
สรุปคดี'หมอมุก'จันทร์นี้-แม่เผยบีบมือแน่น
พนักงานสอบสวน คาด สามารถสรุปสำนวนคดี 'หมอมุก' จันทร์นี้ หลังได้หลักฐานทั้งหมด แม่ 'หมอมุก' เผย บีบมือแน่น อยากสื่ออะไรบางอย่าง
กรณีคดี พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก ถูกรถเก๋งนิสสันซันนี่ หมายเลขทะเบียน วค.1355 กทม.พุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอาหารสามเสนวิลล่า โดยหลังเกิดเหตุ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น หรือเสธหม่อง นายทหารสังกัด สำนักงานปลัดบัญชีทหาร เข้ามอบตัว ซึ่งเบื้องต้น ได้อ้างว่า เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว และยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ชุดพนักงานสอบสวน ยังไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ในระหว่างการสอบสวนรวบรวมข้อเท็จจริงก่อนสรุปสำนวนนั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 มิ.ย.) พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รองผกก.สส.สน.พญาไท เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ทั้งจากการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และรอผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์จากกองพิศูจน์หลักฐาน รวมทั้งติดต่อนัดหมายบุตรสาวและเพื่อนบุตรสาว ของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มาทำการสอบปากคำและทำการเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ
ทั้งนี้ ได้รับการติดต่อกลับมาว่า จะเข้ามาให้ปากคำภายในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน ส่วนผลการตรวจรถคันที่อยู่ในเหตุการณ์รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด จากกองพิสูจนฺ์หลักฐาน(พฐ.) ทราบว่า ในวันจันทร์ที่ 27 มิ.ย.นี้ ทาง พฐ. จะส่งผลการตรวจมาที่พนักงานสอบสวน
"คาดว่า ในวันดังกล่าว น่าจะมีการประชุมชุดพนักงานสอบสวน เพื่อทำการสรุปสำนวนจากพยานหลักฐานที่ได้ทั้งหมด" พ.ต.ท.โชติ กล่าว
ช่วงเช้ามีประชาชนเดินทางมาลงชื่อในสมุดเยี่ยมไข้ เพื่อให้กำลังใจ พต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก อย่างต่อเนื่อง พญ.พรรณกร มารดาหมอมุก เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพความคืบหน้าอาการของลูกสาวภายในห้องไอซียู ซึ่งมีอาการที่ดีขึ้นอย่างมาก หมอมุกสามารถใช้มือซ้ายบีบ
มือผู้เป็นแม่ได้อย่างหนักแน่นขึ้น
พญ.พรรณกร กล่าวว่า ขอขอบพระคุณสื่อมวลชนและประชาชนที่ได้ให้ความสนใจข่าวหมอมุก แม่เองก็เพิ่งมีโอกาสได้ติดตามข่าวทางโทรทัศน์เมื่อคืนนี้ รู้สึกดีใจที่ทุกฝ่ายให้ความเมตตาเห็นมีแต่ข่าวตนกับหมอมุก รวมถึงยิ่งทราบว่าวัดต่างๆ ได้สวดภาวนาให้หมอมุกด้วย ตนจึงเชื่อว่าน่าจะมีส่วนทำให้อาการของหมอมุกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็ขอกราบวิงวอนให้ช่วยกันสวดต่อไปอย่าเพิ่งหยุด ตอนนี้หมอมุกดีขึ้นมากแล้วจริงๆ พอแม่บอกว่านักข่าวมาเยี่ยมก็น้ำตาไหลพรากบีบมือแม่แน่นคล้ายอยากสื่ออะไรออกมาบางอย่าง หมอมุกรู้สึกตัวรับรู้เรื่องราวได้ดีกว่าเก่ามาก ติดแค่ว่าเจ้าตัวยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ชีวิตประจำวันของคุณแม่เปลี่ยนไปมากหรือไม่ พญ.