
ครบรอบ10 ปี "Wonderfruit" รวมไฮไลท์ปีนี้มีโซนไหนบ้าง?
ครบรอบ10 ปี "Wonderfruit" รวมไฮไลท์ปีนี้มีโซนไหนบ้าง กับเทศกาลนี้ได้รวบรวมศิลปิน นักออกแบบ สถาปนิก และเชฟนับพันชีวิตเจอกันที่ เดอะฟิลด์ส จ. ชลบุรี 11 – 15 ธันวาคม 2568
Wonderfruit เทศกาลแห่งศิลปะ ดนตรี ธรรมชาติ และความยั่งยืน เตรียมกลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งที่ The Fields (เดอะฟิลด์ส) ณ สยาม คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี ในระหว่างวันที่ 11 – 15 ธันวาคม 2568 ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การเฉลิมฉลองครบรอบ 10ปี แต่ยังเป็นเสมือนก้าวสำคัญสู่ยุคใหม่ในฐานะแพลตฟอร์วัฒนธรรมตลอดทั้งปี นับตั้งแต่ปี 2557 Wonderfruit ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของการผสานรวมจิตใจ เสียง และธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เทศกาลนี้ได้รวบรวมศิลปิน นักออกแบบ สถาปนิก และเชฟนับพันชีวิต เพื่อแบ่งปันการตีความและการแสดงออกทางวัฒนธรรม
สำหรับไฮไลท์สำคัญของ Wonderfruit ปีนี้ ผืนดิน ธรรมชาติ และการดูแลสิ่งแวดล้อม Wonderfruit ยังคงมุ่งเน้นการฟื้นฟูระบบนิเวศ หยั่งรากลึกในปีนี้บนพื้นที่ 500 ไร่ ที่เรียกว่า “The Fields (เดอะฟิลด์ส)” โดยจะมีการปลูกพืชท้องถิ่นเพิ่มอีก 5,000 ชนิด และพืชริมน้ำ 1,000 ต้น เสริมจากต้นไม้กว่า 30,000 ต้น
ที่ปลูกไปแล้วผ่านความร่วมมือกับชุมชนในการฟื้นฟูระบบนิเวศ Wonderfruit ได้สร้างสรรค์ (และยังคงขยายต่อไป) Ancestral Forestซึ่งประกอบด้วยงานศิลปะและพื้นที่จัดกิจกรรมที่ก่อสร้างขึ้นภายในป่า สวนสมุนไพรและป่าต้นยางนาสร้างภูมิทัศน์ธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่เปิดโอกาสให้เรียนรู้และแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพร นอกจากนี้ พืชผักที่ปลูกบนผืนดินจะถูกเก็บเกี่ยวตลอดทั้งปี เก็บรักษาและนำมาทำอาหารที่ Wonderfruit ในระบบหมุนเวียนแบบสร้างสรรค์ซึ่งไม่มีสิ่งใดกลายเป็นขยะ
ขณะเดียวกัน การลดขยะยังคงเป็นหัวใจสำคัญตามแนวทางที่เคยปฎิบัติมา เช่น นโยบายการนำแก้วมาเอง โดยปีนี้ก้าวไปไกลกว่าความพยายามนำกลับมาใช้ใหม่ไปสู่การกำจัดของเสียอย่างแท้จริง ด้วยการนำระบบบาร์ไร้ขยะแบบ Zero-Waste มาใช้และขยายระบบการทำปุ๋ยหมัก เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีขยะเหลือทิ้งไปสู่หลุมฝังกลบ (Zero Landfill) ได้อย่างเบ็ดเสร็จ
Wonderfruit เป็นส่วนสำคัญต่อการสัมผัสประสบการณ์ของงานไม่แพ้ตัวกิจกรรมเอง ด้วยสถานที่จัดงานกว่า 40 แห่งที่จัดตั้งขึ้นแล้ว ปีนี้จะมีการนำเสนอแลนด์มาร์คทางสถาปัตยกรรมใหม่ๆ อาทิ:
- Living Village (ที่ตั้งของ Creature Stage) ซึ่งได้รับการปรับโฉมใหม่โดย DesignQua studio ให้รองรับผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คนในรูปแบบเนินสนามภายในพื้นที่ภูมิทัศน์ที่ปรับแต่งใหม่สอดคล้องกับระบบเสียงที่ดียิ่งขึ้น
- Molam World ต้อนรับ Molam Theatre โรงละครไม้ถาวรที่ออกแบบโดย PO-DArchitects ซึ่งอุทิศให้กับดนตรีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีและดนตรีจากอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย) ตลอดจนเรื่องราวทางวัฒนธรรม
