
นายสามารถ ลอยฟ้าผู้ว่าราชการจังหวัดตาก
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก : พันเรื่องถิ่นแผ่นดินไทยโดยศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ และคณะ
นับเป็นโชคดีของชาวจังหวัดตากที่ได้ผู้ว่าราชการ ที่มีจิตวิญญาณของการเป็นนักพัฒนา อย่าง "ผู้ว่าฯ สามารถ ลอยฟ้า" ทั้งนี้ เพราะในเบื้องแรกของการเริ่มต้นชีวิตข้าราชการ เมื่อจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว ผู้ว่าฯ สมารถได้ไปเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ที่ อ.บ้านตาก เป็นแห่งแรก เมื่อปี พ.ศ.2521 และได้มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นลำดับ และได้เป็นปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง ที่ อ.สามเงา จ.ตาก ในปี พ.ศ.2534
รวมระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดตากเป็นเวลาถึง 14 ปี ขณะที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดตากนั้น ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ได้พบปะพูดจา บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะทุรกันดารเพียงใด ที่ใดที่ยังไม่เคยมีข้าราชการผู้ใดไปถึง "ผู้ว่าฯ สามารถ"
ก็จะพยายามไปในทุกๆ ที่ ตลอดจนเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องวัฒนธรรมชนเผ่า ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดตากได้เป็นอย่างดี
ต่อมาวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2535 "ผู้ว่าฯ สามารถ" ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งจาก "ปลัดอำเภอ" เป็น "นายอำเภอ" เป็นครั้งแรก ที่อำเภอซึ่งตั้งขึ้นใหม่ แยกมาจากอำเภอแจ้ห่มคือ อำเภอเมืองปาน จ.ลำปาง อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นระยะทางราว 70 กิโลเมตร เป็นอำเภอซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับการคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่มีความสวยงามเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย
ขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็น "นายอำเภอ" อยู่ที่ อำเภอเมืองปาน ซึ่งเป็นอำเภอแห่งใหม่ "ผู้ว่าฯ สามารถ" ได้รณรงค์ให้ประชาชนดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น ได้เป็นผู้คิดคำขวัญที่ว่า “อำเภอเมืองปาน แหล่งต้นน้ำลำธาร อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน บ่อน้ำร้อนลือนาม สามต้นสักใหญ่ ไหว้พระธาตุดอยซาง” ซึ่งเป็นคำขวัญที่อำเภอเมืองปานใช้อยู่ในทุกวันนี้
ด้วยความเป็นผู้ที่มีความสามารถสมชื่อ ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอในหลายพื้นที่ โดยได้รับรางวัล "นายอำเภอแหวนเพชร" ถึง 2 ครั้งด้วยกัน
หลังจากนั้นได้ไปดำรงตำแหน่ง "ปลัดจังหวัด" และ "รองผู้ว่าราชการจังหวัด" ตามลำดับ ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่ง "ผู้ว่าราชการจังหวัด" เป็นครั้งแรกที่จังหวัดตาก นับแต่ปี พ.ศ.2552 จนถึงปัจจุบัน "ผู้ว่าฯ สามารถ" ชื่นชอบบทกลอนบทหนึ่งของ "ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์" ที่ว่า “ถึงปูนดาวคู่ฟ้าเดือนปีใดก็ดี สักวันหนึ่งจักเป็นผีพุ่งไต้ อย่าดูถูกปฐพีที่เหยียบย่ำใดเลยนา ลางแห่งซ่อนเพชรไว้ ค่าล้ำเมื่อภายหลัง” บัดนี้เพชรเม็ดนั้น ได้ประดับเป็นหัวแหวนอยู่ที่จังหวัดตากแล้วละครับ
พรุ่งนี้ไปเที่ยว “วัดบุญวาทย์วรวิหาร” ที่ลำปางครับ