
มือปราบไซเบอร์...ล่า"คลิปหลุด-เว็บโป๊"
บ่อยครั้งที่ผู้คนในสังคมโลกออนไลน์มีโอกาสเห็น "ภาพหวิว-สยิวคลิป" ของบรรดาดาราดังและคนมีชื่อเสียง โผล่มาให้ชมว่อนเน็ตสร้างความฮือฮากันอยู่เนื่องๆ ล่าสุดเกิดขึ้นกับ "ม่ายสาวพราวเสน่ห์"
ถูกมือดีปล่อยภาพสุดสยิว จนเจ้าตัวเข้าร้องทุกข์ต่อ "มือปราบไซเบอร์" ให้ช่วยดำเนินคดีกับผู้ไม่หวังดีที่ปล่อยภาพมาสร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงของเธอ...พ.ต.อ.สมพร แดงดี ผกก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หนึ่งในทีม "มือปราบไซเบอร์" ผู้กุมคดีลักษณะนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 200 คดีต่อปี จะช่วยเหลือเธอและผู้ที่กำลังตกเป็นเหยื่ออย่างไร?
-กรณี "ภาพหลุด" ของนักร้องม่ายสาว สืบสวนยากไหม
คดีนี้เดิมผู้เสียหายเคยมาแจ้งเรื่องโทรศัพท์หาย แล้วข้อมูลบางส่วนถูกแฮ็ก (ขโมย) ไป ต่อมาไม่นานก็มาปรากฏภาพในอริยาบถต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมของเหยื่อ ถูกเผยแพร่ออกมา ผู้เสียหายจึงมอบหมายให้ผู้จัดการมาร้องทุกข์ดำเนินคดี และวันต่อมาเจ้าตัวก็มาให้การเบาะแสและข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสืบสวน ซึ่งการสืบสวนก็เหมือนกับคดีทั่วๆ ไป ต้องหาพยานและหลักฐาน ทั้งหลักฐานที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และหลักฐานที่ไม่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ จนพบว่ามีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวมาจากต่างประเทศ และจากการสืบสวนทราบยังพบว่า เหยื่อถูกข่มขู่ด้วย นอกจากจะผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทด้วย
-ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหา "ภาพหลุด-คลิปหลุด"
ที่ผ่านมา บก.ปอท.ทำคดีเกี่ยวกับภาพหลุดเยอะพอสมควร ซึ่ง "ภาพหลุด" เกิดจากถูกผู้ไม่หวังดีนำมาเผยแพร่ต่อนั้น มักเกิดจากคนใกล้ชิด หรือคนเคยรักกันมาก่อน บางครั้งก็มาจากร้านซ่อมมือถือ รวมทั้งการไปแอบถ่าย จากการสืบสวนผู้ที่เผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสมนั้น ส่วนใหญ่ยอมรับว่าทำไปเพื่อความสะใจ ต้องการจะทำลายชื่อเสียง เพื่อแก้แค้น บางกรณีก็มีการต่อรองเงื่อนไขก่อนมีการเผยแแพร่รูปก็มี และปัญหาลักษณะนี้ ไม่ได้มีเฉพาะวัยรุ่น วัยกลางคนก็เยอะ และผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ผู้ชายก็มีบ้าง แต่ไม่มาก
-การสืบสวนหาพยานทางอิเล็กทรอนิกส์ทำอย่างไร
เริ่มแรกต้องตรวจสอบสืบสวน ให้รู้ว่ามีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไหน และมีการเผยแพร่จากที่ใด ยกตัวอย่าง เมื่อได้รับเมลภาพที่ไม่เหมาะสมของผู้เสียหายส่งมาให้ จะมีการย้อนรอยกลับไปยังจุดเริ่มต้น ก็จะรู้ว่าใครเป็นคนทำ ทั้งนี้ การสืบทราบว่าใครเป็นคนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้น ต้องนำข้อมูลในหลายๆ ส่วนมาเชื่อมต่อกัน เพื่อวิเคราะห์และเชื่อมโยงด้วยหลักวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ นอกจากนี้ก็จะนำข้อเท็จจริงมาเชื่อมโยงและต่อกันเป็น "จิ๊กซอว์" เมื่อได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก็น่าจะระบุได้ว่าใครคือผู้กระทำผิด
-ถ้าผู้กระทำผิดอยู่ต่างประเทศ
ลักษณะนี้ เคยเจออยู่บ่อยๆ เราต้องประสานขอความร่วมมือไปยังประเทศนั้น เพื่อขอตรวจสอบว่าไอพีนั้นอยู่ที่บ้านไหน ใครเป็นผู้ใช้ และการที่จะได้รับความร่วมมือนั้น จะต้องมีการผ่านกระบวนการทางกฎหมาย เรียกว่า "พระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา" ซึ่งมีอัยการเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นผู้ประสานงานกลาง ซึ่งทำให้ยากกว่าปกติ เพราะไม่สามารถกำหนดเวลาได้จะนานแค่ไหน และแต่ละประเทศนั้นใช้เวลาที่ไม่เหมือนกัน บางประเทศก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ บางประเทศก็ให้ความร่วมมืออย่างดี
