'ฮ.ฮิวอี้ทอ.'เครื่องขัดข้องหวิดร่วงอีก | คมชัดลึก

           (27ก.ค.) พล.อ.ต.มณฑล  สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ UH-1H หรือฮิวอี้ของกองทัพอากาศได้ทำการขึ้นบิน เพื่อทำการฝึกในภารกิจค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบของหน่วย ซึ่งได้ทำการฝึกมาตั้งแต่วันที่ 25-27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยภายในเครื่องมีนักบิน 2 คน เจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยชีวิต 2 คน ช่างเครื่อง 1 คนและนายทหารสังเกตุการณ์ฝึก 1 คน รวมทั้งหมด  6 คน ซึ่งใช้พื้นที่ของกองบิน 23 จ.อุดรานีเป็นสถานที่ฝึก

            หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ได้ขึ้นบินห่างจากกองบิน 18 กิโลเมตร นักบินได้พบว่า เครื่องวัดรอบเครื่องยนต์ไม่ทำงาน เข็มวัดรอบตก นักบินจึงหาพื้นที่โล่ง เพื่อลงจอดตรวจสอบแก้ไขปัญหาตามหลักการนิรภัยการบิน โดยนักบินได้ลงจอดบริเวณทุ่งนา

            หลังจากลงมาตรวจสอบพบว่า เครื่องวัดรอบเสีย แต่ส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีปัญหา จึงแจ้งกลับไปยังกองอำนวยการฝึก เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำอะไหล่เปลี่ยน ซึ่งหลังจากที่มีการเปลี่ยนอะไหล่ จึงได้นำเครื่องขึ้นบินตามภารกิจปกติต่อไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งหน่วยที่ร่วมทำการฝึกในภารกิจค้นหาและช่วยชีวิตจะมีทั้งเครื่องบินชนิดปีก และเฮลิคอปเตอร์แบบแอล 39 อัลฟ่าเจ็ท UH-1H (ฮิวอี้)  เบลล์412  

            “เฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ดังกล่าวมีอายุการใช้งาน 40 ปี และมีการซ่อมบำรุงตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งก่อนที่จะมีบินขึ้นปฏิบัติภารกิจได้มีการตรวจสอบเช็คความเรียบร้อยของอุปกรณ์ตามรอบที่กำหนดคือ 50 ชั่วโมงก่อนปฏิบัติภารกิจ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า เครื่องบินของกองทัพอากาศทั้งหมดที่มีอยู่ได้มีการตรวจสอบดุแลเป็นอย่างดี แม้ว่า เครื่องจะมีอายุการใช้งานมามากแล้วก็ตาม” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว 

           นายประจักษ์ หารินทะชาติ อายุ 33 ปี อยู่ที่ 123 หมู่ 3 บ้านถอน ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์  ได้นำผู้สื่อข่าวเดินเท้าเข้าไปยังบริเวณที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉิน โดยเป็นทุ่งนา ใกล้กับที่นาของนายประจักษ์  ประมาณ 200 เมตร และห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีร่องรอยขาสกีของเครื่อง ที่จมลงในพื้นดินประมาณ 2 นิ้ว โดยบริเวณรอบ ๆ เดิมมีการกั้นรั้วแบ่งเขต แต่ทางกำลังทหารที่เข้ามาดำเนินการแก้ไข ได้ทำการรื้อออกจนหมด เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นได้อย่างปลอดภัย

             นายประจักษ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ขณะกำลังดำนา ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังอยู่บนอากาศ จึงแหงนขึ้นไปเห็นมีอยู่ 2 ลำ โดยลำแรกได้บินผ่านศีรษะไป มุ่งหน้าไปทาง อ.บ้านดุง สังเกตเห็นว่า ฮ.ลำที่ 2 ค่อย ๆ บินต่ำลดระดับลงมา และได้ร่อนลงจอดที่กลางทุ่งนา ห่างจากที่กำลังดำนา 200 เมตร ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปดู พบว่ามีผู้โดยสารที่นั่งมากับ ฮ. 6 คน โดยแต่งชุดแบบนักบิน 2 คน เป็นช่างเครื่อง 2 คน และอีก 2 คน แต่งชุดพรางทหาร ซึ่งตนเคยเป็นทหารมาก่อน ทราบว่าเป็น ฮ.ของทหารอากาศ เพราะมีคำว่า ทอ.และเลข 40 อยู่ท้ายหาง
 
            “ผมเดินเข้าไปสอบถามคนที่มากับ ฮ.เขาบอกว่า เครื่องมันเสีย ลงมาจอดฉุกเฉิน จะไปฝึกที่ อ.บ้านดุง จากนั้นชาวบ้านที่ได้ยินเสียงก็แห่กันเข้ามาดู ต่อมาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็มีทหารขับรถจี๊บเข้ามาประมาณ 6-7  นาย  มาเพื่อซ่อม ฮ.ลำนี้ และกันชาวบ้านให้ออกไป และห้ามไม่ให้ถ่ายรูป ชาวบ้านจึงพากันแยกย้ายกลับ และทหารใช้เวลาซ่อมประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ฮ.จึงติดเครื่องและบินกลับไป"นายประจักษ์กล่าว

