Lifestyle

แจกแพลนทริป เที่ยว 'ไต้หวัน' สุดชิค ฉบับคนมีเวลาน้อย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การท่องเที่ยวไต้หวัน แจกแพลนทริปสุดชิค ล่อง 'ไต้หวัน' ภาคเหนือ 4 วัน 3 คืน เที่ยว - ชิม - ฟิน ครบตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เวลาน้อยก็เที่ยวได้

ไต้หวัน เที่ยวช่วงเวลาไหนก็ไม่น่าเบื่อ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมให้น่าค้นหาตลอดทั้งปี ซึ่งหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความความทรงจำอันทรงคุณค่าให้กับตัวเอง พร้อมกับไปผ่อนคลายช่วงกลางปี สำนักงาน การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ขอแนะนำทริป 4 วัน 3 คืน ที่ครบครันและคุ้มค่าที่ทุกคนห้ามพลาดไปกับจุดแลนด์มาร์คเด็ดประจำภาคเหนือของไต้หวัน ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่น่าค้นหา รวมถึงแหล่งของกินชื่อดังประจำไต้หวัน ฉบับคนมีเวลาน้อย รับรองว่าถูกใจสายชิม ชม ชิลล์ จนต้องร้องว้าวแน่นอน

 

เปิดทริปสุดฟินด้วยการเดินเล่นท้าแดดที่ชายหาดฝูหลง พร้อมตะลุยตลาดกลางคืนจีหลงเมี่ยวโข่วแหล่งของกินยอดฮิต

 

ชายหาดฝูหลง

 

เทศกาลประติมากรรมทรายนานาชาติฝูหลง

 

เปิดทริปกันด้วยความซู่ซ่ารับคลื่นทะเลและลมร้อนกันที่ ชายหาดฝูหลง ตั้งอยู่ที่เขตก้งเหลียว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ ไต้หวัน ใกล้กับสถานีฝูหลง เพียงเดินชมวิวไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที ก็จะได้พบชายหาดที่สวยที่สุดในไต้หวันจนถูกขนานนามว่าเป็น “ชายหาดสีทอง” ด้วยบริเวณชายหาดมีทรายสีทองเม็ดละเอียด ผืนน้ำทะเลสีฟ้าใส สามารถมองเห็นแม่น้ำซวงซี ที่ไหลลงสู่มหาสมุทรแสนกว้างไกล ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับชาวซัมเมอร์เลิฟเวอร์โดยเฉพาะ ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปีที่นี่จะมีการจัด “เทศกาลประติมากรรมทรายนานาชาติฝูหลง” เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินจากทั่วโลกได้มาโชว์ฝีมือประติมากรรมทรายสุดสร้างสรรค์ โดยธีมงานในปีนี้คือ “ฉลองครบรอบ 100 ปีดิสนีย์” พร้อมให้ตื่นตาตื่นใจกับตัวละครมากมายจัดเต็มกว่า 60 ผลงาน ความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร บอกเลยว่าห้ามพลาด

 

 

ตลาดกลางคืนจีหลงเมี่ยวโข่ว

 

ตลาดกลางคืนจีหลงเมี่ยวโข่ว

 

ยามค่ำคืนก็ไม่ต้องกลัวเหงา มีตลาดกลางคืนสุดคึกคักอย่าง ตลาดจีหลงเมี่ยวโข่ว แหล่งรวมของกินยอดฮิต แถมราคาก็เป็นมิตรแบบสุดๆ ตั้งอยู่บริเวณสถานี Keelung พร้อมให้ช้อปชิมอาหารหลากหลายสไตล์กันแบบจุใจกว่า 200 ร้าน จัดเรียงรายเต็มพื้นที่ 2 ข้างถนน ยาวกว่า 400 เมตร สำหรับร้านเด็ดที่ไม่ควรพลาด อาทิ ข้าวไก่ฉีกหรือจีโร่วซือฟ่าน, เทมปุระสไตล์ไต้หวันหรือเทียนฟู่หลัว, ติ่งเปียนซัว เป็นอาหารท้องถิ่นสไตล์ไต้หวันที่ใช้ เส้นแป้งคล้ายก๋วยจั๊บกินกับน้ำซุปใสคล้ายก๋วยเตี๋ยว, มินิเซียงฉางหรือกุนเชียงไต้หวัน เป็นต้น

 

 

เริ่มต้นวันที่ 2 ของทริปด้วยจิตใจผ่องใสที่วัดกลองธรรม ปั่นจักรยานสัมผัสบรรยากาศร่มรื่นบนรถรางเซินเอ้า และชมวิวสวยที่สวนสาธารณะจงเจิ้ง

