ข่าว

ใครว่า..."ผมอยากดัง"ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ

ใครว่า..."ผมอยากดัง"ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ

25 มิ.ย. 2554

ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวตามหน้าสื่อ ไม่ว่าภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหว หลายคนจับจ้องด้วยความรู้สึกมากมาย ใช่เพียงเพราะแสงวาววับของเพชรเม็ดเป้งที่ต้องตาจนต้องกะพริบถี่

 หากตัวเขาเองที่ดึดดูดความสนใจได้ไม่น้อยไปกว่าราคาค่างวดเรือนล้านของคอลเลกชั่นแล้วคอลเลกชั่นเล่าที่ขยันขนออกมาอวด นั่นเองพอจะพูดได้เต็มปากว่า ชั่วโมงนี้ใครไม่รู้จัก ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ หรือที่คุ้นกันดีกับฉายาสนั่นเมืองว่า "เจ้าแม่เพชร" ก็คงจะดูเชยเต็มที !!

 คนดังเข้าขั้นไฮโซอย่างชูชัยที่ว่ากันว่ารวยเว่อร์ กับร้านเพชรพันล้าน "เจม พีส บาย ชูชัย" 10 สาขา พร้อมบ้านหลังใหญ่ภายในรั้วรอบขอบชิดบนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ย่านเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จำเป็นด้วยหรือกับการแคร์สายตาชาวบ้าน โดยเฉพาะกับข่าวฉาวที่เขา (ถูกจับให้) พัวพันหนุ่มๆ ในวงการ "ชูชัยกินเด็ก" แต่ยิ่งปฏิเสธก็เหมือนขว้างงูไม่พ้นคอ กระแสข่าวเลยเถิดจนบางครั้งเจ้าตัวเองถึงกับยอมรับว่า "วางตัวลำบาก"

 ชั่วโมงนี้ของเจ้าแม่เพชรมาดนิ่งเป็นอย่างไร "คม ชัด ลึก" บุกไปถึงบ้านเพื่อเปิดอกล้วงลับให้ถึงความรู้สึกเบื้องลึกที่หลายคนอาจไม่เคยรู้...

วางตัวอย่างไรท่ามกลางกระแสข่าวฉาว

 เราก็อย่ามองว่าไม่ดี เพราะการที่เป็นข่าว ความจริงคือก็ความจริงไม่เห็นต้องปิดบัง การที่เราอยู่จุดนี้ นักธุรกิจกับดาราถ้ามีชื่อเสียงทั้งคู่ก็มักจะถูกจับมาประเด็นกัน แรกๆ ที่เห็นข่าวก็ตกใจ สงสารน้อง เกรงใจน้อง เรารักกันแบบพี่น้อง มันไม่มีอะไร บ่อยเข้าก็ชินไปเอง เราเข้าใจสัจธรรมมนุษย์ คนเรามีลาภ ยศ สรรเสริญ แล้วก็มีเสื่อมได้ทุกเมื่อ แต่ภาพพี่คือไม่เคยเบียดเบียนใคร ไม่เป็นคนเจ้าชู้ไก่แจ้ ทำให้ตัวเองดัง แต่คนที่เป็นข่าวด้วยเสียหาย อันนั้นพี่ถือว่าผิดศีลธรรม ไม่ทำเด็ดขาด
แล้วกับพระเอกกำลังฮอต "โป๊ป" ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ คนล่าสุดล่ะ
 
 ไม่ว่าจะเป็นโฬม (พัชฏะ นามปาน ), แชมป์ (พีรพล เอื้ออารียกูล), อาร์ต (พศุตม์ บานแย้ม) หรือโป๊ป พี่ก็บอกตามตรงว่าไม่มีอะไร...คือวันนั้นเชิญพี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธุ์) มาทานข้าว พอดีน้องโป๊ปก็เป็นลูกทีมพี่เขา ก่อนดูดอกส้มสีทองก็ปลื้มน้องอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน เออเด็กคนนี้หน้าตาดีนะ ก็เลยพูดเปรยๆ ว่าถ้าได้มาในงานวันบริจาคเลือดวันเกิดเรา (11 พ.ค.) ก็น่าจะดีนะ แต่ก็ลืมไปแล้ว จนถึงใกล้ๆ วัน ทีมงานบอกว่ามีน้องไอซ์ อภิษฎา และน้องโป๊ปจะมา ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าโป๊ปคือใคร แต่ก็ลุ้นอยู่ในใจว่าจะใช่คนเดียวกันหรือเปล่า

