
เมเจอร์ร่วมทุนเกาหลีนำร่องโรงหนัง4มิติในไทย
15 มิ.ย. 2554
การชมภาพยนตร์ในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่สัมผัสได้ด้วยภาพและเสียงเท่านั้น ซึ่งประเทศเกาหลีถือเป็นผู้นำในการฉายภาพยนต์ดิจิทัล 4 มิติแห่งแรกของโลก และเริ่มขยายออกสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งจีน เม็กซิโก
และไทยกำลังเป็นประเทศอันดับ 3 ที่จะได้มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์ระบบ 4 DX ปลายเดือนมิถุนายนนี้ โดยบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้ร่วมทุนกับบริษัท โฟร์ดีเพล็กซ์ จำกัด ในเครือซีเจ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ และมี บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส เป็นสปอนเซอร์ให้โรงภาพยนตร์ดิจิทัล 4 มิติในไทย ภายใต้ชื่อ AIS 4DX ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ระบุว่า ปีที่แล้วได้มาดูงานโรงภาพยนตร์และระบบฉายหนังแบบ 4 มิติที่เกาลีใต้ คิดว่าตลาดเมืองไทยน่าจะมีศักยภาพทำได้ ซึ่งการชมภาพยนตร์แบบ 4 มิติ มีความแตกต่างกับระบบ 3 มิติ ตรงเก้าอี้ในโรงภาพยนตร์จะมีการออกแบบมาเป็นพิเศษ พร้อมเอฟเฟกท์ถึง 24 ชนิด เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการขยับของเก้าอี้ ลมเป่า ละอองน้ำ กลิ่น แรงสั่นสะเทือน และเทคนิคอื่นๆ ที่ฉายบนจอภาพซิลเวอร์สกรีนที่ให้ภาพสมจริง ต่างจากในสวนสนุกที่จะมีเอฟเฟกท์เพียงเล็กน้อยและช่วงสั้นๆ ไม่กี่นาทีเท่านั้น
สำหรับการร่วมทุนกับบริษัทโฟร์ดีเพล็กซ์ครั้งนี้ เมเจอร์ใช้เงินกว่า 50 ล้านบาท ปรับปรุงโรงฉายภาพยนตร์เดิมโรงที่ 5 ในพารากอน ซึ่งปรับเปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ทั้งหมด 180 ที่นั่ง โดยเทคโนโลยีจะมาจากเกาหลีและแบ่งรายได้กันคนละครึ่ง คาดว่าจะเปิดให้บริการรอบแรกเรื่องแรก คือ หนังฟอร์มยักษ์ ทรานฟอร์เมอร์ ที่จะดูด้วยระบบ 4 มิติได้ที่โรงนี้เพียงโรงเดียวได้ปลายเดือนนี้ ในราคาค่าตั๋ว 300-400 บาท เทียบกับโรงปกติที่เก็บค่าตั๋ว 160-180 บาทในปัจจุบัน และโรงที่ฉายด้วยระบบ 3 ดี ราคา 240 บาท
เริ่มแรกจะเปิดเพียงโรงเดียว เพื่อทดสอบกระแสก่อน คิดว่าประมาณ 3 เดือนน่าจะประเมินผลได้ หากกระแสดีก็จะเพิ่มโรง 4 มิติที่สาขาอื่นๆ ต่อไป โดยตั้งเป้าเปิดเพิ่มปีละ 1 แห่ง มองว่าในไทยน่าจะได้รับความนิยม เพราะในเกาหลีใต้ พอมีโรงหนัง 4 มิติทำให้สามารถเรียกลูกค้ากลับมาดูหนังได้อีกครั้ง หลังจากตลาดหนังถึงจุดอิ่มตัวและซบเซา
นายวิชายอมรับว่า อุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ที่เกาหลีเปิดตัวทีหลัง แต่พัฒนาไปได้ไกลกว่าไทย และในไทยยังมีช่องทางขยายตลาดได้อีกมาก ซึ่งสิ้นปีนี้เมเจอร์จะเปิดเพิ่ม 30 โรง นอกจากนั้น เพื่อให้สอดรับกับกระแสโลกภาพยนตร์ยุคดิจิทัล เมเจอร์จึงซื้อเครื่องฉายหนังระบบดิจิทัลเข้ามาเพิ่มต่อเนื่อง จากปัจจุบันมี 35 โรง สิ้นปีนี้จะเพิ่มให้ได้ 100 โรง และภายใน 3 ปี จะเปลี่ยนได้ประมาณ 70% แม้ค่าเครื่องจะแพงกว่าปกติ แต่ต่อไปจะช่วยให้วงการหนังหรือผู้สร้างมีต้นทุนต่ำกว่าหนังที่ฉายด้วยระบบ 35 มม.