 

  วัดกลองธรรม

 

ตื่นเช้ารับวันใหม่แสนสดใส จิตใจผุดผ่อง ถูกใจนักท่องเที่ยวสายบุญกันที่ วัดกลองธรรม วัดที่ก่อตั้งขึ้นโดยปรมาจารย์เซิ่งเหยียน และเป็นวัดแห่งแรกในไต้หวันที่เก็บรวบรวมหนังสือพระธรรมและโบราณวัตถุทางพุทธศาสนามากกว่า 300 ชิ้น รวมถึงเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางพุทธศาสนา และสถานที่ปฏิบัติธรรมอีกด้วย ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันเขียวขจี และแม่น้ำซวงซี เมื่อมองจากทิศใต้ ภูเขาด้านซ้ายจะคล้ายมังกรสีเขียวตัวใหญ่เงยหน้าขึ้นฟ้า ภูเขาด้านขวาเปรียบเสมือนเสือขาว และหากมองจากมุมบน ภูเขาลูกนี้ยังมีลักษณะเหมือนกลองขนาดยักษ์ ที่สามารถมองเห็นวิวจินซานได้ทั้งหมด จัดเป็นความน่าอัศจรรย์ใจด้านทิวทัศน์ที่สวยงาม ด้านการเดินทางสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) หรือรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงที่สถานี Taipei ต่อรถ Kuo-Kuang (กั๋วกวง) สาย 1815 (ปลายทาง Jinshan) มาลงที่ป้าย Dharma Drum Mountain

 

  เส้นทางจักรยานบนรถรางเซินเอ้า

 

เมื่อจิตใจผ่อนคลายแล้ว พาร่างกายมาผ่อนคลายต่อด้วยการปั่นจักรยานบนเส้นทางจักรยานบนรถรางเซินเอ้า Shen'ao Rail Bike อีกหนึ่งแลนด์มาร์คยอดฮิตท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นแสนสงบ ตั้งอยู่ตรงสถานี Badouzi Railway Station กิจกรรมฮิตจากทั้งชาว ไต้หวัน เองและนักท่องเที่ยวคือกิจกรรม RailBike เป็นการปั่นจักรยานบนรางรถไฟสายเก่าที่พร้อมให้เพลินเพลินไปกับทัศนียภาพทางประวัติศาสตร์ของไต้หวัน โดยรางรถไฟตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟปาโต่วจึ และสถานีรถไฟเซินเอ้า ซึ่งเส้นทางนี้ในอดีตใช้เป็นเส้นทางขนส่งน้ำตาล เกลือ และถ่านหินไปยังท่าเรือ ทำให้สถานีปาโต่วจึ จัดเป็นสถานีที่ใกล้ชายฝั่งทะเลไต้หวันที่สุด และยังเป็นชานชาลาที่ตั้งอยู่ทั้งเมืองจีหลงและนิวไทเปอีกด้วย

 

  สวนสาธารณะจงเจิ้ง

 

ก่อนกลับเข้าที่พักแนะนำให้ลองแวะไปสัมผัสกับสวนสาธารณะจงเจิ้ง ตั้งอยู่บริเวณจงเจิ้งพาร์ค สวนแห่งนี้เรียกว่าเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าขอไต้หวัน โดยมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมตั้งเด่นตระหง่าน สง่างามอยู่กลางสวน ถือว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองจีหลงเลยทีเดียว โดยภายในสวนแบ่งออกเป็น 3 โซน เพื่อให้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันยาวนานได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นโซนป้อมปืนใหญ่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โซนห้องสมุดพุทธศาสนา ศาลเจ้า และวัดจู่ผู่ถัน ซึ่งจะมีพุทธศาสนิกชนมาสักการะบูชา ในวันที่ 15 ก.ค. ของทุกปี และโซนสุดท้ายศาลากวนไห่ ที่มองเห็นทั้งเมืองจีหลงและทะเลอันสวยงาม

 

 

ส่งท้ายทริป ชิมชาต้นตำรับย่านต้าซี แวะสถาปัตยกรรมโบราณสวนหลงจิ่น พร้อมรับบทนักทำขนม DIY พายสัปปะรดสุดชิค

 

โรงงานชาต้าซี  

 