- Baan Bardo สถานที่ใหม่ที่ออกแบบโดยศิลปิน วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ให้เป็นเขาวงกตที่ปรับเปลี่ยนไปตามกิจกรรม ชวนจินตนาการและสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเสียง การออกแบบ และการแสดง นอกจากนี้ ยังมีการจัดวางงานศิลปะไว้ทั่วทั้ง The Fieldsเชิญชวนให้ผู้มาเยือนมีส่วนร่วมและใช้เวลาอยู่กับปัจจุบัน กระตุ้นให้ “Wonderers”ได้เปลี่ยนจังหวะชีวิตและมีปฏิสัมพันธ์กับศิลปะและกันและกัน
โดยมี Social Interventions ใหม่ที่สร้างสรรค์โดย Ab Rogers Designและนักออกแบบรับเชิญเพิ่มเข้ามาเพื่อสร้างสภา แวดล้อมที่ทั้งใช้งานได้จริงและให้ความสนุก สนาน ขณะที่ประติมากรรมโต๊ะหินโดยศิลปินไทยชื่อดังอย่าง พินรี สัณฑ์พิทักษ์ ที่ตั้งอยู่ใน
Ancestral Forest ก็จะมอบพื้นที่ให้แบ่งปันและทำกิจกรรมร่วมกันท่ามกลางธรรมชาติ ประสบการณ์ใหม่ในด้านดนตรี อาหาร และเวลเนสในปีนี้ Wonderfruit ได้ขยายขอบเขตการสำรวจว่าคลื่นความถี่และเสียงส่งผลต่อผู้ฟังทั้งทางกาย อารมณ์และจิตสำนึกอย่างไร โดยตัวงานจะนำเสนอประสบการณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
เพื่อแสดงพลังการเปลี่ยนแปลงของเสียงที่มีต่อสุขภาพกายใจและความเป็นอยู่ที่ดี โปรแกรม Sonic Minds ซึ่งสร้างสรรค์ร่วมกับ MSCTY_Studio จะขยายไปยังส่วนเพิ่มเติมของพื้นที่จัดงาน
เพื่อผสานรวมมิติของเสียงและสุขภาพเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง โดยรวบรวมเหล่านักดนตรีนักกิจกรรม นักวิทยาศาสตร์ และพระสงฆ์ มานำเสนอผ่านการบันทึกเสียงจากภาคสนาม
การทำสมาธิ และเวิร์คช็อป นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นไปที่พื้นที่การแสดงที่เหนือความคาดหมาย และสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเพื่อการฟังที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยมีศิลปินหลากหลายแนวทั้งหน้าใหม่และผู้ที่เคยมาเยือนนับร้อยชีวิต มาร่วมสร้างสรรค์การแสดงเพื่อร่วมเฉลิมฉลองกับ Wonderfruit ในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน อาหารยังคงเป็นหัวใจสำคัญของประสบการณ์ Wonderfruit โดย เชฟ Antto Melasniemi เชฟชาวฟินแลนด์ ได้ร่วมมือกับ Made by LERT และ RR Studioเป็นผู้นำการออกแบบและเปิดตัว “ครัวเคลื่อนที่” ที่จะสำรวจชุมทางของศิลปะ อาหาร
และโภชนาการ Wonder Kitchen จะย้ายไปยังจุดชมวิวที่สวยงามตรงข้ามสวนผลไม้โดยมีพื้นที่นั่งที่กว้างขวางขึ้นพร้อมวิวภูเขา และพื้นที่เวิร์คช็อปที่ขยายใหญ่ขึ้น ขณะที่ Open Kitchen จะถูกนำเสนอโดยเชฟหญิงล้วน นำโดย ป้าจัน และ Lady GooGoo
พร้อมพื้นที่สำหรับปฏิสัมพันธ์และความร่วมมือที่เพิ่มขึ้น ส่วน Molam Worldจะนำเสนอสุดยอดอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านรสชาติประจำภูมิภาคที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี
ด้านการนำเสนอเพื่อส่งเสริมสุขภาพก็เติบโตและลึกซึ้งยิ่งขึ้นในปีนี้ โดย Wondernessได้พัฒนาสู่ Torus Energy Field ซึ่งเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ใจกลาง Axis Mundi (แกนกลางของ The Fields) ที่นี่ กิจกรรมต่างๆ เช่น วงกลมการประสานหัวใจ-จิตใจ
การฝึกการเคลื่อนไหวแบบเกลียว และการทำสมาธิแบบโซมาติก