 พอถึงวันงาน เลขาฯ เห็นพี่หน่องมาแล้วก็เห็นน้องโป๊ปตามมา ก็ได้พูดคุยกัน พี่ปลื้มเธอมากนะ ในโลกนี้อยากได้ผู้ชายแบบนี้ เป็นคนดีจังในละคร สั่งสอนเรยาได้เจ็บมาก เชื่อว่าตอนนี้ผู้หญิงทุกคนอยากเป็นเรยา ไม่ใช่เพราะอยากเลียนแบบเป็นคนเลวนะ แต่อิจฉาที่ได้ใกล้ชิดโป๊ป งานเลี้ยงตอนเย็นก็เลยชวนพี่หน่องมาร่วมงานที่บ้าน แล้วถ้าโป๊ปว่างๆ ก็เชิญด้วยนะ พอข่าวออกมากลายเป็นว่าเราพาน้องเข้าบ้านสองต่อสอง แล้วก็เพิ่งรู้ว่าในอินเทอร์เน็ตมีคนรักน้องโป๊ปเยอะมาก พอเป็นข่าวกับพี่ ก็มีคนมาโพสต์สาดเสียเทเสีย แสดงว่าปลื้มโป๊ปมาก เราเองก็ปลื้ม...

การเป็นนักธุรกิจอย่างชูชัย ต้องทำให้ตัวเองดังมั้ย!

 ถ้าเราสามารถทำธุรกิจโดยที่ค่าใช้จ่ายในการทำพีอาร์น้อยที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องดีนะ บางคนออกรายการทีวีหรือเอาสินค้าไปลงโฆษณา ปีหนึ่งเสียเป็นร้อยล้าน แต่ธุรกิจเราไม่ได้แมสขนาดนั้น บังเอิญว่าโชคดีที่ไม่ได้ประกาศตัวเอง ไม่ได้โฆษณาตัวเอง แต่มีคนให้ความสนใจอยากรู้จักเรา ก็ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั่วประเทศรู้จักเรา ตัวเราเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ลูกค้ารู้ว่าข่าวก็คือข่าวไม่ใช่ตัวตนจริงๆ เพราะเป็นคนทำมาหากิน

ทุกครั้งที่เปิดตัว มีอะไรเว่อร์ๆ โก้เก๋ตลอด

 ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอีเว้นท์ พี่ทำอะไรแล้วพยายามทำให้ดีที่สุด แล้วการที่เราทำอีเว้นท์เป็นที่ฮือฮา มันก็จะเป็นการประหยัดงบ พูดง่ายๆ ถ้าเราทำสิบครั้งแล้วได้เกิดกับทำหนึ่งครั้งแล้วได้เกิด พี่เซฟคอร์สไปแล้วเก้าครั้ง แต่บางคนบอกว่าทำไมเธอต้องฮือฮา เขามองคนละแง่กัน ถ้าเราทำห้าครั้งให้เกิดทั้งห้าครั้ง มันก็ยิ่งพุ่ง แล้วทำให้คนจดจำได้ง่ายกว่า ดังนั้นเวลาพี่จะจัดอีเว้นท์ใดๆ ก็จะคำนึงถึงว่าจะทำยังไงให้เป็นที่สนใจและคนรู้จักแบรนด์เร็วที่สุด สำคัญมาก

เพชรราคาแพงๆ มีกลยุทธ์การรักษาลูกค้ายังไง

 ตอนเปิดสาขาแรกที่เอ็มโพเรี่ยม เราก็ยังหิ้วเพชรไปหาลูกค้า เพราะบางคนไม่ชอบมาเดินห้าง ลูกค้าปลื้มนะ แล้วบางคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าเราลืม พอโทรไปก็จำได้ว่าเราเคยเป็นเด็กตัวขาวๆ ไปขายเพชร บางคนอายุ 60 ปี ตอนนี้ 80 แล้ว อิ่มแล้ว เราก็จะมองว่าครบ 10 สาขา กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เราได้รับการอุปการคุณมาก วันนี้เราพร้อมแล้วจึงจัดอีเว้นท์พิเศษเชิญลูกค้าวีไอพีมาที่บ้านรอบละ 10 คนเท่านั้น บางคนมาดูไว้ก่อนหรือซื้อเลย ลูกค้าปลื้ม ที่ประทับใจสุดคือตอนพาเดินชมบ้าน เขาบอกเลยว่าบ้านเธอคุ้มจริงๆ ฉันชอบมากเลย แต่เราค่อนข้างเหนื่อย