เดินทางมาจนถึงวันสุดท้ายของทริปด้วยการพักดับร้อน ดื่มชาแบบชิลล์ๆ เคล้ากับเรื่องราวอันเก่าแก่ที่ โรงงานชาต้าซี ซึ่งเป็นโรงงานที่โด่งดังในเรื่องของการผลิตชาและมีประวัติศาสตร์ด้านการชงชามาอย่างยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในปี 1926 โดยชาวญี่ปุ่น แต่ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี 1956 ทำให้โรงงานชาต้าซีได้รับความเสียหายทั้งหมด และได้กลับมาก่อสร้างโรงงานใหม่อีกครั้งช่วงปี 2010 ด้วยคุณภาพของชาที่ผ่านการพิถีพิถันในทุกขั้นตอน จนขึ้นชื่อว่าเป็นชาไต้หวันที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็น และเป็นเอกลักษณ์ดึงดูให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแวะเวียนกันมาสัมผัสรสชาดั้งเดิมในที่แห่งนี้

 

โรงงานชาต้าซี  

 

หลังจากชิมชาสุดพิเศษแล้วก็เดินทอดน่องอย่างสบายใจบนถนนโบราณต้าซี ถนนสายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ เพราะ “ต้าซี” เป็นสถานที่แห่งแรกในเมืองเถาหยวนที่มีการพัฒนาเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญกับประเทศจีน เนื่องจากสมัยโบราณตั้งแต่ราชวงค์ชิง ผู้คนสามารถเดินทางไปยังเมืองต้าซีทางเรือโดยผ่านแม่น้ำตั้นสุ่ย ในปัจจุบันย่านถนนโบราณต้าซีจึงเต็มไปด้วยร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นอาชีพแรกเริ่มของผู้คนแถวนี้ เช่น การทำเต้าหู้แห้งที่โด่งดังของต้าซี การตัดเหล็ก และงานทำหิน โดยร้านค้าต่างๆ ที่ตกแต่งในสไตล์บาร็อคญี่ปุ่น ประดับด้วยรูปปั้นแกะสลักอันสวยงาม อีกทั้งยังมีอาหารกินเล่นสไตล์ ไต้หวัน ที่ไม่เหมือนใครให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

 

สวนหลงจิ่น  

 

ถัดจากถนนต้าซีแนะนำให้เดินทางต่อมายังสถานีตงเหมิน เดินลัดเลาะเรื่อยๆประมาณ 10 นาที จะพบกับสวนหลงจิ่น เพื่อเรียนรู้ศึกษาด้านประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของไต้หวัน เดิมทีสวนหลงจิ่นเป็นบ้านพักราชการของสำนักงานอาชญากรรมไทเป แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงรีโนเวทใหม่ให้เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความโดดเด่นของตึกที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมไม้ชั้นเดียวของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยญี่ปุ่นยึดครองไต้หวันให้ได้ชมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากมายถึง 14 ร้าน เพื่อรองรับและคอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว

 

DIY พายสัปปะรด ที่โรงงานพายสัปปะรด Vigor Kobo  

 

ส่งท้ายทริปนี้ด้วยการรับบทนักทำขนม DIY พายสัปปะรดง่ายๆ ด้วยตัวเองที่โรงงานพายสัปปะรด Vigor Kobo ใครที่กำลังมองหาของฝากแฮนด์เมดสุดเก๋ หรือซื้อขนมฝากให้คนที่คุณรักจากต่างแดน แต่กลัวจะซ้ำเดิมและไม่ถูกใจผู้รับ ก็ต้องมาที่โรงงานพายสัปปะรด Vigor Kobo อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมจากนักทำขนมเหว่ยเก๋อที่สร้างโรงงานขึ้นในปี 2012 จุดเด่นคือมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร มีไกด์พาเดินทัวร์เพื่อชมทุกซอกทุกมุมของโรงงาน พร้อมให้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษหาที่ไหนไม่ได้อย่างการทำ DIY พายสับปะรดที่สามารถนำกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกได้อีกด้วย เรียกว่าจบทริปอย่างอิ่มอกอิ่มใจ ครบทุกไลฟ์สไตล์

 

 อย่างไรก็ดี แพลนดังกล่าวนับเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของ การท่องเที่ยวไต้หวัน ซึ่งยังมีสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งของกิน ย่านช้อปปิ้ง และเทศกาลต่างๆ รอให้นักเดินทางมาเยือนและเติมเต็มความสุขได้ตลอดทั้งปี สามารถติดตามข่าวสาร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของทางไต้หวัน ได้จาก https://www.taiwantourism.org/th/ หรือ ช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : Taiwan Tourism Bureau

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