 

"สุเทพ"เชียร์"ผบ.ทบ."ซื้ออากาศยานใหม่

            นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ระบุกองทัพประสงค์จะซื้ออากาศยานใหม่  30 ลำ ว่า อย่านำเรื่องนี้ไปโยงกับเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ที่ผ่านมา เพราะเครื่องที่เกิดอุบัติเหตุซื้อมา 10 - 20 ปี ตอนที่ซื้อมาก็ตรวจสอบถูกต้องตามเสป็คเรียบร้อยไม่มีปัญหา ตนเชื่ออย่างนั้น และไมได้ตรวจสอบว่ายุคสมัยนั้นเขาซื้อกันด้วยวิธีการอย่างไร แต่กองทัพก็มีระบบเชื่อถือได้ ว่าการตรวจสอบต่างๆเป็นอย่างไร

            “แต่เมื่อใช้มา 10 - 20 ปีก็ต้องมีชำรุดเสื่อมโทรมเป็นธรรมดามีวงรอบอยู่ว่าอะไหล่ชิ้นนี้ใช้ได้กี่ปีกี่เดือนเขาก็เปลี่ยนไปตามวงรอบ มีการซ่อมแซมบำรุงรักษา แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้สารพัด เหมือนกับรถยนต์ ตรวจสอบเอาเข้าอู่ประจำมีหลายคันขับๆ ไปก็ตายกลางทางเป็นปกติ หรือเบรกแตก คลัทช์เสื่อม อากาศยานก็เกิดปัญหาอย่างนี้ได้ ตนไม่ต้องการให้ไปวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงที่ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเสียกำลังใจ เช่นวิจารณ์นักบิน หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายซ่อมบำรุง ตรงนี้อยากขอให้สื่อทำใจให้กว้างเป็นธรรม” นายสุเทพ กล่าว 

            รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า  อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ยังขึ้นกับสภาพภูมิอากาศตรงนั้น เช่น ฟ้าปิดทันที เกิดพายุข้นมาทันที เกิดลมดูดลมหมุนขึ้นมาทันที ตนเคยได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ประจำก็เกิดเหตุอย่างนี้อยู่เรื่อย แต่บางทีเกิดหนักจนเอาไม่อยู่ก็เสียหาย

            ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูความจำเป็นที่ต้องซื้อเฮลิคอปเตอร์ 30 ลำ อย่างที่ผบ.ทบ.ระบุหรือไม่  นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยว่าต้องซื้อเฮลิคอปเตอร์มาใช้ทดแทนเครื่องที่ใช้ไป 20 ปี ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังใช้อยู่ ส่วนจะซื้อได้ 20 หรือ 30 ลำ ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ  แต่ถ้าถามความจำเป็นตนก็เห็นด้วย ทุกครั้งที่นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปไหนมาไหน สมัยเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ถ้าวันไหนเป็นแบล็กฮอว์คก็สบายใจ แต่วันไหนไมได้นั่งก็ต้องปลุกพระไปเรื่อย เพราะใจไม่ดี ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ยังกล้านั่งแบล็กฮอว์กอยู่หรือไม่  รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้ใกล้จะหมดตำแหน่งรองนายกฯแล้วก็ให้ รองนายกฯ คนใหม่นั่งต่อไป  

            เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ว่าที่นายกฯ  ระบุว่าจะขอตรวจสอบภาระงบประมาณก่อนจะมีการการจัดซื้ออยากฝากอะไรถึงรัฐบาลใหม่  นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องเครื่องไม้เครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ยังมีความจำเป็น ตั้งแต่อุปกรณ์การเรียนการสอนจนถึงอุปกรณ์ในกองทัพ  

 

มาร์คเข้าเยี่ยมทหารฮ.ตกชมเก๋ง 

            เมื่อเวลา 13.30 น.  นายอภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามอบกระเช้าดอกไม้และมอบเงินจำนวนหนึ่ง ให้กับ ส.อ.พัฒนพร ต้นจันทร์ ช่างเครื่องสังกัดกองบินปีกหมุนที่ 2 ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุเฮลิคอบเตอร์ เบลล์ 212 ตกที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่ห้องไอซียู รพ.พระมงกฎเกล้า โดยนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวชม ส.อ.พัฒนพร เก่งมากจิตใจเข้มแข็ง อีกไม่นานก็คงจะหายและอยู่ในช่วงหนุ่มแน่น แต่ก็ขอให้หายไว้ ในขณะนี้ที่ ส.อ.พัฒนพร  กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ทางท่านมาเยี่ยมรู้สึกเป็นเกียรติต่อวงตระกูลหลังจากที่หายแล้วก็จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่ล่วงลับกลับเหตุการณ์ ที่ ฮ.ตก ในครั้งนี้ พร้อมกันนี้ ส.อ.พัฒนพร  ก็ได้โชว์สร้อยที่คล้องหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปัตนานี หลวงพ่อเดิม จ.นครสวรรค์  และหลวงพ่อดำ จ.ปัตตานี ให้ชม