ธรรมะที่พึงรู้ | คมชัดลึก

โดยเฉพาะปีนี้ยิ่งเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมมากขึ้น เพื่อปลุกสติให้ตื่นจากภาพมายาทางการเมืองหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ไม่ให้หลงลำพองดีใจจนเกินขนาดยามเมื่อสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา หรือไม่เสียใจไม่เครียดเกินเหตุเมื่อผิดหวังกับผลการเลือกตั้งครั้งนี้

 นอกจากหลักธรรมเรื่องการมี "สติ" คอยกำกับอารมณ์และความคิดต่างๆ แล้ว ธรรมที่คนไทยในช่วงควันหลงหลังการเลือกตั้งควรจะได้รับฟังบ่อยๆ ก็คือ "สามัคคีธรรม" อันจะช่วยนำพาประเทศให้พ้นจากความขัดแย้งและกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง

 ในส่วนของนักการเมืองแล้ว ยิ่งไม่ควรพลาดโอกาสที่จะชำระจิตใจให้ผ่องแผ้ว รวมทั้งการพิจารณาให้เข้าถึงแก่นธรรมอันลึกซึ้งของศีล 5 โดยเฉพาะศีลข้อที่ 4 ว่าด้วยการไม่กล่าวเท็จ ไม่พูดโป้ปดหลอกลวง ทำให้คนเข้าใจผิดหรือพูดเพ้อเจ้อขายฝันเลื่อนเปื้อน อันเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมขณะนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วจะยิ่งเป็นตัวอย่างเลวร้ายให้เยาวชนของประเทศหลงเข้าใจผิดมากขึ้นว่าการผิดศีลข้อ 4 ว่าด้วยมุสาวาทานั้น ไม่เลวร้ายอะไรเหมือนกับที่เคยเห็นตัวอย่างผิดๆ มาแล้วว่า โกงบ้านโกงเมืองก็ไม่เป็นไร เพราะยังอยู่ดีมีสุขได้โดยไม่ถูกลงโทษ

 ขณะเดียวกัน พุทธศาสนิกชนทุกคนก็ควรจะใช้เวลาอันมีค่าในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาพิจารณาแก่นธรรมในกาลามสูตร อันเป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ ในแคว้นโกศล สอนไม่ให้หลงเชื่อสิ่งใดๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้รอบคอบก่อน ซึ่งมีอยู่ 10 ประการ อาทิ อย่าหลงเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา อย่าหลงเชื่อตามคำเล่าลือ อย่าหลงเชื่อโดยคาดคะเนเอา อย่าหลงเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล อย่าหลงเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน อย่าหลงเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้

 เราเชื่อว่า ถ้าหากพุทธศาสนิกชน รวมทั้งนักการเมือง ต่างได้ศึกษาธรรมะทั้ง 3 ข้อใหญ่นี้ นอกจากจะเกิด "สติ" รู้ซึ้งถึงการประโยชน์จากการช่วยกันฟื้นฟูความสงบสุขของบ้านเมืองแล้ว ยังเท่ากับช่วยดึงเยาวชนให้หันกลับมาเข้าหาศาสนาที่แท้จริง เชื่อในเรื่องของคุณธรรมความดีและบาปบุญคุณโทษ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสังคม อาทิ การทุจริตคดโกง การทำร้ายร่างกาย หรือการตั้งท้องไม่พึงประสงค์ และการทำแท้ง ลงได้มากในอนาคตข้างหน้า ในเมื่อสังคมพร้อมจะใช้ธรรมนำหน้า โดยเฉพาะ "สามัคคีธรรม" และกาลามสูตร