เริ่มออกสังคมเมื่อไหร่

 ตอนที่ตัดสินใจออกสังคมใหม่ๆ ก็เพื่อไปสร้างแบรนด์ บอกตรงๆ เหนื่อยมาก แต่มันสำคัญกับโลกธุรกิจทุกวันนี้ ถ้ามันติดตลาดขึ้นมาก็จะทำให้เราทำธุรกิจง่ายขึ้น พี่บอกกับตัวเองว่าขอออกงานสังคมหนึ่งปีนะ ถ้าออกไปแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นก็จะหยุด เพราะปกติร้านขายดีอยู่แล้ว และถ้าลูกค้ารู้จักแบรนด์ของเราก่อนที่เราจะดังได้ก็ยิ่งภาคภูมิใจ เขาก็จะยิ่งภักดีกับแบรนด์ของเราเข้าไปอีก บุคลิกพี่จริงๆ จะเน้นแต่เรื่องงาน ส่วนเรื่องสังคมบอกตรงๆ ว่าไม่ชอบ ไม่กล้า แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงด้วย ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะชีวิตพี่ ตั้งแต่อายุ 13-14 ก็จะมีแต่เรื่องค้าขายตลอด แต่พอ ณ จุดหนึ่งมันถึงเวลาแล้ว

ทราบมาว่าชอบช่วยเหลือสังคม

 ตั้งแต่แม่เสียไป เวลามีงานการกุศลใดๆ พี่ต้องไปมอบสิ่งของทุกครั้ง โดยเฉพาะวันเกิดพี่จะบอกตัวเองว่าวันนี้เป็น "วันผู้ให้กำเนิด" ไม่ใช่มัวแต่ไปเลี้ยงคนอื่น คิดว่าคืนนี้จะไปเสพสุขกับใคร ถามว่าทำแบบนั้นผิดไหมไม่ผิด แต่พี่จะคิดถึงบุพการีเราก่อน เหมือนเป็นการปลูกจิตสำนึก อยากให้เด็กรุ่นหลังรู้ว่าเราให้อะไรแก่คนที่ทำให้เราเกิดหรือยัง ไปกอดไปคุยกับท่านหรือยัง เพราะวันนั้นเป็นวันที่ท่านเจ็บปวดที่สุด

วันนี้...ชูชัยรวยหรือยัง

 ยังไม่รวย คำว่ารวยส่วนตัวไม่อยากตีเป็นเม็ดเงิน ทุกคนเกิดมาเหมือนกันหมด อยากมีเงิน มีบ้าน มีรถ ที่พูดมาอันนี้เรียกว่าลาภ คือปัจจัยสี่ มีใครบ้างอยากให้ตัวเองลำบาก บังเอิญพี่มาถึงในจุดที่ค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว ก็มาคิดต่อว่าเราทำเพื่ออะไร อยู่เพื่ออะไร จึงอยากไปปฏิบัติธรรม ได้เรียนรู้ว่าจริงๆ เงินคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตไหม ปรากฏว่าไม่ใช่ ไม่มีความสุขอื่นใดเท่ากับใจที่สงบ เมื่อไหร่ที่เราคิดว่ามันเป็นของฉัน ก็จะเป็นทาสมันทันที

แล้วพอหรือยังกับการไขว่คว้า 

 คนรู้ว่าพี่มีหลานคนหนึ่ง แต่จริงๆ มีพี่น้อง 20 คน ทุกคนมีชีวิตของตัวเอง หลานคนหนึ่งไม่ประสบความสำเร็จ จนวันหนึ่งจนตรอกก็ต้องมาขอความช่วยเหลือ พี่เลยมองว่าเมื่อเรารับผิดชอบเยอะ ก็อยากทำอะไรที่เป็นองค์กร เพราะทุกวันนี้เงินส่วนใหญ่อยู่ที่เพชร จึงต้องสร้างทรัพย์สินถาวรไว้บ้าง เผื่อวันหนึ่งพี่ไม่อยู่องค์กรนี้ก็ต้องอยู่ได้ เพราะพี่ไม่มีครอบครัว แต่ก่อนถึงวันนั้นพี่ต้องดูแลเขาก่อนให้รักองค์กร จะเห็นว่าพักหนึ่งพี่เที่ยวหาซื้อที่ทาง แล้วกำลังสร้างโรงแรมเล็กๆ "ชูชัยบุรี" ที่อัมพวา ตรงนั้นไม่ได้เน้นธุรกิจมาก แต่เป็นการอยู่ร่วมกับชุมชนที่นั่น ให้เขามีงาน สร้างท่าเรือยกให้ชุมชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่...นั่นคือสิ่งท้าทาย

 วันนี้ของชูชัยในวัย 49 ปี กับการครอบครองธุรกิจและทรัพย์สินร่วมพันล้านดูเหมือนจะกำลังให้ดอกผลงอกเงยเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ใจปรารถนา เขาจึงค่อยๆ ปลุกปั้นพี่น้องให้สามารถมารับช่วงต่อยามใดที่เขาลาโลกไปแล้ว พร้อมๆ กับย้ำความตั้งใจต้องแบ่งปันช่วยเหลือสังคมด้วย เพราะเจ้าตัวบอก "ตายไปบาทหนึ่งก็เอาไปไม่ได้ สิ่งเดียวที่เอาไปได้คือคุณงามความดี"