พรรณกร ตอบว่า เมื่อก่อนตนมีงานทำทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์กับวันอาทิตย์แต่ถึงแม้ตัวเองจะยังทำงานก็ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ บ่อยครั้งที่เผลอหลับไปพร้อมกับเสียงเทปธรรมะ กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้ต้องตื่นแต่เช้านั่งรถเมล์มาเยี่ยมลูกทุกวันเพราะตัวเองขับรถไม่เป็น เวลานอนก็น้อยลงเฉลี่ยประมาณวันละไม่เกิน 5 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนเสื้อผ้าที่เห็นว่าใส่ซ้ำ ๆ สลับกันไปมาก็เพราะต้องเลือกเอาชุดที่สวมใส่ง่ายไม่ต้องรีดเพื่อจะได้มีเวลามาดูแลหมอมุกให้มากที่สุด
ถามว่ายังหนักใจประเด็นอยู่หรือไม่ พญ.พรรณกร ตอบว่า ตนยังยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมจะต้องนำตัวคนผิดมาลงโทษได้แต่ห่วงใยอาการของลูกสาวมากกว่า อย่างเมื่อวานสังเกตุเห็นว่าหมอมุกสามารถกรอกตาไปทางซ้ายได้ทางเดียวและร่างกายซีกขวาเหมือนอ่อนแรง แต่วันนี้ก็เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว
เพื่อน-ญาติ 'หมอมุก' ทยอยเข้าเยี่ยม ให้กำลังใจ
วันเดียวกัน ร.อ.หญิง ดุษฎี เล็บขาว และ ร.ท.หญิง อิสรีย์ กีรติปรีชานนท์ เพื่อนร่วมงานที่ รพ.สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จ.ร้อยเอ็ด ได้พากันเดินทางมาเยี่ยมอาการหมอมุก ถึงในกรุงเทพฯ และเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เมื่อก่อนหมอมุก เคยทำงานอยู่ที่เดียวกันโดยทำหน้าที่ด้านเวชปฏิบัติและการฝังเข็ม ที่ผ่านมาหมอมุก เป็นคนดีมีอัธยาศัยไมตรีและมีจิตอาสา ไม่ใช่เฉพาะเพื่อนร่วมงานเท่านั้นที่เป็นห่วง แต่คนไข้ที่ร้อยเอ็ด ยังฝากความห่วงใยผ่านเธอทั้งสองคน มาให้หมอมุกด้วย และเท่าที่ดูอาการของหมอมุกวันนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ทางการแพทย์ถือว่า หมอมุกมีอาการดีขึ้นจริงๆ
ขณะเดียวกัน นายพีระศักดิ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ข้าราชบริพารของสำนักพระราชวัง ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมหมอมุก เป็นการส่วนตัว โดยได้ลงชื่อในสมุดเยี่ยม ก่อนเข้าสอบถามอาการความคืบหน้าจาก พญ.พรรณกร ผู้เป็นมารดา แล้วรีบเดินทางกลับ
ด้าน พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท และ ร.ต.ท.สุดประเสริฐ หลัดกอง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เดินทางมาเพื่อเข้าเยี่ยมอาการของหมอมุก โดยใช้เวลาพูดคุยกับ พญ.พรรณกร ผู้เป็นมารดา นานประมาณ 10 นาที ก่อนเชิญตัว นายกอสล้าง วรรณรสพากย์ ลูกพี่ลูกน้องของหมอมุก และทนายความไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวในห้องรับรอง นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับ
พ.ต.ท.โชติ เปิดเผยสั้น ๆ ว่า วันนี้มาเยี่ยมอาการของหมอมุกเท่านั้น ไม่ได้มาสอบปากคำหรือพูดคุยกับญาติเกี่ยวกับเรื่องคดีแต่อย่างใด
ด้าน นายกอสล้าง บอกว่า วันนี้ วัตถุประสงค์หลักของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคือ เดินทางมาเยี่ยมอาการของหมอมุก แต่ก็ได้เชิญเขาไปพูดคุย เกี่ยวกับความคืบหน้าทางคดี เพื่อชี้แจงว่า รูปคดีไปถึงจุดไหนแล้ว ซึ่ง พ.ต.ท.โชติ ได้ให้ความมั่นใจกับทางญาติว่า คดีนี้จะไม่มีแพะ โดยบอกว่า ตำรวจรู้อะไร ๆ พอสมควรแล้ว
