ออสฯห่วงต่างชาติฮุบที่ทำเกษตรเผยบริษัทอาหรับ-จีนแข่งกว้านซื้อ

      หนังสือพิมพ์ ดิ เอจ ในออสเตรเลียฉบับวันอาทิตย์ (19 มิ.ย.) รายงานว่า สมาชิกรัฐสภาทั้งจากพรรคกรีน และอิสระ ได้ร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาล เพิ่มความเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายการลงทุนของต่างชาติ ซึ่งกำหนดไว้ว่าการถือครองสินทรัพย์มูลค่าเกิน 5.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 160 ล้านบาท) จะต้องขออนุญาตก่อน แต่บริษัท ฮัสซาด ฟู้ด มีสำนักงานในกาตาร์ กลับเข้าไปซื้อทุ่งเลี้ยงแกะ 53,125 ไร่ มูลค่า 37.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,116 บาท) ในภูมิภาคอารารัต ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรอันอุดมสมบูรณ์ ของรัฐวิกตอเรียได้  

        นายแอนเดรีย มาเรียน นายกเทศมนตรีอารารัตเผยว่า เกษตรกรในพื้นที่ 5 คนได้แอบขายที่แก่บริษัทต่างชาติอย่างเงียบๆ ได้ราคาสูงกว่าราคาตลาด 20% พร้อมระบุว่า "การกว้านซื้อที่ดินในลักษณะนี้ เกิดขึ้นเร็วมาก ผืนแล้วผืนเล่า เมื่อรู้ตัวอีกทีอาจพบว่าครึ่งหนึ่งของเมืองไม่ได้เป็นของเราอีกต่อไป"

         หนังสือพิมพ์ ดิ เอจ ระบุว่า บริษัทฮัสซาด ฟู้ดส์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกาตาร์ ได้ซื้อพื้นที่เกษตรสำคัญของออสเตรเลียในช่วงปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 106 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลของตนจากตะวันออกกลางและจีน ที่เข้าไปหาซื้อพื้นที่เกษตรในประเทศ 

        อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการชุดหนึ่งของรัฐสภาได้สั่งให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ รวบรวมรายงานในเรื่องนี้แล้ว ขณะที่นายบิล ชอร์ตเทน รัฐมนตรีช่วยคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า รัฐบาลจะตรวจสอบรายงานฉบับนี้ก่อนตัดสินใจว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องปรับปรุงกฎระเบียบการถือครองทรัพย์สินของต่างชาติ

          ด้าน นายนิก ซีโนโฟน สมาชิกวุฒิสภาอิสระ กล่าวว่า กฎหมายการลงทุนของออสเตรเลีย มักไม่ได้เพ่งเล็งบริษัทหรือองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่างชาติที่เข้าไปกว้านซื้อที่ทำการเกษตร พร้อมระบุว่า ออสเตรเลียควรมุ่งขายอาหารเท่านั้น มิใช่ขายที่ทำกิน
  
      ส่วนนางคริสตีน มิลเน รองหัวหน้าพรรคกรีน กล่าวว่า ออสเตรเลียควรปกป้องที่ดินไว้สำหรับใช้ผลิตอาหารตอบสนองการบริโภคในประเทศและทั่วโลกให้มากที่สุด