จะเชื้อเชิญให้เข้าถึงสภาวะของการอยู่กับปัจจุบันและการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หมู่บ้านสมุนไพรบำบัด ซึ่งมีรากฐานจากประเพณีไทย ได้ขยายขอบเขตด้วยวิธีการใหม่ๆ สู่ระบบนิเวศการบำบัดที่ใหญ่ขึ้น และ Alchemy Circle ที่เพิ่งเปิดตัว จะเป็นพื้นที่รวมตัวสำหรับพิธีกรรม ซึ่งความรู้เรื่องพืชพรรณจะถูกสำรวจผ่านเครื่องดื่มสมุนไพรปลอดแอลกอฮอล์และการผสมผสานจากพฤกษชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญาดั้งเดิมความร่วมมือทางการศึกษา เพื่อบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ในอนาคต
Wonderfruit ได้ร่วมมือกับ Bamboo Studio จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนไทย พร้อมสนับสนุนด้านการออกแบบและนิเวศวิทยา กลุ่มนักศึกษาสถาปัตยกรรมนี้กำลังออกแบบโครงสร้างไม้ไผ่ที่สามารถ interact ด้วยได้ที่ The
Fields ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิทยานิพนธ์กลุ่ม ภายใต้การให้คำปรึกษาร่วมกันจาก Wonderfruit, Giant Glass design studio และคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย โดยนักศึกษาจะจัดหาวัสดุพร้อมดำเนินการก่อสร้างอย่างยั่งยืน และพัฒนาแบบผลงานให้ตั้งอยู่ถาวร หรือสามารถรื้อถอนและคืนกลับพื้นที่ธรรมชาติได้
การจำหน่ายบัตรรอบ Public Sale ครั้งแรกแบบจำกัดระยะเวลา 72 ชั่วโมงจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 12 มิถุนายน 2568 เวลา 18:00 น. ตามเวลาประเทศไทย (GMT+7) โดยบัตรมีจำนวนจำกัด และการจำหน่ายจะปิดทันทีที่บัตรหมดสำหรับรอบนี้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและข่าวสารล่าสุด สามารถติดตามได้ที่ www.wonderfruit.co
สำหรับการจัดงานครั้งสำคัญนี้ จะช่วยขยายจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ ผ่านประสบการณ์ใหม่ๆ ด้านดนตรี อาหาร การแสดง สุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมการออกแบบ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น รวมถึงความมุ่งมั่นที่ลึกซึ้งกว่าเดิมต่อผืนดินแห่งนี้ ทั้งนี้ บัตรรอบ Public Sales เพื่อเข้าร่วมงานสำหรับการร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี Wonderfruit จะเปิดจำหน่ายรอบแรกระหว่างวันที่ 9–12 มิถุนายน 2568 เพียงแค่ 72 ชั่วโมงเท่านั้น โดยบัตรมีจำนวนจำกัด จึงขอแนะนำให้ซื้อล่วงหน้าเพื่อไม่ให้พลาดกับการสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุด
เกี่ยวกับ Wonderfruit
Wonderfruit จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนธันวาคม โดยเป็นเทศกาลเฉลิมฉลอง 5 วันแห่งศิลปะ ดนตรี อาหาร และแนวคิด ณ The Fields สยามคันทรีคลับ จัดโดยบริษัท Scratch First จากประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่ที่เชื่อมโยงชุมชนที่หลากหลาย ผ่านประสบการณ์ที่ผสมผสานนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการพัฒนาสังคมไปพร้อมกัน ผ่านประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ รวมถึงการแสดง เวิร์คช็อป งานศิลปะจัดวาง และอาหาร นอกจากนี้ Wonderfruit ยังได้ส่งเสริมชุมชนและความคิดสร้างสรรค์ สร้างพื้นที่แห่งความอัศจรรย์ใจ ที่ Wonderfruit วัฒนธรรมคือสิ่งผลักดันการเติบโต ในฐานะแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนตลอดทั้งปี Wonderfruit ได้ดึงดูดผู้สนใจใคร่รู้ผ่านการเชื่อมโยงระหว่างศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และความสัมพันธ์ที่มีความหมายต่อจิตใจและธรรมชาติ