เผย ข้อมูลตำรวจครบ รอสรุปคดี
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ตำรวจมีพอที่จะระบุได้แล้วว่า มีใครเกี่ยวข้องกับคดีนี้บ้าง แต่กำลังรอผลการเรียบเรียงพยานหลักฐาน และผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ จากกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อความชัดเจน
"ในส่วนของผู้เสียหาย พ.ต.ท.โชติ บอกว่า จะมีการเรียกไปสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ผมแจ้งไปแล้วว่า ขอให้ผ่านพ้นช่วงวุ่นวายนี้ไปก่อน เนื่องจาก พญ.พรรณกร ก็ยังต้องดูแลหมอมุก อาจจะขอนัดหมายกันอีกครั้งในช่วงเวลาถัดไป ตอนนี้ ผมเชื่อในคำสัญญา ที่ทางตำรวจได้ให้กับญาติ ๆ ว่า จะดำเนินการคดีนี้ให้ยุติธรรม เพราะฉะนั้น ญาติ ๆ ก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย หรือไปกำหนดระยะเวลา เพื่อกดดันการทำงานของตำรวจ"
นายกอสล้าง กล่าวว่า ได้ถาม พ.ต.ท.โชติ กลับไปว่า ทำคดีนี้ มีสิ่งใดกดดันหรือไม่ พ.ต.ท.โชติ ตอบว่า ความกดดันของตำรวจตอนนี้คือ ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง นั่นคือความตั้งใจที่อยากจะจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
เขายังบอกอีกว่า ในช่วงเย็นวันนี้ ศิษย์เก่าโรงเรียนจิตรดา รุ่น 24 รุ่นเดียวกับหมอมุก จะมีการนัดเลี้ยงรุ่นขึ้นเป็นกรณีพิเศษโดยคาดว่า จะมีการพูดคุยกันเรื่องความช่วยเหลือหมอมุกและครอบครัวต่อจากนี้ไป ซึ่งที่ผ่านมาประธานรุ่น ก็ได้นำซองบรรจุเงินสดจำนวนหนึ่ง ที่เรี่ยไรจากเพื่อน ๆ มาให้หมอมุก จบอธิษฐานก่อนจะนำเงินดังกล่าวไปไถ่ชีวิตโคกระบือ จำนวน 5 ตัว ที่โรงฆ่าสัตว์ ย่าน จ.ปทุมธานี ต่อไป
แม่ เชื่อ กระบวนการยุติธรรม มั่นใจ ไม่มีอะไรน่าหนักใจ
พญ.พรรณกร กล่าวภายหลังจากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทางตำรวจมีความห่วงใย อาการของหมอมุก จึงเดินทางมาเยี่ยม พอเห็นอาการ พ.ต.ท.โชติ ก็บอกว่า ดีขึ้นมากจากที่ใบหน้าเคยบวมหนักก็ยุบลงแล้ว ส่วนเรื่องคดี เธอยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับตำรวจ ตอนนี้ มีแต่ความปรารถนาดีที่ทางตำรวจ ได้ยื่นข้อเสนอเรื่องจะจัดหารถรับ-ส่ง มาให้ แต่ได้ปฏิเสธไป เพราะยังช่วยเหลือตัวเองได้อยู่
"ส่วนตัวแล้ว เชื่อว่า คดีนี้จะต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน เพราะเป็นคดีที่น่าสะเทือนขวัญ กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ เพราะฉะนั้น จึงไม่จำเป็นต้องหนักใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องทางคดี"
แพทย์ ระบุ อาการ 'หมอมุก' ดีขึ้นมาก อาจถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ภายใน 1-2 วัน
วันเดียวกัน พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า แถลงความคืบหน้าอาการของหมอมุก ว่า วันนี้อาการดีขึ้นมาก เรื่องการหายใจคิดว่า จะเอาเครื่องช่วงหายใจออกได้ภายใน 1-2 วัน แต่ปัญหาที่ยังมีอยู่คือ เรื่องภาวะไข้ที่ยังขึ้นลงตลอด และจากการตรวจสอบผลเลือด พบว่า มีปัญหาตับอ่อนอักเสบในช่องท้อง จากการถูกกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ ทำให้มีเอ็นไซม์ในตับอ่อนรั่วไหลออกมาอยู่ที่ช่องท้องจำนวนมาก เวลานี้ จึงได้มีไข้อยู่ตลอดเวลาแบบหาสาเหตุไม่ได้
