาการ ผอ.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศฯ วิเคราะห์ผ่านภาพถ่ายดาวเทียม บริเวณจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่น "ฮิวอี้" และ รุ่น "แบล็กฮอว์ก" ของกองทัพบกตก ระบุว่า จุดที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับสันปันน้ำของเทือกเขาตะนาวศรีรอยต่อระหว่างไทยกับพม่า ซึ่งภูมิประเทศมีความสลับซับซ้อน มีทั้งสันเขาตามขวางและตามยาว ลักษณะเช่นนี้ทำให้กระแสลมพัดไม่เป็นทิศทาง ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดจากอ่าวเบงกอลเข้ามาทางประเทศพม่าปะทะกับสันเขาตะนาวศรี ที่มีความสูงประมาณ 1,100-1,200 เมตร ทำให้กระแสลมตลอดแนวสันปันน้ำมีความรุนแรงมาก

            "หากดูตามแนวสันปันน้ำฝั่งประเทศพม่าจะมีความสูงมากกว่าฝั่งไทย ซึ่งลมจากอ่าวเบงกอลจะพัดมาปะทะสันเขาทำให้บริเวณนั้นมีลมแรงและมีความแปรปรวน ขณะที่ฝั่งไทยมีสันเขาบังจึงไม่มีลม เมื่อนักบินควบคุมเฮลิคอปเตอร์ให้บินสูงขึ้นเหนือสันเขาหรือปีนข้ามสันเขาไปในฝั่งพม่าก็จะปะทะกับกระแสลมแรงอย่างกะทันหัน อาจเป็นสาเหตุให้เครื่องเสียหลักพุ่งกระแทกกับภูเขาได้ " ดร.อานนท์วิเคราะห์

 
  7เดือน"ฮ.ตก."เฉลี่ย7ครั้ง
 
 - 11 มกราคม  : ฮ.ของกองบินตำรวจ มุ่งหน้า จ.สระแก้ว เครื่องยนต์ขัดข้องลงฉุกเฉินกลางทุ่งนา จ.ฉะเชิงเทรา บาดเจ็บ 2 คน

 
 -  7 กุมภาพันธ์ : ฮ.ฝึกหัด ของศูนย์การบินพลเรือนบ่อฝ่าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตกกลางทะเลชะอำ นักบินและผู้ฝึกหัดได้รับบาดเจ็บ


 -  14 กุมภาพันธ์ : เครื่องบินเอฟ 16 ตก 2 ลำ ที่ ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ขณะที่ร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ ร่วมกับสหรัฐ นักบิน 2 คนดีดตัวจากเครื่องก่อนจะตกสู่พื้นอย่างปลอดภัย


 - 14 เมษายน : เครื่องบินเล็กแอร์โรเบติกอีเกิ้ลวัน 230 แรงม้า แบบ 2 ที่นั่ง ตกที่ อ.องครักษ์ จ. นครนายก ทำให้นักบินและชาวต่างชาติเสียชีวิตทันที 2 ราย


 - 16 กรกฎาคม : ฮ.รุ่นเบลล์ 205 หรือฮิวอี้ 8 ที่นั่งของค่ายทัพพระยาเสือ ตกที่ป่าแก่งกระจาน เสียชีวิตยกลำ 5 ราย


 - 19 กรกฎาคม : ฮ.รุ่นแบล็กฮอว์ก ตกที่ป่าแก่งกระจาน เสียชีวิตยกลำ 9 ราย


 - 24 กรกฎาคม :  ฮ.รุ่นเบลล์ 212 ตกที่ป่าแก่งกระจาน เสียชีวิต 3 ราย รอด 1 ราย