-กรณีผู้ที่เผยแพร่ภาพนั้นๆ ต่อ มีความผิดมากน้อยเพียงใด
การที่ฟอร์เวิร์ดหรือส่งต่อนั้น เข้าข่ายความผิดเรื่องการเผยแพร่ ถ้าภาพเหล่านั้นเป็นภาพเท็จ ภาพที่ตกแต่ง ข้อมูลเท็จ ข้อมูลปลอม หรือภาพลามก ผิดมาตรา 14(5) อย่างกรณีคลิปสีลม ก็มีการส่งต่อกันไปมา แม้จะประชาสัมพันธ์ไปแล้วว่าห้ามส่งต่อภาพที่ภาพไม่เหมาะสม แต่เขาไม่หยุด จนเราต้องไปยึดเซิร์ฟเวอร์ผู้บริการรายหนึ่ง สมัยนี้นอกจากการส่งทางอินเทอร์เน็ตแล้ว ก็ยังมีการส่งต่อทาง "บีบี" (Blackberry) ก็ยิ่งเพิ่มความลำบากในการทำงานเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โทรศัพท์เบอร์เติมเงิน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าคนที่ใช้ "บีบี" เพื่อติดต่อสื่อสารมากกว่าจะส่งต่อเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสม
-ข้อแนะนำไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคลิปหลุด
อย่าถ่ายรูปที่ไม่เหมาะสมเก็บไว้ และต้องขอความร่วมมือไปยังประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ต ถ้าพบการกระทำที่ไม่เหมาะสม พบภาพโป๊ลามกอนาจารต้องรีบแจ้งให้เจ้าพนักงานทราบ เพื่อให้ตำรวจเข้าไปจัดการได้อย่างทันท่วงที และขอฝากไปยังผู้ที่คิดจะทำผิดกฎหมาย อย่าได้คิดและหยิ่งทะนงตนคิดว่าตำรวจไล่ตามท่านไม่ทัน
-มองว่ากฎหมายคอมพิวเตอร์มีบทลงโทษเบาไปไหม คนที่ทำผิดเลยไม่ค่อยกลัว
ขณะนี้กำลังมีการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อยู่ ก็จะทำให้มีบทลงโทษสูงขึ้น และเอื้ออำนวยให้เจ้าหน้าที่พนักงานเข้าไปดำเนินการได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังครอบคลุมความผิดบางประเภท รวมถึงปรับให้ทันกับยุคสมัยภาวะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันด้วย
เมื่อ "ทำผิด" ก.ม.คอมพิวเตอร์
ฐานความผิด
โทษจำคุก โทษปรับ/บาท
-เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ ไม่เกิน 6 เดือน ไม่เกิน 10,000
-เปิดเผยมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะโดยไม่ชอบ ไม่เกิน 1 ปี ไม่เกิน 20,000
-เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ ไม่เกิน 2 ปี ไม่เกิน 40,000
-ดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ชอบ ไม่เกิน 3 ปี ไม่เกิน 60,000
-ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ ไม่เกิน 5 ปี ไม่เกิน 100,000
-ทำให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่เกิน 5 ปี ไม่เกิน 100,000
-ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยปกติสุข (Spam Mail) ไม่มี ไม่เกิน 100,000
-จำหน่ายชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ไม่เกิน 1 ปี ไม่เกิน 20,000
-การกระทำต่อความมั่นคง
ก่อความเสียหายแก่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ไม่เกิน 10 ปี ไม่เกิน 200,000
กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ/เศรษฐกิจ 3 -15 ปี 60,000-300,000
เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต 10 - 20 ปี ไม่มี
-ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำความผิดอื่น (การเผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม) ไม่เกิน 5 ปี 100,000
-ตกแต่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพของบุคคล ไม่เกิน 3 ปี ไม่เกิน 60,000