คุ้มเข้มด่านอรัญหวั่นสายลับเขมรเข้าไทย | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 มิ.ย. ขณะที่ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว,พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัสฐิต สวป.สภ.คลองลึก และ นายอวยชัย กุลทิพย์มนตรี นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ นำกำลังตั้งจุดตรวจค้น บริเวณจุดตรวจร่วมทางเข้าตลาดโรงเกลือ หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะหลังเกิดกรณีไทยลาออกจากการเป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก ทำให้สถานการณ์บริเวณชายแดนฝั่งประเทศกัมพูชาเกิดความตรึงเครียด เกรงกัมพูชาจะส่งสายลับทางทหารเข้ามาสอดแนมความเคลื่อนไหวของทหารไทยในพื้นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว อีกทั้งชาวเขมรที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ หวั่นวิตกกลัวเกิดสงครามอาจลุกลามจนทำให้ด่านพรมแดนอรัญประเทศ ถูกสั่งปิด ทำให้พ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชายังไม่กล้าสั่งสินค้าเข้ามาในตลาดโรงเกลือ

 จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบชาวเขมรกลุ่มใหญ่กว่า 100 คน เดินหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าและกระเป๋าสัมภาระ ข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย เมื่อถึงจุดตรวจร่วม จนท.จึงสอบถามทราบว่าเป็นแรงงานชาวเขมรจำนวน 102 คน เป็นชาย 63 คน และ หญิง 49 คน แจ้งว่าจะไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ จ.ชลบุรี ตามข้อตกลง MOU มีพาสปอร์ตประทับตราเข้ามาอย่างถูกต้อง จนท.จึงร่วมกันตรวจค้นเกรงจะมีการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ อีกทั้งเกรงว่าจะมีสายลับทางทหารของกัมพูชาแอบปะปนเข้ามากับแรงงานเหล่านี้ หลังจากตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายจึงได้ทำการถ่ายภาพทำประวัติไว้ ก่อนอนุญาตให้เดินทางต่อไปได้

 ต่อมา ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา ได้รับแจ้งจาก จนท.การข่าว ร้อย ทพ. 1206 กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา ว่าพบรถยนต์เก๋งต้องสงสัย ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีออส สีเทาเงิน ทะเบียน ญจ- 9267 กทม. และรถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน บฉ- 2104 หนองคาย ลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเขมรจำนวนหลายคนจากท้ายตลาดโรงเกลือ ขึ้นรถทั้ง 2 คัน และรถทั้ง 2 คันดังกล่าว ได้ขับออกจากตลาดโรงเกลือ อย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าจะเข้า อ.อรัญประเทศ ฯ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฯเกรงว่าจะมีการลักลอบนำสายลับกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย จึงแจ้งประสานไปยัง พ.ต.ต.วิชาญ จิตตยานันท์ สวป.สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทราบจากนั้น สวป.สภ.อรัญประเทศ ได้นำกำลังไปตั้งด่านฯตรวจค้นบนถนนสุวรรณศร หน้าโรงเรียนเทศบาลกิโลสอง ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และได้ตรวจพบรถยนต์ทั้ง 2 คัน วิ่งตามกันมาจึงเรียกให้หยุดพร้อมตรวจค้น

 จากการตรวจค้นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส คันดังกล่าว ภายในรถพบชาวเขมรจำนวน 8 คน ซุกซ่อนอยู่เป็นชาย 7 คน และ หญิง 1 คน ตรวจสอบไม่พบเอกสารการเดินทางอ้างจะไปทำงานที่ จ.ชลบุรี จึงควบคุมตัวนายจักรพันธ์ พรมเทศ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ม. 8 ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย คนขับรถไว้ ส่วนรถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ จนท.ตรวจพบหญิงชาวเขมร 3 คน ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ ไม่มีเอกสารการเดินทาง จึงควบคุมตัวนาย มุ้ย บัวทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 ม. 16 ต.รอนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ คนขับรถไว้แล้วตรวจสอบไม่พบว่าชาวเขมรทั้ง 11 คน ไม่น่าจะเป็นสายลับกัมพูชา จึงควบคุมตัวนายจักรพันธ์ฯและนายมุ้ย พร้อมชาวเขมรส่งพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีต่อไป

 ส่วนบรรยากาศในตลาดโรงเกลือ ฝั่งประเทศไทยและ ในตลาดปอยเปต ฝั่งประเทศกัมพูชา ยังคงมีพ่อค้า แม่ค้า และกรรมกรชาวเขมรจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กรณีไทยถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก และอาจก่อให้เกิดสงครามบริเวณชายแดน เกรงว่าจะกระทบต่อการค้าชายแดน และส่งผลทำให้เกิดการสั่งปิดพรมแดนไทย-กัมพูชา ได้ ดังนั้นช่วงนี้พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมร จึงยังไม่กล้าสั่งสินค้าล๊อตใหม่เข้ามาขายในตลาดโรงเกลือ โดยให้เหตุผลว่ารอดูสถานการณ์ช่วงนี้ไปก่อน

ด่านถาวรช่องสะงำสุดซบเซา

 เมื่อเวลา 08.30น.  ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  วันนี้เป็นวันตลาดนัดชายแดนไทยกัมพูชาทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์   ที่ผ่านมาในช่วงเหตุการณ์ปกติจะมีผู้ค้าชาวไทยจำนวนมาก นำสินค้าอุปโภคบริโภค มาขายแก่ชาวกัมพูชา  แต่วันนี้พบว่ามีผู้ค้าเพียง  10  ราย เท่านั้น  ที่มาเปิดทำการค้า ขณะที่ยอดการข้ามแดนของชาวกัมพูชา จากเดิมที่เดินทางเข้ามามากกว่า 400 คน / วัน ก็ลดลงมาเหลือเพียง 100  คน เท่านั้น 

 นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานการค้าการท่องเที่ยวนครธนครวัด ช่องสะงำ กล่าวว่า  ขณะนี้ผู้ค้าชาวไทย ไม่กล้านำสินค้ามาค้าขาย เพราะยังไม่ไว้วางใจกับสถานการณ์

ทหารเขมรเสริมกำลังประชิดชายแดนเต็มอัตรา

 เมื่อเวลา 13.05 น. แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวว่า ภายหลังจากที่ประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกทวิภาคีมรดกโลก กรณีข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ส่งผลพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ตั้งแต่จังหวัดจังหวัดตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ  กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เกิดความร้อนระอุทันที ประชาชนในพื้นที่ชายแดนต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด สร้างการเกิดความหวาดระแวง เหตุการณ์ปะทะระหว่างกองกำลังไทยกัมพูชา ซึ่งหากมีการปะทะกันจริงเหมือนที่ผ่านมา ประชาชนทั้งไทยกัมพูชาอยู่ในรัศมีการสู้รบได้รับความเดือดร้อนอย่างถ้วนทั่ว

 แหล่งข่าวกล่าวว่า ช่วงค่ำของวันที่ 27 มิ.ย.ทหารฝ่ายเขมรได้นำรถถังจากหน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่สะแรนอย จังหวัดอุดรมีชัย เคลื่อนกำลังมุ่งหน้าไปยังปราสาทเขาพระวิหาร จำนวน 6 คัน ผ่านอนุสาวรีย์สันติภาพ อำเภออัลลองเวง คาดขณะนี้หยุดพักพื้นที่อำเภอตระเปียงประสาท เพื่อสมทบกองกำลังที่เขาพระวิหาร 

 นอกจากนี้ยังมีรถบรรทุกพ่วงคลุมผ้าใบมิดชิด จำนวน 3 คันวิ่งผ่านพื้นที่เดียวกัน ในสภาพบรรทุกหนักอึ้ง คาดว่าเป็นกระสุนปืนนำไปสมทบที่ปราสาพระวิหาร รวมทั้งมีการนำรถบรรทุก 10 ล้อ 18 ล้อ รถยีเอ็มซี จำนวนประมาณ 45-50คัน มีทหารนั่งคันละประมาณ 30-40 นาย เติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ค่ายทหารสามแยกสระแอม อำเภอจอมกะสาน จังหวัดเขาพระวิหาร ส่งกำลังคนเข้าไปสมทบตลอดแนวชายแดนศรีสะเกษตั้งแต่อำเภอภูสิงห์ ขุนหาญ ตรงเขาพระพะลัย ฝั่งตรงข้ามอำเภอตระเปียงปราสาท จังหวัดอุดรมีชัย วางแนวยาวถึงโกมูย ตลอดถึงช่องโดนเอาว์ ตรงข้ามตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

 ทหารเขมรทั้งหมดประกอบด้วย กำลังทหารเก่า ทหารใหม่ ทหารอาสาและทหารปลดประจำการ จากกองพัน41เขาพระพะลัย จากกองพลที่ 7 กองพลที่8 กองพลที่ 7 กองพลที่9 กองพัน 82 ทหารหน่วยรบพิเศษ 911 และทหารช่วยราชการ เสริมกองทัพบนปราสาทเขาพระวิหาร บริเวณรอบปราสาท ตลอดบริเวณใกล้เคียง คาดมีทหารเขมรประจำแนวหน้าชายแดนไทยกัมพูชาอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 3,000 นาย

 แหล่งข่าวกล่าวว่า ทหารเขมรยังนำอาวุธหนักบีเอ็ม 21 ออกจากหน่วยที่ตั้งของเขมรที่กรมทหารในพื้นสระแอม ซึ่งเคยมีประจำไว้ในกรมกอง จำนวน6 คัน ไปสนับสนุนพื้นที่ด้านเขาพระวิหาร มีการนำอาวุธชนิดใหม่ที่เขมรสั่งมาเรียกว่า 85มาพร้อมใช้งานด้วย ส่วนนายทหารที่เข้าควบคุมครั้งนี้ นำโดยพันเอกเฮง บุญเฮียง เป็นผบ.คุมกองกำลังหน่วยรบพิเศษ 911 เขมร
 
ตร.ระยองรวบอดีตทหารชาวกัมพูชาซุกยาบ้าในขาเทียม

 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง นำตัวนายแก้ว จู อายุ 44 ปี อดีตทหารชาวกัมพูชาส่งดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

 ทั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง จับกุมนายแก้ว ได้ขณะนำยาบ้า ซึ่งซุกซ่อนมาในขาเทียมส่งให้สายตำรวจฯ บริเวณใต้สะพานลอย หน้าห้างแหลมทองระยอง เมื่อช่วงเช้าวันนี้(27 มิ.ย.54) เวลา 08.30 น.

 สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า อดีตเคยเป็นทหารถูกกับระเบิดจนขาขาด ทุกครั้งจะให้เมียเป็นคนนำยาบ้ามาส่ง ครั้งนี้เมียเกิดไม่สบาย ตนเองจึงจำเป็นต้องมาส่งเอง โดยซุกซ่อนมาในขาเทียมข้างซ้าย ขึ้นรถมาจากชายแดนฝั่งปอยเปต จ.สระแก้ว มาส่งให้เอเย่นที่ระยอง โดยได้รับจ้างขนเพียงครั้งละ 10,000 บาทเท่านั้น