"แต่ปัญหาดังกล่าว ก็ไม่ได้รุนแรงแต่อย่างใด และต้องระวังเรื่องอาการติดเชื้อ โดยให้ยาปฏิชีวนะต่อไป ส่วนอาการทางสมอง ก็ยังไม่น่าเป็นห่วง หมอมุก สามารถลืมตาตามเสียง หยิบจับสิ่งของได้ ถือว่า เป็นไปในทิศทางที่ดี เมื่อช่วงเช้านี้ นำหมอมุก ไปตรวจเช็คสมองทางคอมพิวเตอร์ พบว่า อาการบวมลดลงชัดเจน ความดันในสมองก็เกือบปกติแล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนำเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว จะสามารถนำตัวหมอมุก ออกจากห้องไอซียู ได้เลยหรือไม่ พอ.นพ.พีระพล ตอบว่า ยัง ต้องดูภาวะอื่น ๆ อีก โดยเฉพาะปัญหาตับอ่อนอักเสบ ที่ตอนนี้ยังพบอยู่เล็กน้อยและต้องดูว่า จะลุกลามขึ้นหรือไม่ ซึ่งต่อจากนี้ จะต้องให้น้ำและเกลือแร่ให้เพียงพอ เพราะจะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูอาการ หากตับอ่อนลดการอักเสบ ไข้ก็จะลด รอให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้นทุกอาการ ก็จะพิจารณาในการนำตัวหมอมุก ออกจากไอซียูไปพักฟื้นที่อื่นต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท และ ร.ต.ท.สุดประเสริฐ หลัดกอง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เดินทางมาเยี่ยมและพูดคุยกับญาติของหมอมุกแล้ว ก็ได้เดินทางย้อนกลับไปยังที่เกิดเหตุบริเวณร้านอาหารสามเสนวิลล่าอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยให้ทราบถึงการเดินทางย้อนไปแต่อย่างใด
นางเอก 'ผู้หญิง 5 บาป ภาค 2' เข้าเยี่ยม จุดธูป-ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์
บ่ายวันเดียวกัน พญ.พรรณกร พร้อมญาติ ๆ และบุคคลใกล้ชิด ซึ่ง 1 ในนั้นคือ น.ส.กนกลดา วิชากุล หรือน้องเพียช อายุ 24 ปี นางเอกภาพยนตร์เรื่อง 'ผู้หญิง 5 บาป ภาค 2' ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้อง ที่เคยเดินสายทำบุญด้วยกัน ได้พากันเดินเท้าจากห้องไอซียู ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของ รพ.พระมงกุฎเกล้า ประกอบด้วย พระมหานาคชินะวร วรานุสรณ์มงกุฎราช และศาลท่านเท้าหิรัญพนาสูร โดยทุกคนได้ทำการจุดธูป คนละจำนวน 18 ดอก ปักกลางแจ้งอธิษฐาน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลหมอมุก หายป่วยเร็วๆ
จากนั้น พลทหารมังกรทอง ลิ้มประเสริฐกุล อดีตทหารเกณฑ์สังกัด ร.7 พัน 1 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ ชุดคุ้มครองครูใต้ ซึ่งถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และสุดท้ายกลายเป็นผู้พิการต้องนำสลากกินแบ่งรัฐบาล มานั่งขายเลี้ยงชีพใน รพ.พระมงกุฎเกล้า ได้เดินทางมาเยี่ยมหมอมุกที่ห้องไอซียู พร้อมนำดอกกุหลาบสีชมพูมามอบผ่าน นายกอสล้าง ลูกพี่ลูกน้องไปให้หมอมุก
นายนพรัตน์ ลิ้มประเสริฐกุล บิดาของ พลทหารมังกรทอง เปิดเผยว่า ลูกชายเห็นข่าวหมอมุก จากสื่อฯ ทราบว่า หมอมุก เคยทำงานในพื้นที่ภาคใต้เช่นกัน จึงรบเร้าให้พาไปซื้อดอกกุหลาบที่ร้านค้า ใน รพ.พระมงกุฎฯ แล้วให้พาขึ้นมาเยี่ยมหมอมุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับ พลทหารมังกรทอง ยังได้นั่งมองภาพหมอมุก พร้อมเขียนข้อความในสมุดเยี่ยม อันมีใจความว่า “ขอให้คุณหมอหายไวๆ นะครับ” ลงชื่อ น้องมังกรทอง (แชมป์) เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก



